จัดทัพสู้หงส์
นี่คือคำถามที่เกิดขึ้นในใจแฟนปืนก่อนเกมสำคัญสุดสัปดาห์ เพราะด้วยสภาพทีมล่าสุดก็เป็นสิ่งที่คาดเดาได้ยากเหลือเกินว่าโฉมหน้าผู้เล่นตัวจริงจะมีใครบ้าง
มิเกล อาร์เตต้า กุนซือ อาร์เซน่อล มีปัญหาไม่น้อยในการเตรียมทีมเพื่อรับมือ ลิเวอร์พูล ซึ่งจะเป็นหนึ่งในเกมสำคัญสุดและยากสุดของฤดูกาลนี้
ลิเวอร์พูล ในเวลานี้คือทีม "จ่าฝูง" ที่เริ่มต้นยุคใหม่กับกุนซือ อาร์เน่อ สล็อต ได้ยอดเยี่ยมเกินคาดชนะถึง 11 จาก 12 นัดในทุกรายการ
ไม่เคยมีกุนซือหน้าใหม่คนใดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษที่ออกสตาร์ตได้ร้อนแรงขนาดนี้
อาร์เซน่อล จึงต้องมีทีมชุดที่ดีสุดเท่านั้นหากต้องการชัยชนะ
หลังจบเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่เบียดชนะ ชัคตาร์ โดเนทส์ค 1-0 อาร์เตต้า มีปัญหาเพิ่มเติมในรายของ ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ กองหลังทีมชาติอิตาลีที่เจ็บเพิ่มเป็นรายล่าสุด
ก่อนหน้านี้ สภาพทีมปืนใหญ่ไม่สมบูรณ์ในหลายจุดอยู่แล้วเพราะขาดตัวหลักไปหลายคนไล่ตั้งแต่ มาร์ติน โอเดการ์ด กัปตันทีมที่เจ็บจากทีมชาติตั้งแต่เดือนกันยายน
โอเดการ์ด ต้องพักอีกสักระยะกว่าจะกลับมาลงสนามได้เพราะตอนนี้ยังไม่สามารถกลับมาซ้อมร่วมกับเพื่อนร่วมได้เลย
ขณะที่ บูคาโย่ ซาก้า ปีกตัวเก่ง, เจอร์เรียน ทิมเบอร์ กองหลังชาวดัตช์, ทาเคฮิโระ โทมิยาสึ กองหลังชาวญี่ปุ่น หรือกระทั่ง คีแรน เทียร์นีย์ ต่างมีปัญหาบาดเจ็บทั้งหมด
อาร์เซน่อล ต้องลุ้นหนักกับความฟิตของ ซาก้า
และต้องไม่ลืมว่า วิลเลียม ซาลีบา เซนเตอร์ตัวเก่งไม่สามารถลงสนามเจอ ลิเวอร์พูล ได้แน่นอนเพราะติดโทษแบนจากใบแดงในเกมกับ บอร์นมัธ เมื่่อสัปดาห์ที่แล้ว
เบน ไวท์ เป็นอีกรายที่ถูกเปลี่ยนตัวออกหลังจบพักครึ่งจนหลายคนแอบกังวลว่างานเข้าบาดเจ็บอีกราย แต่โชคดีที่ อาร์เตต้า เปิดเผยในเวลาต่อมาว่าจำเป็นต้องถอดเพราะติดใบเหลืองในครึ่งแรก มีความสุ่มเสี่ยงจะโดนไล่ออกในครึ่งหลัง
หลายนัดที่ผ่านมา อาร์เซน่อล ลงเล่นด้วยตัวผู้เล่นที่น้อยกว่าคู่แข่งมามากพอแล้ว จึงไม่อยากเสี่ยงมีใบแดงอีก ไวท์ จึงถูกถอดไปพักก่อนใครเพื่อน และเขาจะพร้อมช่วยทีมในเกมกับหงส์แดงสุดสัปดาห์นี้
ในตอนแรกคาดกันว่าทั้ง ซาก้า, ทิมเบอร์ และ คาลาฟิออรี่ จะไม่สามารถช่วยทีมได้ ทำให้ขาดตัวหลักถึง 5 ตำแหน่งเมื่อรวมกับ โอเดการ์ด และ ซาลีบา รวมถึงกำลังเสริมอย่าง ทาเคฮิโระ โทมิยาสึ
เกมรับจึงเหลือเพียง กาเบรียล มากัลเญส และ เบน ไวท์ ที่เป็นตัวหลัก โดยที่ กาเบรียล ยืนหนึ่งในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ก แต่คู่หูของเขายังไม่รู้ว่าเป็นใคร
ยาคุบ คีวิออร์ เป็นเซนเตอร์อีกคนที่ฟิตพร้อมลงสนาม แต่จากฟอร์มการเล่นในเกมกับ บอร์นมัธ ที่ถูกถอดออกช่วงท้ายทั้งที่เพิ่งลงสำรองในช่วงที่ทีมเหลือ 10 คน ก็บ่งบอกว่าชัดเจนว่าไม่ใช่ตัวเลือกที่น่าไว้วางใจ
แนวรับทีมชาติโปแลนด์ดูจะเสียความมั่นใจใม่น้อยหลังมีส่วนผิดพลาดจนทีมเสียจุดโทษลูกสอง อีกทั้งการเป็นเซนเตอร์ถนัดเท้าซ้ายเช่นเดียวกับ กาเบรียล ก็ไม่ใช่การจับคู่ที่ลงตัวนัก
วิลเลียม ซาลีบา จะพลาดช่วยทีมเพราะติดโทษแบน
ทางเลือกต่อมาในตำแหน่งนี้คือ เบน ไวท์ ต้องขยับมายืนเซนเตอร์ร่วมกับ กาเบรียล เหมือนในยุคแรกที่ย้ายมาร่วมทีม
ไวท์ เล่นได้แน่นอนเพราะเคยเล่นมาแล้ว แต่ปัญหาคือตำแหน่งแบ็กขวาก็จะมีปัญหาเนื่องด้วย โทมิยาสึ กับ ทิมเบอร์ ไม่พร้อม
โธมัส ปาร์เตย์ ที่เคยเล่นแบ็กขวาจำเป็นในหลายต่อหลายครั้ง จะทำหน้าที่ตรงนี้ได้หากว่าต้องใช้งาน ไวท์ ในตำแหน่งปราการหลังตัวกลาง
แต่ตรงกลางที่ขาด ปาร์เตย์ ก็จะได้รับผลกระทบต่อเนื่องตามกันไปเพราะหากไม่เจ็บไข้ได้ป่วย กองกลางทีมชาติกานาจะลงตัวจริงแทบทุกนัดอยู่แล้ว
ฤดูกาลนี้ ปาร์เตย์ รักษาสภาพร่างกายได้ดีเหลือเชื่อ แทบไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ ทั้งที่เพื่อนร่วมทีมต่างสลับสับเปลี่ยนกันล้มหมอนนอนเสื่อ
หากจำเป็นต้องใช้แนวทางนี้คือ ไวท์ ขยับไปเล่นเซนเตอร์ และ ปาร์เตย์ เล่นแบ็กขวา จอร์จินโญ่ กองกลางจอมเก๋าทีมชาติอิตาลีอาจได้โอกาสลงตัดเกมตรงกลาง
แน่นอนว่าด้วยฟอร์มการเล่นตอนนี้ จอร์จินโญ่ เป็นรอง ปาร์เตย์ ชัดเจน และยิ่งต้องมาเจอกับ ลิเวอร์พูล ที่แดนกลางแน่นปึ้กทั้ง ไรอัน กราเฟ่นแบร์ก กับบทบาทหมายเลข 6 ที่ดีวันดีขึ้น รวมถึง อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ และ เคอร์ติส โจนส์ ที่กำลังเล่นได้ดี จอร์จินโญ่ จะรับมือได้หรือไม่
ยังไม่ชัวร์ว่า เบน ไวท์ จะได้เล่นแบ็กขวา
ถ้าไม่ใช่กองกลางจอมเก๋าชาวอิตาเลียน มิเกล เมริโน่ ตัวใหม่ทีมชาติสเปนจะเป็นอีกตัวเลือกในแดนกลาง แต่ช่วงนี้เจ้าตัวอยู่ระหว่างการปรับตัวหลังเพิ่งย้ายมาร่วมทีม และเพิ่งลงเล่นได้ไม่กี่นัดหลังโชคร้ายบาดเจ็บระหว่างซ้อมจนต้องรอเดบิวต์อยู่หลายสัปดาห์
การขยับไปเล่นเซนเตอร์ของ เบน ไวท์ จึงกระทบชิ่งส่งผลทั้งแบ็กขวาและกองกลางที่อาจเสียสมดุลไป
เช่นเดียวกับตำแหน่งแบ็กซ้ายที่ช่วงหลัง คาลาฟิออรี่ ปรับตัวเข้ากับทีมได้เร็ว และยึดตำแหน่งตัวจริงได้ถาวร
ตามตำแหน่งแล้ว โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ควรได้ลงเล่นโดยอัตโนมัติเพราะเคยเป็นตัวจริงมาก่อน แต่ฤดูกาลนี้สภาพร่างกายไม่สมบูรณ์นัก และเพิ่งได้ลงเล่นเพียงแค่ 2 นัดซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนสิงหาคมนู้นเลย
ซินเชนโก้ ไม่ได้ลงสนามมาเกือบสองเดือนเต็ม การกลับมาลงเล่นอีกครั้งในเกมใหญ่ที่เต็มไปด้วยความกดดันอย่างการเจอ ลิเวอร์พูล จึงเป็นการเสี่ยงไม่น้อย และด้วยสไตล์การเล่นของเจ้าตัวก็ต้องยอมรับว่ายังขาดความละเอียดในเกมรับ และผิดพลาดบ่อยครั้ง
การรับมือเกมรุกฝั่งขวาของ ลิเวอร์พูล ที่มี โมฮาเหม็ด ซาลาห์ คอยลากเลื้อยคือหนึ่งในโจทย์ยากสุดสำหรับกุนซือทุกคน เช่นเดียวกับ มิเกล อาร์เตต้า ที่คิดหนักไม่น้อย
ถ้าไม่ใช่ ซินเชนโก้ ทางเลือกอื่นคือดาวรุ่งอย่าง ไมล์ส ลูอิส-สเคลลี่ ที่ถูกดันขึ้นชุดใหญ่ในฤดูกาลนี้
อาร์เตต้า มีเรื่องต้องคิดเยอะในการดวลกึ๋นกับ สล็อต
ดาวรุ่งวัย 17 ปี ประเดิมสนามในฐานะตัวจริงในเกมลีก คัพ ที่ชนะ โบลตัน 5-1 ก่อนเป็นสำรองทั้งในเกมยุโรปที่พบ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ ชัคตาร์ รวมถึงบิ๊กแมตช์พรีเมียร์ลีกที่ลงช่วงท้ายช่วยทีมอุดประตูในเกมเสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
หลายคนเชียร์เจ้าหนู ลูอิส-สเคลลี่ ให้เบียดลงตัวจริงเจอกับ ลิเวอร์พูล เพราะแม้ประสบการณ์น้อยกว่า ซินเชนโก้ แต่เรื่่องความมั่นใจและความห้าวหาญเกินวัยคือคุณสมบัติที่มองข้ามไม่ได้
แต่ก็นั่นแหละ นักเตะที่เพิ่งขึ้นมาจากทีมเยาวชน จะได้เป็นตัวจริงนัดแรกในเกมใหญ่กับ ลิเวอร์พูล เลยก็นับเป็นการก้าวขั้นไม่น้อย
ถ้าเอาตัวรอดแจ้งเกิดได้ก็ดีไป แต่อีกมุมก็มีความเสี่ยงสูงที่อาจเสียผู้เสียคนไปเลยโดยเฉพาะกับการเจอ โม ซาลาห์
มิเกล อาร์เตต้า จึงคิดแล้วคิดถึงในการจัดทัพกับขุมกำลังและความพร้อมล่าสุดที่มี และในขณะเดียวกันก็คาดหวังจะมีตัวช่วยอื่นเพิ่มเติม
มีแสงสว่างเล็กๆ ให้เป็นความหวังเมื่่อ อาร์เตต้า เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ซาก้า กับ ทิมเบอร์ สามารถกลับมาซ้อมได้แล้ว
ทั้งคู่ฟิตทันเกมในวันอาทิตย์นี้หรือไม่ยังเป็นเครื่องหมายคำถาม แต่นับว่าเป็นสัญญาณที่ดีมากๆ ว่าอาจมี "เซอร์ไพรส์"
ซินเชนโก้ ไม่ได้ลงเล่นมาเกือบสองเดือนแล้ว
ส่วนรายของ คาลาฟิออรี่ ก็ไม่ได้เจ็บหนักอย่างที่คาดกันตอนแรก แต่โอกาสลงสนามอาจน้อยกว่า ซาก้า และ ทิมเบอร์
รายของ ซาก้า และ ทิมเบอร์ ไม่ว่าใครกลับมาช่วยทีมได้ก็นับเป็นข่าวดีอย่างยิ่งเพราะ ซาก้า คือผู้เล่นที่สำคัญมากในเกมรุก
ช่วงที่ขาดหายไป เกมรุกฝั่งขวาของ อาร์เซน่อล มีปัญหาจริงๆ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง กับ กาเบรียล เชซุส ยังไม่ตอบโจทย์เท่าที่ควร ยิ่งการไม่มี โอเดการ์ด ที่เล่นร่วมกันอยู่แล้วด้วย ยิ่งลดความอันตรายไปอย่างมาก
ถ้า ซาก้า ฟิตไม่ทันจริงๆ อาร์เตต้า ก็อาจเลือกใช้ เชซุส ทำหน้าที่อีกนัดเหมือนเกมยุโรปล่าสุด และให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ กับ เลอันโดร ทรอสซาร์ จับคู่กันในแดนหน้า ส่วนฝั่งซ้ายมี กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ประจำการอยู่แล้ว
ขณะที่ ทิมเบอร์ ก็สารพัดประโยชน์ในเกมรับ และสามารถเสียบตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กที่เป็นรอยโหว่ในตอนนี้ได้ทันที
อาร์เตต้า ยังมีเวลาอีก 1-2 วันในการประเมินความฟิตของ ซาก้า และ ทิมเบอร์ ก่อนหงายไพ่ 11 ตัวจริงรับมือ ลิเวอร์พูล
อาร์เซน่อล เจอ ลิเวอร์พูล มีความน่าสนใจในตัวมันเองอยู่แล้วด้วยการเป็นเกมใหญ่ของทีมที่พร้อมลุ้นแชมป์กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
มิเกล อาร์เตต้า จะเพิ่มความน่าสนใจ หรือมีเซอร์ไพรส์ใดตั้งแต่ประกาศรายชื่อตัวจริง เป็นสิ่งที่น่าติดตามจริงๆ
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT