โป้งเดียวจอด
อาร์เซน่อล แพ้ นิวคาสเซิ่ล แบบไร้ข้อโต้แย้ง และไม่ได้มีปัจจัยอื่นอย่างการได้ใบแดงจนเหลือผู้เล่นน้อยกว่าคู่แข่งเหมือนหลายนัดที่สะดุดฤดูกาลนี้่
ทีมของ มิเกล อาร์เตต้า เล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานที่เคยทำได้ ขาดความดุดัน และไม่สามารถสร้างโอกาสได้มากพอ นักวิจารณ์ต่างรุมสับว่าไม่มีฟอร์มของทีมลุ้นแชมป์
ประตูแรกและประตูเดียวจากลูกโหม่งของ อเล็กซานเดอร์ อีซัค ตั้งแต่ช่วงต้นเกม เป็นความสมบูรณ์แบบที่มากพอชี้ขาดชัยชนะของเกมได้
ในช่วงเริ่มเกมที่ อาร์เซน่อล กำลังเซตบอลเพื่อเล่นในเกมของตัวเองให้ต่อเนื่อง นิวคาสเซิ่ล กลับเป็นฝ่ายได้ประตูออกนำก่อนจากการเข้าทำจะแจ้งจังหวะแรก
แอนโธนี่ กอร์ดอน ได้จังหวะเปิดบอลจากฝั่งขวาเข้าเขตโทษ น้ำหนักและทิศทางชั่งตวงมาจากบ้าน อีซัค สอดขึ้นะหว่างคู่เซนเตอร์ กาเบรียล มากัลเญส และ วิลเลียม ซาลีบา ก่อนโขกสะบัดผ่านมือ เดวิด ราย่า เข้าไปอย่างเด็ดขาด
ที่ผ่านมา อาร์เซน่อล มักเป็นฝ่ายโจมตีคู่แข่งด้วยลูกตั้งเตะในหลากหลายวิธีการ และส่วนใหญ่จบด้วยการโหม่ง แต่ครั้งนี้พวกเขาโดน นิวคาสเซิ่ล โจมตีในแบบเดียวกันโดยที่ไม่มีทางรับมือได้เลยเพราะเป็นการเข้าทำที่ยอดเยี่ยมทั้งคนเปิดและคนโหม่ง
ลูกโหม่งอันยอดเยี่ยมของ อีซัค
นอกจากเป็นประตูที่สวยงามสมบูรณ์แบบแล้ว ยังทำให้โมเมนตัมของเกมเปลี่ยนไปเลย
มิเกล อาร์เตต้า บอกหลังเกมว่า "เราเริ่มเกมได้ดีจริงๆ ผมคิดว่าเราเหนือกว่านะ เราดูเฉียบคม ดูตื่นตัว แต่จากนั้นในจังหวะเดียวกับการเล่นไดเรคต์ก่อนเก็บบอลจังหวะสองได้ซึ่งพวกเขาทำได้ดีอยู่แล้ว และจัดการวางบอลหลังแนวรับด้วยการเปิดและจบที่น่าทึ่ง"
"หลังจากนั้นโมเมนตัมของเกมก็เปลี่ยนไป พลังงานไม่เหมือนเดิม พวกเขารู้ว่าเราจะเล่นอย่างไร และมันชัดเจนว่าคุณมีสองทางเลือกในเกมแบบนี้"
นิวคาสเซิ่ล ได้ประตูนำที่ต้องการ และได้เร็ว ทำให้สามารถเลือกเล่นเกมรับและรอจังหวะสวนกลับในแบบที่ตัวเองถนัดได้
แม้เกมรับในปัจจุบันไม่ได้เหนียวแน่นเหมือนช่วงแรกที่ เอ็ดดี้ ฮาว เข้ามาทำทีม แต่ก็ยังถือว่าแกร่งพอตัวโดยเฉพาะการเล่นในรังเซนต์ เจมส์ ปาร์ค ที่แพ้เกมลีกเพียงนัดเดียวจาก 12 นัดหลังสุด
ลูกทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว เข้าถึงบอลเร็วในจังหวะ 50-50 แต่ไม่ได้เล่นหนักทุกดอก พวกเขาฟาวล์แบบตอดนิดตอดหน่อยเพื่อรบกวนการเล่นของทีมเยือนไม่ให้ได้ต่อบอลถนัด
เกมรุกของ อาร์เซน่อล จึงขาดความต่อเนื่อง และจ่ายบอลเสียเยอะมาก ขณะที่หลายคนก็ไม่ได้อยู่ในฟอร์มการเล่นที่ดี
นิวคาสเซิล มีปัญหาตัวหลักเจ็บจนส่งผลต่อฟอร์มการเล่นที่ไม่ชนะใครในลีกมา 5 นัดติดก่อนลงสนาม เป็นสถานการณ์ที่ไม่ต่างจาก อาร์เซน่อล แต่นัดนี้ทัพสาลิกาสามารถจัดการทรัพยากรที่มี และเล่นได้ตามที่ตัวเองต้องการได้ดีกว่า
ส่วนทีมของ มิเกล อาร์เตต้า การต้องถอย โธมัส ปาร์เตย์ ไปเล่นแบ็กขวาที่กำลังมีปัญหา ทำให้แดนกลางดร็อปลงชัดเจน ไม่สามารถคอนโทรลการเล่นได้
มิเกล เมริโน่ ปั้นเกมไม่ได้ในการเจอทีมเก่า
เดแคลน ไรซ์ ต้องกลับไปเล่นในบทบาทหมายเลข 6 ที่เน้นเกมรับเพื่อให้ มิเกล เมริโน่ เด็กเก่านิวคาสเซิ่ล ลงเล่นในตำแหน่งหมายเลข 8
เมริโน่ เพิ่งทำประตูแรกในการเล่นให้ อาร์เซน่อล ในเกมบิ๊กแมตช์กับ ลิเวอร์พูล แต่การเล่นโดยรวมยังต้องปรับตัวเข้ากับทีมอีกมากเพราะการย้ายมาใหม่ และเพิ่งฟื้นจากอาการบาดเจ็บไม่นาน
กองกลางทีมชาติสเปนไม่สามารถทำเกมจากแดนกลางได้เพราะโดนเข้าถึงเร็ว แรงเบียดแรงปะทะเมื่อต้องชน บรูโน่ กิมาไรส์ กับ โชลินตอน
ขณะที่การเล่นของ เลอันโดร ทรอสซาร์ กับ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ก็ไม่ได้สร้างสรรค์เกมให้ทีมมากพอ บางจังหวะมีโอกาสจะแจ้งแล้วแต่ก็ทำเสียของไปเอง เห็นได้ชัดว่าไม่มีความนิ่ง ความเยือกเย็นในสถานการณ์ที่กดดัน
"เราทำได้ไม่ดีพอ และไม่มากพอที่จะตอบโต้เพื่อเอาตัวรอดให้ได้โดยเฉพาะการสร้างความอันตรายอย่างที่ต้องการ
"มันไม่มากพอที่จะเปลี่ยนแปลงเกมและชนะได้ มันเป็นส่วนที่น่าหงุดหงิด แต่ก็ต้องให้เครดิตคู่แข่งในสิ่งที่พวกเขาทำด้วย" อาร์เตต้า ยอมรับ
อาร์เซน่อล ได้ยิงตรงกรอบครั้งเดียวตลอดทั้งเกมจาก เมริโน่ ที่บอลจังหวะสองตกเข้าทางได้ยิงจ่อๆ แต่ก็ติดบล็อก
การเล่นของปืนใหญ่มากดดันเจ้าถิ่นได้แบบจริงจังคือช่วงยี่สิบนาทีสุดท้ายที่ตัดสินใจเข็น เบน ไวท์ ลงมาเล่นแบ็กขวาเพื่อให้ ปาร์เตย์ กลับไปเล่นตรงกลางในบทบาทหมายเลข 6 และทำให้ ไรซ์ ได้เล่นหมายเลข 8
ไรซ์ จึงได้โอกาสเติมเกมรุกอย่างที่ต้องการก่อนสร้างโอกาสให้ทีมได้ลุ้นสองครั้งทั้งจังหวะพาบอลลุยแหวกไปซัดเองหลุดกรอบ และสอดมาโขกลูกเปิดของ บูคาโย่ ซาก้า หลุดเสาน่าเสียดาย
ท้ายที่สุด อาร์เซน่อล ไม่สามารถทำอะไรคืนได้ และต้องยอมรับความปราชัยนัดที่สองในฤดูกาล
ประตูเดียวของ อีซัค สำคัญและล้ำค่าสำหรับ นิวคาเซิ่ล และช่วงเวลาเกือบ 80 นาทีหลังขึ้นนำก่อนก็รับมือกับเกมรุก อาร์เซน่อล ได้ดี และมีจังหวะสร้างความอันตรายจนเกือบยิงเพิ่มได้อีกพอสมควร
ทัพสาลิกากลับมาชนะรอบ 6 นัดหลังสุด แต่ปืนใหญ่ไม่ชนะเป็นนัดที่ 3 ติดต่อกัน จนตอนนี้หล่นมาอยู่ที่ 5 ของตาราง
แม้ แมนฯ ซิตี้ สะดุดแพ้ บอร์นมัธ ไม่น่าเชื่อ แต่ก็ไม่ได้ทำให้สถานการณ์ของ อาร์เซน่อล ดีขึ้นมากนักเพราะยังมี ลิเวอร์พูล ที่เกือบหลับแต่กลับมาได้แซงชนะ ไบรท์ตัน ตามเป้าทำให้ขึ้นนำจ่าฝูง และอยู่ห่างทีมปืนใหญ่ 7 คะแนนหลังผ่าน 10 นัดแรกของฤดูกาล
อย่างที่ อาร์เตต้า ว่าเอาไว้หลังเกม อาร์เซน่อล ต้องมองและทบทวนตัวเองเป็นหลักเพราะปัญหาที่ส่งผลต่อฟอร์มการเล่นและผลการแข่งขันในตอนนี้มาจากตัวเองล้วนๆ
ปัญหาตัวเจ็บก็ส่วนหนึ่งมีผลอยู่แล้ว แต่คุณภาพในการเล่น และความกระหายในการเอาชนะคู่แข่ง ควรต้องมีมากกว่านี้
ฤดูกาลนี้ยังเหลือเส้นทางอีกยาวไกลพอสมควร มีคะแนนอีกเพียบให้ได้ตามเก็บ แต่หากเล่นได้แบบนัดล่าสุดก็คงยากยิ่งกว่าเดิมหลายเท่าแน่หากยังต้องการลุ้นแชมป์
แถมข่าวล่าสุดที่ว่า เอดู ผู้อำนวยการกีฬาของสโมสรเตรียมอำลาทีม ก็ยิ่งทำให้บรรยากาศหม่นหมองไปกันใหญ่ และมีเสียงถอนหาใจดังๆ เกิดขึ้นพร้อมกันทั่วเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ในตอนนี้
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT