มาร์ค โอเวอร์มาร์ส : จรวดทางเรียบจากแดนกังหัน

ด้วยดีกรีแชมป์ยุโรปร่วมกับ อาแจ็กซ์ ในปี 1995 พ่วงระดับทีมชาติคว้ารางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมฟุตบอลโลก 1994 ส่งผลให้ปีกชาวดัตช์ได้รับความคาดหวังไม่น้อยเมื่อย้ายสู่ถิ่น ไฮบิวรี่ ในค่าตัวราว 5-7 ล้านปอนด์ซึ่งไม่ถูกเลยในยุคนั้น

ขณะที่ เวนเกอร์ เชื่อมั่น โอเวอร์มาร์ส มีอนาคตสดใสรออยู่ บนวัยเพียง 24 ปีแต่ผ่านประสบการณ์รับมือความกดดันจากการลงเล่นให้สโมสรใหญ่มาแล้ว

แต่กระนั้นด้วยชื่อเสียงสนนค่าตัว บวกกับหน่วยก้านสูงเพียง 1.73 เมตรทำให้มีบางเสียงวิจารณ์ตั้งแง่สงสัยว่าจะไหวหรือไม่กับเกมฟุตบอลหนักหน่วงบนเกาะอังกฤษ

ในยุคนั้น อาร์เซน่อล เป็นทีมที่มีเกมรับเป็นแข้งอังกฤษทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น โทนี่ อดัมส์, มาร์ติน คีโอว์น, สตีฟ โบลด์, ไนเจล วินเทอร์เบิร์น และ ลี ดิ๊กซั่น พร้อมกับผู้รักษาประตูอย่าง เดวิด ซีแมน

ขณะที่แดนกลางนำโดย ปาทริค วิเอร่า และ เอ็มมานูเอล เปอตีต์ ที่ย้ายมาพร้อม โอเวอร์มาร์ส ส่วนเกมรุกมี เดนนิส เบิร์กแคมป์ กับ เอียน ไรท์ เป็นคู่กองหน้าตัวหลัก โดยมี นิโกล่าส์ อเนลก้า เป็นกำลังเสริม ส่วน โอเวอร์มาร์ส สามารถยึดเกมรุกฝั่งซ้ายตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีม

  โอเวอร์มาร์ส ประเดิมสวมเสื้อปืนใหญ่เป็นทางการในนัดเปิดม่านเสมอ ลีดส์ ยูไนเต็ด 1-1 ก่อนเบิกสกอร์แรกได้ในแมตช์ที่ 3 บุกชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 3-1 รวมถึงซัดอีก 2 ประตูถล่ม เวสต์แฮม ในบ้าน 4-0 ขยับขึ้นจ่าฝูงเป็นครั้งแรกของฤดูกาล

ย้ายมาพร้อม เอ็มมานูเอล เปอตีต์

ถึงแม้ปลายปี อาร์เซน่อล ฟอร์มแผ่วแพ้ แบล็คเบิร์น 1-3 จนหล่นอยู่ที่ 5 แต่เมื่อขึ้นปีใหม่ โอเวอร์มาร์ส ก็ระเบิดฟอร์มเก่งไปพร้อมๆ กับทั้งทีมเลย เขาเหมาคนเดียว 2 ประตูในเกมเปิดรังเฉือน ลีดส์ 2-1 จนถึงเดือนมีนาคม ทีมเดอะ กันเนอร์ส เริ่มติดเครื่องก่อนเก็บชัยชนะที่เหมือนเป็นอีกจุดเปลี่ยนของฤดูกาลด้วยการบุกชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ถึง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 1-0 ซึ่งประตูชัยก็มาจากปีกจรวดดัตช์คนนี้นี่เอง

หลังจบเกมนั้น อาร์เซน่อล ลดช่องว่างตามทีมปีศาจแดงเหลือ 6 คะแนนโดยมี 3 เกมแข่งในกำมือ เดือนต่อมาขุนพลปืนโตปาดหน้าแซงจนได้ ก่อนคว้าแชมป์ลีกหลังจากเข้าเบรกชนะ 10 นัดรวดในเกมถล่ม เอฟเวอร์ตัน 4-0 ซึ่ง โอเวอร์มาร์ส กดเบิ้ลตาข่ายได้อีกแล้ว

ในนัดชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ พบกับ นิวคาสเซิ่ล ก็เป็น โอเวอร์มาร์ส ฝากผลงานน่าประทับใจ สอยประตูเบิกร่องในนาทีที่ 23 บวกกับ นิโกล่าส์ อเนลก้า อีกเม็ดพาทีมปืนใหญ่ผงาดดับเบิลแชมป์

อาร์แซน เวนเกอร์ เอ่ยปากชมจอมเลื้อยเจ้าของฉายา "โร้ด รันเนอร์" เสียยกใหญ่หลังผ่านขวบปีแรกที่ยิงไป 12 ประตูในลีก และ 16 ประตูทุกรายการ

"ทั่วทั้งยุโรปคิดว่า โอเวอร์มาร์ส หมดสภาพไปแล้วเพราะอาการเจ็บเข่า แต่เขายิงได้เสมอในเกมสุดสำคัญเท่าที่เราพบเจอในฤดูกาลนี้ เขามีหัวจิตหัวใจสุดเข้มแข็ง เขาเป็นนักเตะระดับโลก"

ยิงประตูสำคัญบุกชนะปีศาจแดง

จุดเด่นของ มาร์ค โอเวอร์มาร์ส ที่พา อาร์เซน่อล คว้าดับเบิ้ลแชมป์ตั้งแต่ฤดูกาลแรกคือ ความเร็วที่หาตัวยาก ในเวลาที่ได้ติดเครื่อง บรรดากองหลังก็เตรียมวิ่งตามได้เลยเพราะประกบยากมากด้วยการที่ปีกชาวดัตช์เล่นได้คล่องแคล่วทั้งสองเท้า และเปลี่ยนสเต็ปการวิ่งอยู่ตลอด นอกจากนี้ก็มีจังหวะสอดเข้าไปทำประตูที่เฉียบคมอีกด้วย

  ฤดูกาล 1998/99 โอเวอร์มาร์ส ยังต่อยอดฟอร์มเยี่ยม ยิงนำร่องไล่ต้อน แมนฯ ยูไนเต็ด 3-0 คว้าโล่การกุศล แชริตี้ ชิลด์ พ่วงรางวัล "แมน ออฟ เดอะ แมตช์" ถัดมานัดเปิดพรีเมียร์ลีกก็ซัดได้อีกช่วยทีมเฉือน น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 2-1

อย่างไรก็ตามประสบการณ์แชมเปี้ยนส์ ลีก ครั้งแรกร่วมกับทีมปืนใหญ่นั้นกลับไม่น่าจดจำซะเลยเมื่อต้องหยุดเส้นทางไว้เพียงรอบแรก มิเท่านั้นในเกมชี้ชะตาสำคัญที่แพ้ ดินาโม เคียฟ โอเวอร์มาร์ส ยังโชคร้ายได้รับบาดเจ็บอีกต่างหาก

ถึงต้นปีในรายการ เอฟเอ คัพ ปีกจรวดดัตช์ยิงประตูคว้าชัยเหนือ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 2-1 แบบอื้อฉาวเนื่องจากจังหวะนั้นมีนักเตะทีมดาบคู่นอนเจ็บอยู่ และทันใดนั้นเอง เวนเกอร์ ได้เสนอให้แข่งรีเพลย์ ก่อนที่สมาคมฟุตบอลอังกฤษเห็นพ้องด้วย แล้วก็ยังคงเป็นทีมปืนใหญ่คว้าชัยเข้ารอบด้วยสกอร์เดิม

คราวนี้ โอเวอร์มาร์ส ทำประตูขึ้นนำ แต่ท้ายที่สุด อาร์เซน่อล ก็ยุติภารกิจป้องกันแชมป์ลงในรอบรองชนะเลิศด้วยน้ำมือ แมนฯ ยูไนเต็ด เช่นเดียวกับพรีเมียร์ลีก

ซีซั่นต่อมาในเดือนพฤศจิกายน โอเวอร์มาร์ส ทำแฮตทริกแรกให้กับ อาร์เซน่อล ในเกมเหย้าพบ มิดเดิ้ลสโบรช์ แต่ต้นปีถัดมาดวงแตกข้อเท้าบิดพักนานถึง 6 สัปดาห์ แล้วในช่วงที่เขาร้างสนามไปนั้นปรากฎว่าทีมโดนทิ้งแต้มไม่เห็นฝุ่น สุดท้าย แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ป้องกันแชมป์ลีกไว้ได้อีกสมัย

ถึงกระนั้นลูกทีมของ เวนเกอร์ ยังจบฤดูกาลได้อย่างน่าประทับใจ คว้าชัย 8 นัดรวดระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ขยับพรวดจากที่ 5 จบอันดับรองแชมป์

ซัลโวประตูใส่นิวคาสเซิ่ลในนัดชิงเอฟเอ คัพ 1998

แต่งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกราเมื่อ โอเวอร์มาร์ส ลงเล่นนัดสุดท้ายให้ทีมปืนใหญ่ในนัดชิงยูโรปา ลีก แพ้ดวลจุดโทษ กาลาตาซาราย ปิดฉากด้วยสถิติ 40 ประตูใน 142 เกมทุกรายการ

ในฤดูร้อนปี 2000 หลังจบศึกยูโรที่ ฮอลแลนด์ เป็นเจ้าภาพร่วม โอเวอร์มาร์ส เก็บกระเป๋าย้ายไป บาร์เซโลน่า พร้อมกับ เอ็มมานูเอล เปอตีต์ แต่ตามภาพรวมไม่ประสบความสำเร็จเท่าสมัยอยู่ อาร์เซน่อล เนื่องด้วยปัญหาบาดเจ็บเรื้อรังส่วนหนึ่ง

โอเวอร์มาร์ส ใช้เวลา 4 ปีในรั้ว คัมป์ นู ก่อนย้ายกลับบ้านเกิดร่วมทีม โก อเฮด อีเกิ้ลส์ ต้นสังกัดแรกในอาชีพ และแขวนเกือกตอนจบซีซั่น 2007/08

ในปี 2008 เช่นกัน โอเวอร์มาร์ส ได้รับการโหวตจากแฟนบอลติดอันดับ 12 สุดยอดนักเตะในประวัติศาสตร์สโมสร ถือว่าเขาชนะใจเหล่ากูนเนอร์สโดยถ้วนทั่วแม้ใช้เวลาร่วมกันไม่มาก 3 ฤดูกาลด้วยกัน

โอเวอร์มาร์ส กล่าวถึงการเล่นให้ อาร์เซน่อล ว่าเป็นช่วงเวลาที่สุดในอาชีพ "ในตอนนั้น พวกเราเล่นฟุตบอลด้วยความรู้สึกที่ว่า ไม่มีใครเอาชนะเราได้ และแน่นอนว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในอาชีพนักฟุตบอลของผมและครอบครัวของเช่นกัน"