ปาร์เตย์ รีบอร์น : เกิดใหม่ในร่างทอง

มันน่าแปลกเพราะก่อนหน้าฤดูกาลนี้ ปาร์เตย์ คือหนึ่งในนักเตะที่มีปัญหาสภาพร่างกายมากสุดในทีม ประมาณว่าเล่น 2 นัดพัก 3 นัด หายเจ็บกลับมาได้แป๊บเดียวก็เจ็บซ้ำอีก วนเวียนอยู่แบบนี้ 

ฤดูกาลที่แล้ว ปาร์เตย์ ลงสนามไปเพียง 16 นัดจากทุกรายการ หากนับเฉพาะสองถ้วยหลักอย่างพรีเมียร์ลีกและยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็เป็นตัวจริงเพียง 9 นัดเท่านั้น และไม่สามารถทำประตูได้เลย

เรียกได้ว่ามีส่วนร่วมกับทีมน้อยมาก และก่อนเริ่มฤดูกาลนี้ หลายคนก็เชื่อว่าน่าจะเป็นฤดูกาลสุดท้ายของเจ้าตัวในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

ด้วยอายุเข้าสู่ปลายอาชีพในวัย 31 ปี มิเกล อาร์เตต้า กุนซือ อาร์เซน่อล อาจต้องนับถอยหลังการร่วมงานกับ ปาร์เตย์ และมองหาตัวเลือกใหม่มารับช่วงต่อ

อาร์เตต้า เริ่มถ่ายเลือดใหม่ในแดนกลางตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วกับการทุ่มทุนสโมสรเซ็นสัญญา เดแคลน ไรซ์ มาร่วมทีม และปล่อย กรานิต ชาก้า ไปให้ เลเวอร์คูเซ่น ส่วนฤดูกาลนี้ก็ดึง มิเกล เมริโน่ มาเสริมอีกราย 

ส่วน ปาร์เตย์ ก็คงได้เล่น "ตามสภาพ" ในฤดูกาลสุดท้ายของสัญญา เขาไมใช่แกนหลักแบบที่ อาร์เตต้า ต้องใส่ชื่อลงตัวจริงทุกนัด 

อย่างไรก็ตาม เมื่อการแข่งขันจริงในฤดูกาลนี้เปิดฉากจนถึงปัจจุบัน ปาร์เตย์ กลับกลายเป็นคนที่ลงสนามอย่างต่อเนื่อง และได้ช่วยทีมเต็มเม็ดเต็มหน่วยมากสุด  

ปาร์เตย์ ลงตัวจริงในพรีเมียร์ลีกตลอด 11 นัดแรกฤดูกาล และเล่นครบ 90 นาทีถึง 8 นัด มีเพียง 3 นัดที่โดนถอดออกช่วงท้ายหลังนาที 84 เป็นต้นไป คิดเป็นนาทีรวมอยู่ที่ 975 นาที 

นับรวมทุกคนในทีมมี ดาบิด ราย่า และ ไค ฮาแวร์ตซ์ เพียงสองคนเท่านั้นที่ลงเล่นในลีกมากกว่า ปาร์เตย์ โดยทั้ง ราย่า และ ไค ลงครบทุกนาทีไม่ถูกเปลี่ยนตัวออก 

ฤดูกาล 2023/24 ปาร์เตย์ ลงเล่นในลีกคิดเป็นเวลารวมทั้งหมด 788 นาที นั่นหมายความว่าเขาลงเล่นมากกว่าฤดูกาลที่แล้วเป็นที่เรียบร้อย ทั้งที่การแข่งขันฤดูกาลนี้ยังไม่ถึง 1 ใน 3 ด้วยซ้ำ

เช่นเดียวกับในเวทียูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ออกสตาร์ตตลอด 4 นัดแรก มีเพียงรายการลีก คัพ ที่ได้พักเป็นสำรอง และถูกหย่อนลงมาช่วยทีม 1 นัด 

คิดเป็นจำนวนนัด ปาร์เตย์ ลงเล่นไปแล้วทั้งหมด 16 นัด เท่ากับฤดูกาลที่แล้วทั้งฤดูกาล 

นอกจากสภาพร่างกายที่กลับมาสมบูรณ์แข็งแกร่งได้ช่วยทีมอย่างเต็มที่แล้ว ปาร์เตย์ ก็ยัง "รับจบ" ทุกงานทุกสถานการณ์ที่ อาร์เตต้า ต้องพบเจอ 

ในช่วงที่แบ็กขวามีปัญหา ปาร์เตย์ ก็ต้องถอยลงมาเล่นขัดตาทัพทั้งในเกมพบ เซาธ์แฮมป์ตัน และ ลิเวอร์พูล โดยเฉพาะนัดที่รับมือเกมรุกหงส์แดงที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจนเกือบพาทีมคว้าสามคะแนน

หรือตอนที่ มาร์ติน โอเดการ์ด เจ็บยาวพักไปราวสองเดือน ปาร์เตย์ ก็ต้องปรับการเล่นในแดนกลางใหม่ยืนเป็นคู่มิดฟิลด์ร่วมกับ เดแคลน ไรซ์ ในหลายนัดที่ อาร์เตต้า ปรับเล่น 4-4-2 ซึ่งงานจะหนักขึ้นเพราะต้องช่วยเกมรุกมากขึ้นทดแทนการขาดหายไปของกัปตัน ต่างจากตอนเล่นระบบ 4-3-3 ที่ยืนต่ำสุด เน้นเก็บบอล และเซตบอลให้เพื่อนทำเกมรุก 

ปาร์เตย์ จึงกลับมาเป็นหัวใจสำคัญของ อาร์เซน่อล ที่แฟนบอลอยากเห็นอีกครั้ง และหลายคนก็เชียร์ให้สโมสรต่อสัญญาใหม่ออกไป

อาร์เตต้า กล่าวถึงฟอร์มการเล่น และอนาคตของ ปาร์เตย์ เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า "เขาอายุเพิ่ง 31 ปี และเขาอยู่ในจุดที่ดีมากๆ แน่นอนว่าเราจะมีการพูดคุยในเรื่องนั้น (สัญญาใหม่)"

"สิ่งหนึ่งที่เรามีความจำเป็นคือ ปาร์เตย์ ต้องอยู่ในระดับที่เราต้องการอย่างแน่นอน เขากำลังทำงานอย่างหนักเพื่อทำในสิ่งที่กำลังทำอยู่ในตอนนี้"

"ผมคิดว่าเขากำลังเล่นได้ดีจริงๆ ในตำแหน่งต่างๆ ตามที่ทีมต้องการ เขารับมือด้วยแนทางที่ยอดเยี่ยม เขาเป็นผู้เล่นคนสำคัญสำหรับเรา" 

อีกจุดที่ ปาร์เตย์ ควรได้รับสัญญาใหม่คือการที่ฤดูกาลหน้าจะได้ช่วยทีมอย่างเต็มที่หากไม่เจออาการบาดเจ็บ 

ที่ผ่านมา ปาร์เตย์ ก็เหมือนนักเตะแอฟริกันของหลายทีมที่มีช่วงเว้นวรรคไม่ได้เล่นให้สโมสรเพราะต้องไปรับใช้ชาติบ้านเกิดในศึกแอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ ซึ่งถ้าเข้ารอบลึกๆ ก็อาจหายหน้านานนับเดือน

แต่สำหรับ แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ ครั้งต่อไปที่รอบสุดท้ายจะมีขึ้นในช่วงปลายปี 2025 ถึงต้นปี 2026 ซึ่งคาบเกี่ยวกับฤดูกาล 2025/266 ในการแข่งขันระดับสโมสร ปาร์เตย์ ไม่ต้องกังวลกับภารกิจตรงนี้เพราะ กานา พลาดท่าตกรอบคัดเลือกเป็นที่เรียบร้อย

ถ้า อาร์เซน่อล ต่อสัญญาก็มั่นใจได้เลยว่าจะสามารถใช้งาน ปาร์เตย์ ได้ต่อเนื่อง ไม่ต้องปล่อยไปเล่นทีมชาติเหมือนครั้งล่าสุดเมื่อต้นปี 2022

ปาร์เตย์ พิสูจน์ให้เห็นมาหลายครั้งว่าหากเข้าอยู่ในสภาพร่างกายที่สมบูรณ์ ไม่มีอาการบาดเจ็บกวน เขาคือหนึ่งในผู้เล่นกองกลางหมายเลข 6 ที่ดีที่สุดของวงการลูกหนังยุคปัจจุบัน

แต่ที่เหนือกว่าความสามารถ หรือพรสวรรค์คือ การฟิตพร้อมลงสนามเป็นตัวเลือกให้ทีมได้  

"The Best Ability: Availability" 

หาก ปาร์เตย์ รักษาสภาพร่างกายได้ และลงเล่นต่อเนื่อง เรื่องฟอร์มการเล่นที่ดีก็ไม่น่าห่วงเพราะปัญหาเดียวที่ผ่านมาคือสภาพร่างกายจริงๆ 

หวังว่าเราจะได้เห็น โธมัส ปาร์เตย์ ที่กลับมาร่างทองแข็งแกร่งพร้อมลุยแบบนี้ไปยาวๆ