สมการรอคอย
โอเดการ์ด บาดเจ็บข้อเท้าจากการเล่นให้ทีมชาตินอร์เวย์ในเดือนกันยายน ก่อนพลาดช่วย อาร์เซน่อล รวม 12 นัดในทุกรายการ
ในช่วงแรกที่ อาร์เซน่อล ไม่มี โอเดการ์ด ลงนำทัพ มิเกล อาร์เตต้า ประคองทีมเอาตัวรอดได้ดีทั้งการบุกชนะ สเปอร์ส ในดาร์บี้แมตช์, เสมอ แมนฯ ซิตี้ แบบน่าชนะอีกเช่นกัน ต่อด้วยเก็บเรียลเฮในบ้าน 4 นัดติดก่อนเข้าเบรกทีมชาติในเดือนตุลาคม
แต่กลับมาลุยหลังพ้นช่วงเบรกทีมชาติ ปืนใหญ่ก็กลายเป็นปืนแตกแพ้เกมลีกนัดแรกต่อ บอร์นมัธ ซึ่งเป็นเกมที่แนวรุกเล่นกันไม่ออกได้ยิงตรงกรอบเพียงครั้งเดียว ก่อนกลับมาเล่นในบ้านเสมอ ลิเวอร์พูล แบบน่าเสียดาย
จากนั้นแพ้สองนัดติดทั้งในลีกนัดเยือน นิวคาสเซิ่ล และถ้วยยุโรปที่ไปเยือน อินเตอร์ มิลาน ซึ่ง โอเดการ์ด ฟิตกลับมาลงสนามอีกครั้งในฐานะสำรองนาทีสุดท้าย
โอเดการ์ด ออกสตาร์ตตัวจริงให้ อาร์เซน่อล เป็นนัดแรกในรอบ 13 สัปดาห์ในเกมกับ เชลซี เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนซึ่งแม้ร่างกายตอนนั้นยังไม่เต็มร้อยมากนัก แต่ก็ทำให้เห็นในสิ่งทีมขาดหายไปในช่วงที่ผ่านมา
กัปตันทีมวัย 25 ปี ทำแอสซิสต์ได้ตั้งแต่นัดแรกที่คัมแบ็ก จากจังหวะหยอดบอลเข้าเขตโทษอย่างสมบูรณ์แบบให้ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ หลุดไปยิงมุมแคบตุงตาข่าย
นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้เล่นที่สร้างโอกาสให้ทีมมากสุดที่ 4 ครั้ง และจ่ายบอลเข้าพื้นที่สุดท้ายได้มากสุด 12 จาก 14 ครั้ง รวมถึงผ่านบอลแม่นยำ 91 เปอร์เซ็นต์
เกมรุกของ อาร์เซน่อล มีจินตนาการและยกระดับขึ้นอย่างมากหลังได้ โอเดการ์ด กลับมาลงสนาม
"ทั้งความเป็นผู้นำและคาแร็กเตอร์ที่เขามี ทุกอย่างไหลลื่นขึ้นเพราะมีนักเตะแบบนี้อยู่ในทีม การที่เขาสามารถเล่นระดับนี้ในพรีเมียร์ลีกก็บ่งบอกได้ว่าเขาดูแลตัวเองมากแค่ไหน" อาร์เตต้า กล่าวชม โอเดการ์ด หลังจบเกมที่สแตมฟอร์ด บริจด์
ปืนใหญ่กลับมาติดปีกครั้งหลังได้กัปตันคัมแบ็ก
เบรกทีมชาติสองสัปดาห์ในเดือนพฤศจิกายนเป็นช่วงเวลาที่ โอเดการ์ด ได้เรียกความฟิตให้เต็มถังยิ่งกว่าเดิม หลังได้ไฟเขียวจากทีมชาติให้พักฟื้นต่อที่สโมสรไม่ต้องลุยศึกยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก
อาร์เซน่อล ได้ประโยชน์อย่างเต็มที่กับการได้เตรียมทีมร่วมกับ โอเดการ์ด ก่อนโปรแกรมพบ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ทีมฟอร์มแรงที่เก็บคะแนนได้เท่าปืนใหญ่หลังผ่าน 11 นัดแรกของฤดูกาล
"เจ้าป่า" ของกุนซือ นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต ทำผลงานยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้ และไม่แพ้ใครเลยนอกบ้านซึ่งหนึ่งในนั้นคือบุกชนะ ลิเวอร์พูล ถึงแอนฟิลด์
การเล่นน่าจะออกมาไม่ห่างกันมาก แต่กลายเป็นว่า อาร์เซน่อล กด ฟอเรสต์ อยู่หมัดตั้งแต่ต้นจนจบเกมก่อนเอาชนะไปขาดลอย 3-0
โอเดการ์ด ทำแอสซิสต์ได้อีกครั้งจ่ายให้ บูคาโย่ ซาก้า ยิงประตูแรก และคู่นี้ก็ประสานงานกันอย่างเข้าขารู้ใจจนเล่นงานเกมรับเจ้าป่าได้ตลอดทั้งเกม
อดีตแข้ง เรอัล มาดริด ทำให้เห็นอีกครั้งว่าสำคัญต่อ อาร์เซน่อล มากเพียงใด และไม่บ่อยนักที่คนคนเดียวสามารถขับเคลื่อนการเล่นของทั้งทีมได้ ทว่า โอเดการ์ด ทำได้ด้วยการเล่นที่ลื่นไหล เนียนตา พลิ้วไหว แต่แฝงด้วยความดุดัน และทรงพลัง
อาร์เตต้า ชื่นชมกัปตันทีมที่เขาแต่งตั้งกับมือว่า "มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ทีมเล่นได้อย่างไหลลื่นในแนวทางที่แตกต่างไปเมื่อเขาลงสนามได้"
นอกจากความอันตรายในเวลาครองบอลแล้ว โอเดการ์ด ยังทำได้ดีในตอนไม่มีบอลเพราะเป็นนักเตะที่ขยันวิ่งหาพื้นที่ และทำให้คู่แข่งต้องพะวงจนหลุดตำแหน่งเหมือนที่วิ่งเข้าเขตโทษจนผู้เล่นฟอเรสต์ขยับตามจนเปิดพื่้นที่โล่งให้ โธมัส ปาร์เตย์ มีทั้งเวลาและพื้นที่ได้จับแต่งแล้วปั่นบอลเสียบตาข่ายเข้าไป
อาร์เซน่อล กลับมาชนะในลีกเป็นนัดแรกรอบ 5 นัดหลังสุด และเป็นเกมที่สำคัญมากเพราะเป็นนัดแรกหลังเบรกทีมชาติซึ่งหลายทีมใหญ่มักได้รับผลกระทบจากการที่ตัวหลักหลายคนไปรับใช้ชาติเกิด
ปืนใหญ่จึงได้ความมั่นใจเต็มที่่ เช่นเดียวกับสภาพทีมที่เริ่มกลับมาใกล้เคียงกับคำว่าฟูลทีมอีกครั้ง ขาดเพียง เบน ไวท์ ที่เจ็บยาว แต่ก็มี เจอร์เรียน ทิมเบอร์ รับหน้าที่แบ็กขวาได้หลังจาก ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ หายเจ็บกลับมาประจำฝั่งซ้าย
อาร์เตต้า พาทีมทำศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดที่ 5 ในเกมเยือน สปอร์ติ้ง ลิสบอน หนึ่งในทีมฟอร์มแรงของยุโรปที่ไม่ใครในบ้านมานานเกินหนึ่งปี และเคยไล่ขย่ม แมนเขสเตอร์ ซิตี้ ถึง 4-1
แต่ยอดทีมแห่งโปรตุเกสไม่สามารถแผงฤทธิ์ใส่ทีมจากอังกฤษได้อีก ตรงกันข้ามเป็น อาร์เซน่อล ที่โชว์ศักยภาพในเกมรุกจนดับความร้อนแรงของเจ้าถิ่นได้ถึงบ้าน
แม้ มาร์ติน โอเดการ์ด ไม่มีชื่อเป็นผู้ทำประตูหรือแอสซิสต์ แต่ทุกจังหวะการเล่นเกมรุกล้วนมีเขาเป็นสารตั้งต้น และทำให้ทีมคอนโทรลเกมเหนือกว่าเจ้าถิ่นแบบชัดเจน
เกมรุก อาร์เซน่อล ขึ้นฝั่งขวาเป็นหลักจากการประสานงานกันของ โอเดการ์ด, ซาก้า และ ทิมเบอร์ และสองประตูแรกของทีมก็มาจากการเปิดบอลทางฝั่งนี้
ไม่เพียงแค่ โอเดการ์ด หายเจ็บกลับมาแล้วทำผลงานได้ดี แต่เขายังช่วยให้คนอื่นเล่นดีไปด้วยโดยเฉพาะ บูคาโย่ ซาก้า ที่เห็นได้ชัดว่าช่วงที่ไม่มีกัปตันทีมเล่นเคียงข้าง ผลงานส่วนตัวก็ดร็อปลงไปด้วย
ไม่แปลกใจที่ปีกทีมชาติอังกฤษจะดีใจยิ่งกว่าถูกหวยกับการได้เห็น โอเดการ์ด กลับมาลงสนามอีกครั้ง
ซาก้า กล่าวว่า "วันที่เขากลับมาลงสนาม ผมยิ้มกว้างเลย คุณคงเห็นได้ถึงเคมีที่เรามีร่วมกัน ได้เห็นว่าผมสนุกกับเล่นร่วมกับเขามากแค่ไหน
"เขาเป็นนักเตะที่น่าทึ่ง ผมมีความสุขมากที่เขากลับมา ผมหวังว่าเขาจะรักษาความฟิตไปตลอดช่วงที่เหลือของฤดูกาล"
สื่อยกย่องผลงาน โอเดการ์ด ในนัดบุกชนะ สปอร์ติ้ง ลิสบอน
ขณะที่ พอล เมอร์สัน อดีตแข้งปืนใหญ่กล่าวถึงกัปตันทีมคนปัจจุบันว่า "มาร์ติน โอเดการ์ด เป็นคลาสที่แตกต่างออกไป เป็นสุดยอดนักเตะ"
"เขาทำให้ บูคาโย่ ซาก้า ดีขึ้น 10 เท่า! อย่าเข้าใจผิดเป็นอื่น ซาก้า เป็นนักเตะที่เก่งแต่ โอเดการ์ด ยกระดับเขาขึ้นไปอีกขั้น"
เรียกได้ว่าตลอด 3 นัดหลังสุดที่ มาร์ติน โอเดการ์ด หายเจ็บกลับมาลงตัวจริงอีกครั้ง ผลงานและการเล่นของ อาร์เซน่อล ก็กลับมาเป็น อาร์เซน่อล ที่แฟนบอลอยากเห็น เป็นทีมที่เดินหน้าได้อย่างทรงพลังและมั่นใจ
อาร์เซน่อล เดินหน้าเต็มตัวอีกครั้ง หลังสะดุดบ่อยครั้งในช่วงที่ผ่านมา และแน่นอนว่าแม่ทัพจะเป็นใครอื่นไม่ได้จริงๆ
"กัปตันโอเดการ์ด" คนนี้คนเดียวเท่านั้น
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT