วันปลดล็อกของ 'แก็บบี้'
นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับ กาเบรียล เชซุส ก่อนลงสนามให้ อาร์เซน่อล นัดล่าสุด เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา
เชซุส ยิงประตูในสนามเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ไม่ได้เลยนับตั้งแต่ขึ้นปี 2024 เป็นต้นมา และตลอดปีนี้ยิงได้เพียง 2 ประตูซึ่งเกิดขึ้นในเกมลีกนัดเยือน น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ฤดูกาลที่แล้ว และเยือน เปรสตัน ในถ้วยคาราบาว คัพ รอบก่อนหน้านี้
ความกดดัน อึดอัด ท้อแท้ใจ เกิดขึ้นแน่นอน และยิ่งนานวันเข้ายิ่งกัดกินความมั่นใจให้เหลือน้อยลง
แต่ทุกความรู้สึกที่ติดค้างในใจ น่าจะทุเลาลงไม่มากก็น้อยจากแฮตทริกอันยอดเยี่ยมในนัดล่าสุดที่พาทีมพลิกกลับมาชนะ คริสตัล พาเลซ พร้อมคว้าตั๋วเขารอบตัดเชือกคาราบาว คัพได้สำเร็จ
แฮตทริกของ เชซุส ช่วยให้ อาร์เซน่อล บดเอาชนะคู่ปรับร่วมเมืองได้ตามเป้า และสามารถฝันถึงการมีแชมป์ติดมือสักรายการในฤดูกาลนี้
มิเกล อาร์เตต้า บอกตั้งแต่ก่อนเกมแล้วว่าให้ความสำคัญกับฟุตบอลถ้วยรายการนี้ เพราะนอกจากมีลุ้นคว้าแชมป์แล้ว ชัยชนะที่ได้รับก็สามารถสร้างโมเมนตัมให้ทีมได้อีกครั้งหลังสะดุดเสมอในลีกมา 2 นัดติด
ดาวรุ่งที่ยังได้ออกสตาร์ตเหลือเพียง อีธาน วาเนรี่ ขณะที่ผู้รักษาประตูใช้มือหนึ่งอย่าง ดาบิด ราย่า เฝ้าเสา ที่เหลือผสมผสานทั้งตัวจริงและสำรอง
ที่หายหน้าไปนานแต่ได้โอกาสตั้งแต่นาทีแรกในนัดนี้คือ คีแรน เทียร์นี่ย์ แบ็กซ้ายทีมชาติสกอตแลนด์ที่สนามให้ทีมนัดแรกในรอบหนึ่งปีครึ่งเลยทีเดียว
กาเบรียล เชซุส จบสกอร์ได้เฉียบคมนัดนี้
อาร์เตต้า พักผู้เล่นที่ลงตัวจริงเกมลีกล่าสุด 8 ราย แต่ก็เผื่อเหลือเผื่อขาดใส่ชื่อเป็นสำรองเพียบทั้ง บูคาโย่ ซาก้า, มาร์ติน โอเดการ์ด, ไค ฮาแวร์ตซ์, กาเบรียล มาร์ติเนลลี่, วิลเลียม ซาลีบา, กาเบรียล มากัลเญส และ ไมลส์ ลูอิส-สเคลลี่ ขาดแต่เพียง เดแคลน ไรซ์ ที่เจ็บเล็กน้อยจึงไม่มีชื่อ
ส่วน พาเลซ แทบจะยกชุดเกมลีกล่าสุดที่โชว์ฟอร์มเก่งบุกชนะ ไบรท์ตัน ได้สวยงาม ปรับเพียงตำแหน่งตรงวิงแบ็กขวาที่สลับให้ เคเล็บ คปอร์ฮา ได้เล่นก่อน ดาเนียล มูนญอซ
ด้วยความมั่นใจจากนัดล่าสุด บวกกับใช้ผู้เล่นชุดเก่งลงสนาม แข้งดิ อีเกิ้ลส์ จึงมาเยือนด้วยความเชื่อมั่นว่าสู้กับปืนใหญ่ได้แน่
นอกจากนี้ ทีมของกุนซือ โอลิเวอร์ กราสเนอร์ ยังเป็นตัวแสบของทีมใหญ่หลายทีมเพราะฤดูกาลนี้ไม่แพ้เลยในการเจอกับ เชลซี, นิวคาสเซิ่ล, แมนฯ ยูไนเต็ด, สเปอร์ส, แอสตัน วิลล่า และ แมนฯ ซิตี้ โดยมีเพียง ลิเวอร์พูล ทีมเดียวที่เอาชนะพวกเขาได้
พาเลซ ทำเซอร์ไพรส์ขึ้นนำก่อนจนได้ และนำเร็วตั้งแต่ต้นเกมจากการสาดบอลยาวของ ดีน เฮนเดอร์สัน ที่ ยาคุบ คีวิออร์ กะจังหวะพลาดทำให้ ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า ได้เกี่ยวบอลเข้าเขตโทษก่อนยิงผ่านมือ ราย่า เข้าไป
ทีมเยือนครองบอลน้อยกว่าตามคาด แต่ออกอาวุธได้ดีมีโอกาสยิงในครึ่งแรกมากกว่าเจ้าบ้านด้วยซ้ำ ส่วนปืนใหญ่เองพลาดโอกาสทองในการตีเสมอถึงสองครั้งจาก ราฮีม สเตอร์ลิ่ง คนเดียวทั้งลูกฟรีคิก และชาร์จเผาขนที่ติดเซฟทั้งหมด
อาร์เตต้า เห็นท่าไม่ดีจึงต้องปรับเกมทันทีตอนพักครึ่งถ้วยการถอด โธมัส ปาร์เตย์ และ อีธาน วาเนรี่ ออกแล้วส่ง วิลเลียม ซาลีบา กับ มาร์ติน โอเดการ์ด ลงสนาม
ซาลีบา ลงมาจับคู่กับ คีวิออร์ ในตำแหน่งเซนเตอร์พร้อมกับถ่าง เจอร์เรียน ทิมเบอร์ ไปเล่นแบ็กขวา เกมรับของ อาร์เซน่อล จึงมีความสมดุลมากขึ้น ไม่ต้องเข็น ปาร์เตย์ เล่นแบ็กขวาแก้ขัด
การสัมผัสบอลทั่วสนามของ เชซุส
ขณะที่เกมรุกก็มีชีวิตชีวามากขึ้นหลัง โอเดการ์ด ลงสนาม และไม่กี่นาทีก็ช่วยทีมตีเสมอได้ด้วยลูกทีเด็ดจ่ายบอลทะลุช่องให้ เชซุส แตะหนี เทรโวห์ ชาโลบาห์ เข้าเขตโทษก่อนยกบอลข้ามตัว เฮนเดอร์สัน สุดเหนือชั้น
ประตูนี้ยอดเยี่ยมทั้งคนจ่ายที่แทงบอลได้เฉียบคม และคนยิงที่จบสกอร์ได้สมบูรณ์แบบแม้หวุดหวิดจะติดบล็อกเช่นกัน
การตีเสมอได้เร็วหลังแก้เกมช่วงพักครึ่ง คือสิ่งที่ อาร์เซน่อล ต้องการ ก่อนที่ เชซุส คนเดิมจะมาบวกประตูที่สองของตัวเองให้ทีมแซงนำจากจังหวะวิ่งเข้าเขตโทษไปตวัดยิงลูกเปิดของ บูคาโย่ ซาก้า เสียบเสาไกลอย่างแม่นยำ
จากภาพช้าในจังหวะออกตัวของ เชซุส ดูจะเหลื่อมกว่าแนวรับพาเลซ และน่าจะเป็นการล้ำหน้า ทว่าในรายการนี้ไม่มี วีเออาร์ อาร์เซน่อล จึงได้ประโยชน์ไป
พอเป็นฝ่ายตามหลัง พาเลซ พยายามดันเกมสูงขึ้นเพื่อตีเสมอให้ได้ เลยกลายโดนสวนกลับ โอเดการ์ด เปิดยาวตั้งแต่แดนตัวเองให้ เชซุส หลุดเดี่ยวทะลุเข้าโทษก่อนบรรจงซัดผ่าน เฮนเดอร์สัน กลายเป็นแฮตทริกทันที
แม้ พาเลซ มีฮึดอีกเฮือกจากลูกโหม่งอันยอดเยี่ยมของ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ที่นานๆ ยิงที แต่ยิงทีมเก่าได้เลย แต่ อาร์เซน่อล ก็ยังปิดเกมได้ด้วยชัยชนะที่ทำให้คว้าตั๋วเข้าสู่รอบตัดเชือกคาราบาว คัพ เป็นครั้งที่ 2 ในยุค อาร์เตต้า
ในเกมที่ต้องโรเตชั่น อาร์เซน่อล ยังต้องพึ่งพาตัวหลักลงไปช่วยพลิกเกมทั้ง โอเดการ์ด, ซาก้า รวมถึง ซาลีบา ที่ทำให้เกมรับแน่นขึ้นแม้ช็อตเสียประตูสุดท้ายน่าจะขึ้นเบียด เอ็นเคเทียห์ ได้ดีกว่านี้ก็ตาม
แต่ที่ต้องให้เครดิตมากสุดก็ต้องเป็น กาเบรียล เชซุส กับแฮตทริกแรกในการเล่นกับ อาร์เซน่อล
ความเด็ดขาดในการจบสกอร์คือสิ่งที่ อาร์เตต้า อยากเห็นจากลูกทีมมากสุดในช่วงเวลานี้ หลังทำประตูในจังหวะโอเพ่นเพลย์ไม่ได้มา 3 นัดติดในลีกแล้ว
กัปตันลงมาช่วยทีมพลิกเกม
กาเบรียล เชซุส ทำได้จากโอกาสยิง 5 ครั้ง เข้ากรอบทั้ง 5 ครั้ง และเป็น 3 ประตูที่พาทีมขยับใกล้โอกาสลุ้นแชมป์แรกของฤดูกาล
แน่นอนว่าสิ่งดีสุดนอกเหนือกจากทีมเข้ารอบคือ กาเบรียล เชซุส ได้ปลดล็อกให้ตัวเองซึ่งไม่มีอะไรดีไปกว่าการยิงประตูอีกแล้วสำหรับผู้เล่นในตำแหน่งกองหน้า
ขณะที่ อาร์เตต้า ก็เป็นปลื้มกับลูกทีมรายนี้เช่นกัน "ผมดีใจกับเขาจริงๆ มันนานมากแล้วที่เขายิงประตูไม่ได้ เมื่อคุณยิงประตูไม่ได้มานานเกือบปี มันเป็นเรื่องที่ยากลำบากซึ่งติดอยู่ในใจ และสิ่งสำคัญตอนนี้คือ ความสม่ำเสมอ
"การเคลื่อนที่ คุณภาพในการสัมผัสบอล วิธีการจบสกอร์ และปฏิกิริยาที่เกิดขึ้น มันเป็นสิ่งสำคัญมากๆ สำหรับเขาและทีม"
"มันเป็นช่วงเวลาแห่งความเปล่งประกายที่ช่วยทีมได้เยอะมาก และเราสามารถไว้วางใจเขาในการเปลี่ยนเกมได้ เราต้องให้โอกาสเขาเยอะๆ"
ไม่กี่วันก่อน อดีตหัวหอก แมนฯ ซิตี้ เพิ่งได้รับข่าวดี ภรรยาตั้งครรภ์ลูกคนที่ 2 ก่อนได้เฮต่อเนื่องด้วยแฮตทริกต่อหน้าแฟนบอลที่ไม่ได้เห็นภาพนี้มาหนึ่งปีเต็ม
หวังว่าแฮตทริกนี้จะเป็นการเรียกความมั่นใจให้กลับมาเต็มที่อีกครั้ง และเป็นความหวังของทีมได้มากขึ้น
รักษาความั่นใจเอาไว้ให้ได้ ทุกคนอยากเห็นผลงานแบบนี้อีกเรื่อยๆ
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT