อยู่อย่างไรเมื่อไร้ 'ซาก้า'

ซาก้า บาดเจ็บถูกเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่กลางครึ่งแรก หลังได้รับบาดเจ็บบริเวณแฮมสตริงในจังหวะเปิดบอล ขณะที่ มิเกล อาร์เตต้า กุนซือปืนโตเปิดเผยในเวลาต่อมาว่าต้องพักหลายสัปดาห์ 

สื่อในอังกฤษขยายความคำว่าหลายสัปดาห์ของ อาร์เตต้า ว่าน่าจะ 4-6 สัปดาห์ ขณะที่บางสื่อคาดว่าอาจจะถึง 8 สัปดาห์เลยทีเดียว

ถือว่าเสียหายสุดๆ เพราะ ซาก้า คือกำลังสำคัญอันดับต้นๆ ของ อาร์เซน่อล หรืออาจจะสำคัญสุดในทีมก็ว่าได้

นับตั้งแต่ขึ้นชุดใหญ่ในฤดูกาล 2018/19 ซาก้า ไม่เคยบาดเจ็บหนักจนต้องพักนานขนาดนี้มาก่อน เขาลงเล่นเกิน 40 นัดจากทุกถ้วยมา 4 ฤดูกาลติดต่อกัน

โปรแกรมที่ ซาก้า น่าจะพลาดช่วย อาร์เซน่อล

ซาก้า ยิงได้ถึง 67 ประตูกับอีก 63 แอสซิสต์จาก 250 นัดที่ลงเล่น ตัวเลขการทำประตูและแอสซิสต์ไล่ระดับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในทุกปี บ่งบอกถึงฝีเท้าที่พัฒนาตามวัยจนกลายเป็นหนึ่งในปีกขวาที่ดีที่สุดในปัจจุบัน

นับเฉพาะฤดูกาลนี้ ซาก้า มีส่วนช่วยทีมได้ประตู 40 เปอร์เซ็นต์จากประตูทั้งหมดที่ อาร์เซน่อล ทำได้ในพรีเมียร์ลีก โดยยิงไป 5 ประตู และทำไปอีก 10 แอสซิสต์ ส่วนเพื่อนร่วมทีมคนอื่นที่มีส่วนร่วมในประตูมากสุดคือ ไค ฮาแวร์ตซ์ แต่ก็เพียง 8 ประตูเท่านั้น (6 ประตูและ 2 แอสซิสต์)

นับรวมทั้งลีก ซาก้า มีสถิติอันดับ 1 ในเรื่องการสร้างโอกาสที่น่าจะเป็นแอสซิสต์ (5.63 ครั้ง) รวมถึงอันดับ 2 สถิติสร้างสรรค์โอกาส (42 ครั้ง) และพาบอลไปสู่การได้แอสซิสต์ (4 ครั้ง) แถมชนะการดวลตัวต่อตัวมากสุดอันดับ 3 ในลีก (87 ครั้ง)

จึงเป็นโจทย์และความท้าทายครั้งใหญ่สำหรับ มิเกล อาร์เตต้า กับการแก้ปัญหาขาด ซาก้า ในหลายนัดต่อจากนี้

เรามาดูกันว่าทางเลือกของ อาร์เตต้า มีอะไรกันบ้าง

1. กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ โยกมาเล่นฝั่งขวา

ทันทีที่ บูคาโย่ ซาก้า บาดเจ็บ มิเกล อาร์เตต้า ก็เปลี่ยนเอา เลอันโทร ทรอสซาร์ ลงมาเล่นตัวรุกฝั่งซ้ายเพื่อโยก กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ มาเล่นฝั่งขวาแทน ซาก้า

มาร์ติเนลลี่ ทำได้ดีทีเดียวในเกมล่าสุดโดยมีส่วนกับประตู 3-1 ของทีมที่โยกถึงสุดเส้นก่อนเปิดบอลเข้าเขตโทษให้ กาเบรียล เชซุส โหม่งชนเสาก่อนโดนซ้ำโดย ไค ฮาแวร์ตซ์ จากนั้นก็มาเป็นคนซัดประตู 4-1 ซึ่งสำคัญมากเพราะก่อนหน้านั้น พาเลซ เกือบไล่มาเป็น 3-2

ฤดูกาลที่แล้ว มาร์ติเนลลี่ ถูกโยกมาเล่นปีกขวา 4 นัด ปรากฎว่าทีมชนะได้ถึง 3 นัด และเสมอ 1 นัดในเกมใหญ่บุกแบ่งแต้ม แมนฯ ซิตี้ 0-0 

ดังนั้น มาร์ติเนลลี่ น่าจะเป็นตัวเลือกแรกๆ สำหรับ อาร์เตต้า ในการเล่นฝั่งขวาแทน ซาก้า และมี ทรอสซาร์ ประจำฝั่งซ้าย 

2. ตามรอย เป๊ป ใช้ กาเบรียล เชซุส เล่นปีกขวา

กาเบรียล เชซุส เป็นอีกชื่อที่ถูกมองว่าสามารถเล่นทดแทน ซาก้า ได้เพราะเคยเล่นปีกขวามาแล้วกับ แมนฯ ซิตี้

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือ แมนฯ ซิตี้ เคยจับ เชซุส เล่นปีกขวาถึง 28 นัดในช่วงที่ร่วมงานกันในถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม ซึ่งผลงานใช้ได้เลยยิงไป 8 ประตูกับ 10 แอสซิสต์

อย่างไรก็ตาม จุดที่ อาร์เตต้า ต้องคิดอย่างรอบคอบคือ ดาวเตะบราซิเลียนไม่ได้ชื่นชอบการเล่นในตำแหน่งปีกขวานัก แม้เป็นตำแหน่งที่อาจทำให้ได้ลงสนามมากขึ้นต่อจากนี้ 

อีกจุดคือ ตอนนี้ เชซุส กำลังทำได้ดีในตำแหน่งหน้าเป้าที่ซัดไป 5 ประตูใน 2 นัดหลังสุดที่พบ คริสตัล พาเลซ ซึ่งด้วยฟอร์มตอนนี้อาจเป็นการ "เสียของ" หรือไม่ถ้าต้องโยกออกไปเล่นด้านกว้าง

3. ทรอสซาร์ รับจบ

ความสารพัดประโยชน์ของ เลอันโดร ทรอสซาร์ เป็นข้อดีที่ช่วย อาร์เซน่อล ได้ในหลายครั้ง และทำผลงานได้คุ้มค่านับตั้งแต่ย้ายมาจาก ไบรท์ตัน ด้วยค่าตัว 27 ล้านปอนด์ ในต้นปี 2023 

ทรอสซาร์ เคยเล่นตัวรุกฝั่งขวาให้มาแล้วครั้งหนึ่งในเกมที่ อาร์เซน่อล เปิดบ้านไล่ทุบ ลีดส์ ยูไนเต็ด 4-1 เมื่อปี 2023 และช่วงอยู่ ไบรท์ตัน ก็เล่นบ่อยครั้ง เช่นเดียวกับทีมชาติเบลเยียมที่พบ โรมาเนีย และ ยูเครน ในศึกยูโร 2024 ที่ผ่านมา

ดาวเตะวัย 30 ปี มีความยืดหยุ่นในการเล่นสูงจากการลงเล่นในแทบจะทุกตำแหน่งของเกมรุก และจะเป็นอีกทางเลือกสำหรับทดแทน ซาก้า ได้แน่นอน

4. ไค ฮาแวร์ตซ์ เล่นได้เช่นกัน

มิเกล อาร์เตต้า ให้สัมภาษณ์ไม่กี่วันที่ผ่านมาว่า ไค ฮาแวร์ตซ์ คือหนึ่งในผู้เล่นที่สามารถเล่นในตำแหน่งของ ซาก้า ได้เพราะเคยเล่นในบ้างแล้วตอนอยู่ เชลซี และ เลเวอร์คูเซ่น

ตอนเล่นให้ เชลชี อาจไม่บ่อยมากนัก แต่ตอนเริ่มต้นค้าแข้งกับ เลเวอร์คูเซ่น ฮาแวร์ตซ์ ได้เล่นเยอะทีเดียวกับตำแหน่งนี้ และทำผลงานได้ดีด้วย

ตลอด 31 นัดในบทบาทปีกขวา แข้งทีมชาติเยอรมนียิงได้ถึง 16 ประตูกับอีก 7 แอสซิสต์ ค่าเฉลี่ยดีกว่าตอนเล่นมิดฟิลด์ตัวรุก และตำแหน่งอื่นๆ

ในช่วงนี้ที่ กาเบรียล เชซุส เริ่มเป็นความหวังได้ในตำแหน่งหน้าเป้า การโยก ไค ฮาแวร์ตซ์ ออกมาด้านข้างจะเป็นอีกแท็กติกที่ อาร์เตต้า สามารถทำได้ และทั้งสองคนก็สามารถสลับกันเข้าออกเขตโทษได้ตลอด และการเล่นฝั่งขวาของ ฮาแวร์ตซ์ ก็จะได้ประสานงานกับเพื่อนซี้ มาร์ติน โอเดการ์ด มากยิ่งขึ้น

5. ดึง มาร์กินโญส กลับมาจากยืมตัว

อีกหนึ่งทางเลือกที่แฟนปืนใหญ่อาจลืมไปแล้วคือ "มาร์กินโญส" ปีกดาวรุ่งบราซิเลียนที่กำลังหมดสัญญายืมตัว และจะต้องกลับมา อาร์เซน่อล ในปี-

มาร์กินญอส ย้ายจาก เซา เปาโล มาร่วมทีม อาร์เซน่อล ในซัมเมอร์ 2022 แต่ไม่สามารถยึดตำแหน่งในทีมได้ เคยถูกปล่อยให้ นอริช และ น็องต์ ในฝรั่งเศสยืมใช้งาน และไปอยู่กับ ฟลูมิเนเซ่ ด้วยสัญญายืมตัวเช่นกันตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา

ปีกวัย 21 ปี เล่นตำแหน่งเดียวกับ ซาก้า และจะรีเทิร์นกลับมา อาร์เซน่อล ในเดือนมกราคมนี้หลังสัญญายืมตัวสิ้นสุด โดยลงเล่นให้ ฟลูมิเนเซ่ 29 นัด ทำไป 2 ประตูและ 2 แอสซิสต์

อาร์เตต้า ต้องประเมินว่าดาวรุ่งจากแดนแซมบ้ารายนี้มีความพร้อมที่จะช่วยทีมได้มากแค่ไหน ซึ่งด้วยสถานการณ์เช่นนี้ อาร์เตต้า ควรเก็บเอาไว้กับทีม อย่าเพิ่งปล่อยยืมต่อในตลาดหน้าหนาว 

เผื่อเหลือเผื่อขาดก็ยังเป็นสำรองช่วงท้ายเกม หรือตัวจริงในเกมที่ไม่หนักมาก เพื่อให้คนอื่นได้พักและไม่เสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บเพิ่มไปอีก 

6. เสริมแข้งใหม่

อาการบาดเจ็บของผู้เล่นในช่วงส่งท้ายปีต่อเนื่องต้นปีเป็นช่วงเวลาที่ไม่ดีเอาเสียเลยเพราะโปรแกรมลงสนามค่อนข้างชุกโดยเฉพาะบ็อกซิ่ง เดย์ ที่สุดหฤโหด

แต่นั่นก็หมายความว่าอีกไม่กี่วันข้างหน้า ตลาดนักเตะหน้าหนาวในเดือนมกราคมจะเปิดแล้ว และจะเป็นอีกหนึ่งทางออกสำหรับ อาร์เซน่อล ในกรณีของ ซาก้า

"ซื้อ-ไม่ซื้อ" หรือ ดึงใครสักคนมาด้วยสัญญายืมตัวเป็นสิ่งที่ อาร์เตต้า ต้องตัดสินใจ แต่อย่างน้อยตลาดก็เปิดรออยู่ซึ่งดีกว่าการต้องเจอปัญหานี้ในช่วงตลาดปิดที่หมดสิทธิ์คิดเกี่ยวกับแข้งใหม่ได้เลย

อาร์เตต้า เคยเสริมทัพกลางฤดูกาลได้ดีทั้งรายของ ทรอสซาร์ และ จอร์จินโญ่ หรือกระทั่ง ยาคุบ คีวิออร์ ที่แม้มีช่วงดีและแย่ แต่ก็จำเป็นในฐานะอะไหล่ของทีม

นอกเหนือจากนี้ก็มีตัวเลือกอย่าง อีธาน วาเนรี่ ที่ปกติเล่นในตำแหน่งของ มาร์ติน โอเดการ์ด แต่สามารถขยับขึ้นมาเล่นตำแหน่งของ ซาก้า ได้เช่นกันเพราะมีทักษะดี เอาตัวรอดได้ แม้คุณภาพโดยรวมยังเทียบปีกรุ่นพี่ไม่ได้ก็ตาม

รอดูกันครับว่า ปัญหาใหญ่ของ อาร์เซน่อล ที่ มิเกล อาร์เตต้า มมองว่าเป็นความท้าทายในการรับมืออีกครั้งเหมือนช่วงที่ไร้ มาร์ติน โอเดการ์ด 

จะเอาตัวรอดได้หรือไม่ และด้วยวิธีใด ?