เส้นทางยุโรปไปได้สวย

ชัยชนะเหนือ ดินาโม ซาเกร็บ 3-0 ในนัดล่าสุดทำให้มีเพิ่มเป็น 16 คะแนนจาก 7 นัด และกลับไปรั้งอันดับ 3 ของตารางอีกครั้ง
สองอันดับแรกของตารางคือ ลิเวอร์พูล กับ บาร์เซโลน่า ที่มี 21 คะแนน และ 18 คะแนน ตามลำดับ คือสองทีมแรกที่ผ่านเข้ารอบแน่นอนแล้ว
อาร์เซน่อล ไม่น่าพลาดเช่นกันจากสถานการณ์ตอนนี้ที่ได้ว่ารอแค่ประทับวีซ่าอย่างเป็นทางการเท่านั้น
มิเกล อาร์เตต้า พาทีมเก็บชัยชนะได้ตามเป้า ไม่เจอปัญหาใดๆ ในการรับมือกับทีมดังจากโครเอเชีย
เกือบทุกอย่างเป็นไปตามแผน เดแคลน ไรซ์ ซัดเปิดหัวลูกแรกตั้งแต่ต้นเกมซึ่งเป็นประตูที่สำคัญมาก
ไรซ์ เล่นให้ อาร์เซน่อล มาตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว และยิงประตูสำคัญหลายต่อหลายลูก ทว่าประตูล่าสุดเพิ่งจะเป็นประตูแรกที่ยิงได้ในแชมเปี้ยนส์ ลีก
แม้ต้องรอประตู 2 และ 3 อยู่นานกว่าจะได้ในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย แต่ก็เป็นเกมที่ อาร์เซน่อล ควบคุมสถานการณ์ได้แทบอยู่หมัด
ดินาโม ซาเกร็บ ที่มีกุนซือคนดังอย่าง ฟาบิโอ คันนาวาโร่ อดีตกองหลังทีมชาติอิตาลีชุดแชมป์โลก 2006 คุมทีมเป็นนัดแรก ทำได้ดีสุดเพียงชะลอการเล่นให้ช้าลง ไม่ให้ อาร์เซน่อล ได้เล่นเร็วอย่างถนัดมากนัก
คุณภาพของผู้เล่นทั้งสองทีมต่างกันชัดเจน ดินาโม ซาเกร็บ พยายามสู้อย่างเต็มที่ เซตเกมอย่างระมัดระวัง แต่พอเข้าพื้นที่สุดท้ายก็ยังไม่ดีพอที่จะลุ้นประตูได้
ตลอดทั้งเกม ดินาโม ซาเกร็บ ได้ยิงเพียง 5 ครั้ง แต่ไม่เข้ากรอบเลย ส่วน อาร์เซน่อล ได้ยิง 17 ครั้ง แม้เข้ากรอบเพียง 4 ครั้ง แต่ก็เปลี่ยนเป็น 3 ประตูได้
กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ทำให้เห็นอีกครั้งว่าเขาเล่นฝั่งซ้ายได้ดีและมีประโยชน์กว่าฝั่งขวา ประตูแรกหาโอกาสเปิดบอลจนไปถึง ไค ฮาแวร์ตซ์ ได้ลงให้ ไรซ์ ยิง ส่วนประตูที่สองก็เปิดเข้าหัว ฮาแวร์ตซ์ โขกตุงตาข่าย
แม้คุณภาพคู่แข่งเป็นรอง แต่การเล่นได้แบบนี้มีผลต่อความมั่นใจอย่างแน่นอน ต่างจากฝั่งขวาที่ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ได้โอกาส แต่ยังไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
อีธาน วาเนรี่ ที่เพิ่งหายเจ็บกลับมาลงสำรอง ยังดูสร้างความแตกต่างได้ดีกว่า และทำให้ มาร์ติน โอเดการ์ด สามารถวิ่งเข้าเขตโทษได้มากขึ้นจนเป็นที่มาของประตูปิดท้ายที่เข้าชาร์จลูกเปิดของ เลอันโทร ทรอสซาร์ เข้าไป
สถานการณ์หลังจบนัดนี้ อาร์เซน่อล การันตีพื้นที่เพลย์ออฟเป็นอย่างน้อย แต่เป้าหมายคือ ต้องการติดหนึ่งใน 8 เพื่อคว้าตั๋วเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายโดยอัตโนมัติ
ถ้าจบเพียงอันดับ 9-24 ต้องไปเหนื่อยเพลย์ออฟที่แข่งสองนัดเหย้า-เยือน เพื่อเข้ารอบตาม 8 ทีมแรก
โปรแกรมนัดสุดท้ายที่ทุกทีมแข่งพร้อมกันหมดในคืนวันพุธที่ 29 มกราคม อาร์เซน่อล ต้องไปเยือน จีโรน่า ซึ่งตกรอบไปแล้ว
อาร์เตต้า และลูกทีม ขอเพียง "ไม่แพ้" ก็จะบรรลุเป้าหมายจบ 8 อันดับแรกของตารางแน่นอน
แต่ถ้าแพ้ก็ยังมีโอกาสสูงมากอยู่ดีในการเข้ารอบอัตโนมัติ
ประตูได้-เสียที่ +12 เป็นข้อได้เปรียบเหนือกว่าหลายทีมทั้งกลุ่มที่อยู่ใน 8 อันดับแรกด้วยกัน หรือกลุ่มที่มี 13 คะแนน และมีโอกาสแซงได้หาก อาร์เซน่อล แพ้
ทีมที่มี 13 คะแนนเท่า อาร์เซน่อล ตอนนี้คือ เลเวอร์คูเซ่น (+6), แอสตัน วิลล่า (+5), โมนาโก (+3), เฟเยนูร์ด (+2) และ ลีลล์ (+2) มีประตูได้-เสียเป็นรอง อาร์เซน่อล อย่างน้อย 6 ประตู
ปืนใหญ่ต้องแพ้ยับจริงๆ ในนัดสุดท้ายจึงจะไม่ได้ตั๋วอัตโนมัติ
เลเวอร์ฯ ที่จะเล่นในบ้านพบ สปาร์ต้า ปราก และ แอสตัน วิลล่า ที่เล่นในบ้านเช่นกันพบ เซลติก เป็นสองทีมที่มีโอกาสเป็นไปได้สุดแซงหน้า อาร์เซน่อล แต่ต้องยิงชนะให้ได้ขาดลอย
ส่วน ลีลล์ กับ เฟเยนูร์ด มีโปรแกรมตัดกันเอง ขณะที่ โมนาโก เจองานหนักไปเยือน อินเตอร์ มิลาน ที่ต้องการอย่างน้อยหนึ่งคะแนนเพื่อเข้ารอบอัตโนมัติ
อีกจุดที่ดีสำหรับ อาร์เซน่อล คือ หลายทีมใหญ่ผลงานไม่ดี ทำให้หมดโอกาสแซงหน้า อาร์เซน่อล ได้
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์, บาเยิร์น มิวนิค, เรอัล มาดริด, ยูเวนตุส, ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ แมนฯ ซิตี้ คือกลุ่มที่ อาร์เซน่อล ไม่ต้องกังวลใจใดๆ เลยในนัดสุดท้าย
ดังนั้นโอกาสติด 1 ใน 8 ของปืนใหญ่น่าจะสูงถึง 99.99 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่บางสื่อฟันธงว่าเข้ารอบเป็นที่เรียบร้อย
การเข้ารอบอัตโนมัติได้จะตัดโปรแกรมเพลย์ออฟ 2 นัดออกไปซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมากสำหรับ อาร์เซน่อล ในตอนนี้
ขณะที่โปรแกรมรอบ 16 ทีมสุดท้ายจะลงสนามในสัปดาห์แรกและสัปดาห์ที่สองของเดือนมีนาคม
หลังจบเกมนัดสุดท้ายกับ จีโรน่า อาร์เซน่อล มีคิวเปิดบ้านเจอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในบิ๊กแมตช์พรีเมียร์ลีก
ไม่แปลกหากหลายคนจะโฟกัสเกมกับเรือใบมากกว่าเพราะในถ้วยยุโรปแบเบอร์แล้ว
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT