จากผู้ลี้ภัยสู่กุนซือผู้โค่นหงส์

นี่คือหนึ่งในเกมสุดพลิกล็อกของเอฟเอ คัพ ที่ทีมบ๊วยของเดอะ แชมเปี้ยนชิพ สามารถเขี่ยจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก และแชมป์ยุโรป 6 สมัยตกรอบได้

ประตูเดียวในเกมนี้ได้จากจุดโทษของ ไรอัน ฮาร์ดี้ ซึ่งได้กลายเป็นประตูประวัติศาสตร์ในหน้าสโมสรของ พลีมัธ ทันที 

"นี่เป็นวันสุดมหัศจรรย์สำหรับเรา ผมบอกกับนักเตะว่าเล่นกันให้สนุก และตอนนี้เราก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในประวัติศาสตร์ของสโมสรแล้ว"

"มันเป็นวันสำคัญสำหรับเราทุกคน ผมรู้สึกว่าเราสมควรมีวันนี้ ผมพูดไม่ออกเลย นี่เป็นช่วงเวลาแห่งความภาคภูมิใจ และเป็นที่สำคัญมาก" มุสลิช เปิดใจด้วยความปลาบปลื้ม

มิรอน มุสลิช เพิ่งเข้าคุมทีม พลีมัธ ต่อจาก เวย์น รูนีย์ ได้ครบหนึ่งเดือนพอดีเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 10 มกราคม ที่ผ่านมา

การพลิกโค่น ลิเวอร์พูล เป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อและเกิดขึ้นได้ยากสำหรับกุนซือโนเนมสักคน แต่สำหรับ มุสลิช เขาเคยผ่านความยากลำบากกว่านี้มาแล้ว 

ย้อนไปในปี 1992 มุสลิช ในวัย 9 ขวบ ต้องระเห็จจากบ้านเกิดบีฮาชในบอสเนียเนื่องด้วยภัยสงคราม

ผู้คนจำนวนมากต้องลี้ภัยออกจาก บีฮาช 

มุสลิช และครอบครัวหนีเอาตัวรอดได้ทันเวลา เพราะหลังจากนั้นเพียงหนึ่งหรือสองเดือน เมืองบีฮาชก็ตกอยู่ภายใต้การโจมตีของกองกลางชาวเซิร์บระหว่างสงครามกลางเมือง

"เราจำเป็นต้องออกจาก บอสเนีย และ บีฮาช บ้านเกิดของเราในเพียงชั่วข้ามคืน เราหยิบฉวยสิ่งของติดมือได้เท่าที่ทำได้ นั่นคือจุดเริ่มต้นการเดินทางของเรา หรือพูดอีกอย่างคือชีวิตใหม่ของเราได้เริ่มต้นขึ้น"

มุสลิช รวมถึงพี่สาวและญาติพี่น้องต้องเดินทางกว่า 400 ไมล์ไปที่อินน์สบรุ๊คในออสเตรียโดยที่ไม่รู้เลยว่าจะต้องพบเจอกับอะไร พวกเขาไม่สามารถพูดภาษาท้องถิ่นที่เป็นสำเนียงเยอรมัน และไม่สามารถเข้าใจได้เลย

"เราดิ้นรนมาตลอดชีวิต และการต่อสู้นี้ก็เป็นส่วนหนึ่งในการเดินทางของเราซึ่งนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผมจึงมองบวกและมองในแง่ดีอยู่เสมอ" มูสลิช กล่าว 

'ฟุตบอล' นำทางให้ มุสลิช กับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ในต่างแดน เขาได้โอกาสเข้าร่วมทีมเยาวชนของ แว็คเกอร์ อินน์สบรุ๊ค และจากนั้นก็ขึ้นๆ ลงๆ เล่นครบ 5 ดิวิชั่นของประเทศแต่ก็ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไร ก่อนตัดสินใจแขวนสตั๊ดในปี 2017 และเริ่มงานกุนซือในปีถัดมา 

"เราเคยอยู่ในสถานการณ์ที่ท้าทายชีวิตมากกว่าการเป็นเฮดโค้ชซึ่งเจอผลการแข่งขันที่อาจแพ้หรือเสมอในสุดสัปดาห์" มุสลิช เล่าต่อถึงชีวิตตัวเอง 

"นี่ยังเป็นข้อความที่ผมพยายามส่งถึงนักเตะอยู่ตลอดนั่นคือ ชีวิตคือการต่อสู้ที่มีเรื่องเซอร์ไพรส์อันสวยงาม และมีสิ่งที่คุ้มค่ามากพอในการต่อสู้"

มุสลิช เพิ่งพาทีมเอาชนะ สล็อต ในเอฟเอ คัพ 

"ไม่มีอะไรง่ายสำหรับผมและครอบครัวรวมถึงพี่สาว เรากลายเป็นผู้อพยพซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ดีงามนัก แต่ผมก็ไม่เคยรู้สึกว่าผมขาดอะไรไปในชีวิต"

"พ่อกับแม่พยายามกันหนักมากๆ เพื่อให้พวกเราได้มีในสิ่งที่จำเป็น พ่อของผมทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟนานมากกว่า 30 ปี ส่วนแม่ของผมก็เป็นคนทำความสะอาด ท่านทั้งสองพยายามกันอย่างหนักเพื่อให้ลูกๆ อย่างเรามีชีวิตที่ดี"

มุสลิช สั่งสมประสบการณ์งานโค้ชมาเรื่อยๆ กับ โฟลริดส์ดอร์เฟอร์, รีด และเริ่มสร้างชื่อจริงจังกับ เซอร์เคิ่ล บรูช ที่นำทีมคว้าตั๋วลุยศึกยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก ในฤดูกาลนี้ ก่อนถูก พลีมัธ ดึงมาคุมทีมเมื่อหนึ่งเดือนที่แล้ว

การเริ่มต้นกับ พลีมัธ ในอังกฤษมีความลำบากไม่ต่างจากชีวิตจริงที่ต้องหนีภัยสงครามมาต่างแดน 

พลีมัธ อยู่ในตำแหน่งบ๊วยของตารางที่ไม่ชนะใครมาหลายนัด และในตลาดหน้าหนาวที่ผ่านมาก็ยังมาเสีย ลูอิส กิ๊บสัน กองหลังตัวเก่ง และ มอร์กาน วิทเทเกอร์ หัวหอกคนสำคัญที่ย้ายออกไป

แต่เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว สโมสรตัดสินใจทุ่มเงินเป็นสถิติซื้่อตัว มักซิม ทาโลเวียรอฟ กองหลังยูเครนมาร่วมทีม ก่อนประเดิมสนามได้ยอดเยี่ยมพาทีมฮึดชนะ เวสต์บรอมวิช 2-1 หยุดสถิติไม่ชนะในลีก 15 นัดติดลงได้ เช่นเดียวกับผลงานล่าสุดในเอฟเอ คัพ ที่ช่วยทีมต้านทานเกมรุกจนเอาชนะ ลิเวอร์พูล ได้สำเร็จ 

วินาทีประวัติศาสตร์ของพลีมัธ

มุสลิช เล่าต่อว่า "ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นตลอด 30 ปีผ่านมาหล่อหลอมให้ผมเป็นอย่างที่เป็นในวันนี้ และสามารถทำในสิ่งที่ดูเหมือนว่าจะเป็นไปไม่ได้"

"แต่ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ในชีวิตหากคุณเชื่อมั่นอย่างแท้จริง มุ่งมั่น แน่ใจ และลุยเต็มที่จริงๆ"

"ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้" คำนี้ยังคงใช้ได้เสมอไม่ว่าจะเป็นเอฟเอ คัพ ที่มีเรื่องพลิกล็อกเกิดขึ้นอยู่เสมอ เช่นเดียวกับชีวิตจริงที่ทุกอย่างเป็นไปได้หากไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา