ความเสี่ยงที่เลือกและต้องยอมรับ

นับเป็นข่าวร้ายครั้งใหญ่อีกครั้งของ อาร์เซน่อล หลังก่อนหน้านี้ก็เสีย กาเบรียล เชซุส ที่ปิดเทอมไปแล้ว ขณะที่ บูคาโย่ ซาก้า และ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ยังไร้กำหนดวันคัมแบ็ก

ฮาแวร์ตซ์ อาจถูกวิจารณ์ในเรื่องความเฉียบขาดในการทำประตู และใช้โอกาสค่อนข้างเปลือง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่่ทุ่มเทมากสุดของทีม

ดาวเตะทีมชาติเยอรมนีคือคนที่วิ่งเป็นระยะทางรวมมากสุดในทีมปืนใหญ่ฤดูกาลนี้ และยังเป็นอันดับหนึ่งทั้งการไล่เพรสซิ่ง และการสปรินต์ 

เขาคือผู้เล่นที่สำคัญต่อกุนซือ มิเกล อาร์เตต้า อย่างมาก และเป็นความเสียหายสุดๆ ที่ต้องพักยาวไปอีกราย 

อาร์เตต้า พยายามมองว่านี่คืออีก "ความท้าทาย" ในการเอาตัวรอดกับปัญหาบาดเจ็บของผู้เล่นที่ตามเล่นงานมาตลอดฤดูกาลนี้ 

"เราลงเล่นโดยไม่มี ซาลีบา, ไม่มี เบน ไวท์, ไม่มี โทมิยาสึ มาทั้งฤดูกาล, ไม่มี คาลาฟิออรี่ สองเดือน, ไม่มี เมริโน่ สองเดือน, โอเดการ์ด ก็สองเดือน, บูคาโย่ ซาก้า อีกสามเดือน รวมถึง กาเบรียล เชซุส ทั้งหมดเลย

"มันคือความท้าทายที่เรามี ผมรักความท้าทาย และมองไปข้างหน้าเพราะว่าเราอยู่ในจุดที่ยังอยู่ซึ่งด้วยทั้งหมดที่ผมกล่าวไปแล้วก็ยังลงเล่นเพียง 10 คนอีก 4 นัด (ได้ใบแดง) ดังนั้นไว้รอดูกันจะได้เห็นว่าทีมนี้สร้างมาจากอะไร" อาร์เตต้า กล่าว

แม้ อาร์เตต้า มองในแง่บวกเต็มที่ แต่หากวิเคราะห์กันให้ละเอียดแล้ว อาการบาดเจ็บล่าสุดของ ไค ฮาแวร์ตซ์ ในช่วงเวลานี้อาจหนักหนาสาหัสกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา

แนวรุกปืนใหญ่ที่ตอนนี้เหลือเพียง 3 ตัวบน 

เหตุผลสำคัญคือ อาร์เซน่อล ไม่เหลือกองหน้าให้เลือกใช้งานอีกแล้วไม่ว่าจะเป็นหน้าเป้าธรรมชาติอย่าง เชซุส หรือ "ฟอลส์ไนน์" ในแบบ ฮาแวร์ตซ์ แถมเกิดขึ้นในช่วงที่ปีกตัวจริงสองข้างทั้ง ซาก้า และ มาร์ติเนลลี่ บาดเจ็บเช่นกัน 

นั่นเท่ากับว่าแนวรุกที่เหลือมีเพียงผู้เล่นที่ส่วนใหญ่เป็นสำรองอย่าง เลอันโดร ทรอสซาร์ และ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง รวมถึงดาวรุ่งอย่าง อีธาน วาเนรี่ 

ทรอสซาร์ ทำได้ดีก็จริงในหลายนัดที่ได้โอกาส แต่เขาไม่ใช่ผู้เล่นที่สามารถพลิกเกมได้ด้วยตัวคนเดียว ขณะที่ วาเนรี่ เก่งกาจเกินวัย แต่ต้องไม่ลืมว่าอายุเพียง 17 ปี การถูกคาดหวังมากเกินไปไม่ใช่เรื่องดี 

ส่วน สเตอร์ลิ่ง เป็นคนที่แฟนบอลเริ่มทำใจแล้วว่าพึ่งพาได้น้อยสุดเพราะแทบไม่มีผลงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยนับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมด้วยสัญญายืมตัวจาก เชลซี 

ก่อนหน้านี้ อาร์เซน่อล เคยพลาดใช้งานผู้เล่นไปหลายคนเพราะบาดเจ็บ แต่คนอื่นในตำแหน่งเดียวกันยังอยู่ทำให้ผ่านวิกฤตได้ในหลายครั้ง

ไม่มี วิลเลียม ซาลีบา แต่ก็มี กาเบรียล มากัลเญส เป็นพี่ใหญ่ในเกมรับ 

ไม่มี เบน ไวท์ แต่ก็มี เจอร์เรียน ทิมเบอร์ หรือบางครั้งพึ่งพา โธมัส ปาร์เตย์ ถอยมาช่วย

ไม่มี โทมิยาสึ, ซินเชนโก้, เทียร์นีย์, คาลาฟิออรี่ แต่ก็มีตัวตึง ไมล์ส ลูอิส-สเกลลี่ โผล่ขึ้นมา

ไม่มี เดแคลน ไรซ์ แต่ก็ได้ มิเกล เมริโน่ พอแก้ขัดได้บ้าง 

ไม่มี มาร์ติน โอเดการ์ด แต่ก็ยังมี บูคาโย่ ซาก้า รับบทหนักปั้นเกม

พอ ซาก้า เจ็บไปเช่นกันก็ยังมี อีธาน วาเนรี่ รวมไปถึง มาร์ติเนลี่ และ ทรอสซาร์ สลับมาทดแทน

แต่ตอนนี้ไม่มีทั้ง เชซุส และ ฮาแวร์ตซ์ การหาตัวแทนในตำแหน่งหน้าเป้าเป็นเรื่องยากมาก เพราะตัวเลือกในแผงแนวรุกคนอื่นก็จำกัดเช่นกัน

ไค ฮาแวร์ตซ์ สำคัญต่อ อาร์เซน่อล อย่างมาก

สิ่งที่เสียดายสำหรับ อาร์เซน่อล คือการปล่อยผ่านโอกาสเสริมทัพในตลาดหน้าหนาวที่ผ่านมาทั้งที่เห็นกันอยู่ว่าปัญหาของทีมอยู่ตรงไหน

ก่อนอาการบาดเจ็บหนักของ เชซุส จะเกิดขึ้น อาร์เซน่อล ถูกมองอยู่นานแล้วว่าควรต้องมีหน้าเป้าระดับคุณภาพในทีม 

ฮาแวร์ตซ์ ไม่ได้มีจุดเด่นตรงนี้ แต่ อาร์เตต้า เลือกข้อดีด้านอื่นที่ช่วยทีมได้เช่นกัน ขณะที่ เชซุส มีช่วงทำได้ดีอยู่บ้างโดยเฉพาะตอนก่อนบาดเจ็บ แต่ภาพรวมนับตั้งแต่ย้ายมาถือว่าต่ำกว่าที่คาดหวัง มีบางช่วงทำไม่ได้ไม่ได้เลยนานหลายเดือน 

ฤดูกาลนี้ อาร์เซน่อล เหมือนเจอความโชคร้ายซ้ำซากทั้งอาการบาดเจ็บ และการได้ใบแดงแบบ "อีหวังวะ" จนทำให้สถานการณ์เสียเปรียบและพลาดชัยชนะที่ควรได้ 

ด้วยหลายเคสที่เกิดขึ้น สโมสรต้องฉุกคิดแล้วว่าฤดูกาลนี้มีความไม่ปกติ มีหลายอย่างอยู่เหนือสิ่งที่คาดคิดและวางแผนเอาไว้

ดังนั้น สโมสรต้องคิดกันใหม่ วางแผนกันใหม่ และหาทางรับมือปัญหาอาการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นอีกในอนาคต แค่แผนสำรองอย่างแผนผีอาจไม่เพียงพอ ต้องมองถึงแผน ซี และ ดี ด้วยซ้ำ

อาร์เตต้า และบอร์ดบริหารต้องเผื่อเหลือเผื่อขาดให้มากกว่านี้ และควรคิดจริงจังในการเสริมทัพตั้งแต่ก่อน เชซุส พักยาว

หลายคนเริ่มเป็นห่วงและกังวลมากขึ้นกับการที่ ไค ฮาแวร์ตซ์ ต้องกัดฟัดวิ่งช่วยทีมทั้งที่สภาพร่างกายไม่ไหวแล้ว แต่ก็ไม่มีตัวเปลี่ยน และสุดท้ายความวิตกก็เกิดขึ้นจริง ฮาแวร์ตซ์ บาดเจ็บหนักไปอีกราย 

เมื่อไม่มีคนคอยสลับสับเปลี่ยนก็ต้องทนเล่นในสนามนานกว่าที่ควรจะเป็น ร่างกายสะสมความบอบช้ำเอาไว้มากขึ้นเรื่อยๆ และท้ายที่สุดมันไม่น่าแปลกใจอะไรเลยที่ต้องพักยาวไปอีกคน

มิเกล อาร์เตต้า เลือกมองปัญหาว่าเป็นอีกความท้าทาย

สโมสรประเมินความเสี่ยงในเรื่องนี้เอาไว้ต่ำเกินไป ไม่เอาบทเรียนในอดีตมาใช้ให้เป็นประโยชน์ทั้งที่เจอปัญหาบาดเจ็บมาแล้วหลายครั้งในหลายฤดูกาล และเห็นผลกระทบชัดเจน

อาร์เซน่อล เลือกทางเลือกที่โคตรเสี่ยงกับการใช้งานผู้เล่นเท่าที่มีอยู่ และแม้ อาร์เตต้า ไม่ปิดโอกาสคว้าแข้งฟรีเอเยนต์มาร่วมทีมในตอนนี้ แต่อย่างที่รู้กันว่าเป็นไปได้ยากที่จะหาผู้เล่นคุณภาพที่ดีได้ ไม่อย่างนั้นนักเตะเหล่านี้คงมีต้นสังกัดกันหมดแล้ว

ตรงนี้ อาร์เซน่อล ที่ไม่ได้หมายถึง มิเกล อาร์เตต้า คนเดียว ก็ทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว พวกเขาเลือกเสี่ยงในทางเลือกนี้ และต้องยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเลือก 

ถึงวันนึงที่ทุกอย่างหลุดมือไปแล้ว หมดลุ้นแชมป์ทุกรายการแล้ว มันก็อาจไม่ใช่ความท้าทายในการเลือกมองปัญหาในมุมนี้ แต่เป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ต่างหาก