"ผู้ล่า" ที่อาจกลายเป็น "ผู้ถูกล่า"

อาร์เซน่อล ไม่สามารถเก็บผลการแข่งขันที่ต้องการ และไม่สามารถยิงประตูได้เป็นนัดที่สองติดต่อกัน

สิ่งที่เกิดขึ้นในเกมแบ่งแต้ม ฟอเรสต์ ที่ซิตี้ กราวนด์ แทบไม่ต่างจากวันปราชัยคาบ้านต่อ เวสต์แฮม เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา 

ปืนใหญ่เล่นได้ดีกว่าทัพเจ้าป่าชัดเจน แต่สิ่งที่ทำให้พลาดชนะก็ยังเป็น "เกมรุก" เหมือนเดิม 

ลูกทีมของ มิเกล อาร์เตต้า ได้ยิงตรงกรอบเพียง "ครั้งเดียว" ตลอด 90 นาทีจากลูกโหม่งเตะมุมของ มิเกล เมริโน่ ในครึ่งหลัง 

ส่วนโอกาสจะแจ้งอีกครั้งเป็นการเติมเกมรุกขึ้นไปพลิกยิงด้วยขวาในเขตโทษของ ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ ที่ชนเสาอย่างจัง

สิ่งที่น่ากังวลสำหรับ อาร์เซน่อล ในตอนนี้คือ มิเกล อาร์เตต้า งัดทุกวิธีการที่นึกได้ ออกมาจนเกือบหมดแล้ว แต่ก็ยังแก้ปัญหาการขาด 4 ตัวหลักในเกมรุกไม่ได้

ตลอด 3 นัดหลังสุด อาร์เตต้า พยายามทดลองเกมรุกในทุกรูปแบบทั้งขยับให้ เลอันโดร ทรอสซาร์ ไปเล่นฟอลส์ 9, ดัน มิเกล เมริโน่ ยืนหน้าเป้า หรือจะเป็น ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ได้โอกาสทั้งปีกซ้ายและปีกขวา

รวมไปถึง โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ขยับมาเล่นกองกลาง, ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ ดันขึ้นไปเล่นเกมรุกเต็มตัว ไม่เว้นแม้กระทั่งการแบ็กทูเบสิกใช้แบ็กสไตล์ดั้งเดิมอย่าง คีแรน เทียร์นีย์ 

เมริโน่ เคยเป็นซูเปอร์ซับในเกมกับ เลสเตอร์ แต่เขาไม่ใช่หน้าเป้าอาชีพ สัญชาตญาณและจังหวะการเล่นจึงไม่ได้ลื่นไหล และบางครั้งดูผิดที่ผิดทางทั้งการเล่นของตัวเองและการประสานงานกับเพื่อน 

นาธาน บัตเลอร์-โอเยเดยี่ และ อิสเมอัล คาเบีย เป็นสองดาวรุ่งที่มีชื่อบนม้านั่งสำรอง แต่การที่ไม่ถูกใช้งานเลยทั้งที่ทีมต้องการประตู ก็บ่งบอกอย่างดีว่ายังเด็กเกินไปกับภารกิจนี้

เกมรุก อาร์เซน่อล ชั่วโมงนี้ขาดทั้งความดุดัน ความเร็ว และไอเดียในการเล่น แม้ คาลาฟิออรี่, ซินเชนโก้, โอเดการ์ด และ เดแคลน ไรซ์ พยายามดันสูงกว่าปกติเพื่อช่วยอีกแรง แต่ก็ยังไม่ได้เพิ่มมิติอะไรมาก

คู่แข่งสามารถอ่านการเล่นของ อาร์เซน่อล ได้ง่ายและหาทางรับมือไม่ยากเหมือนนัดล่าสุดที่ นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต บอกเองว่าไม่จำเป็นต้องเล่นหลังห้าเหมือนปกติเพราะ อาร์เซน่อล ไม่มีกองหน้า

"บอกจะพูดถึงไอเดียในการเล่นก็ได้ ตอนนี้ อาร์เซน่อล ไม่มีกองหน้า ดังนั้น เมริโน่ จึงเล่นตำแหน่งนั้น เราเลยไม่จำเป็นต้องใส่กองหลังลงไปเพิ่ม ผมมองว่าต้องคุมแดนกลางให้ได้มากกว่า เลยโอเวอร์โหลดผู้เล่นไปตรงกลาง" กุนซือเจ้าป่า กล่าว 

อาร์เตต้า ไม่มีไพ่ในมือเหลืออีกแล้ว และการเล่นของทีมต่อจากนี้อีกอย่างน้อย 4 นัดก็คงไม่ต่างจากเดิมเพราะ บูคาโย ซาก้า กับ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ น่าจะกลับมาได้หลังเบรกทีมชาติ ส่วน กาเบรียล เชซุส กับ ไค ฮาแวร์ตซ์ ปิดเทอมฤดูกาลนี้ไปแล้วอย่างที่ทราบกัน

ปืนใหญ่ มีคิวลงเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมพบ พีเอสวี เหย้า-เยือน และพบ แมนฯ ยูไนเต็ด กับ เชลซี ในลีกก่อนพักเบรกทีมชาติ โดยที่ ซาก้า กับ มาร์ติเนลลี่ น่าจะกลับมาได้ในเกมพบ ฟูแล่ม วันที่ 1 เมษายน

อาร์เตต้า เพิ่งประกาศก้องก่อนเกมเยือนเจ้าป่า "ข้ามศพตัวเองให้ได้" เพราะไม่คิดถอดใจในการไล่ล่า ลิเวอร์พูล 

ในทางทฤษฎี อาร์เซน่อล เหลือโปรแกรมลงสนามอีก 11 นัด มีคะแนนมากมายให้ไล่เก็บ ทว่าในความรู้สึกที่มองโลกอย่างสมเหตุสมผล โอกาสลุ้นแชมป์เริ่มห่างไกลพวกเขามากขึ้นไปแล้ว

หาก อาร์เตต้า และลูกทีมไม่สามารถแก้วิกฤตในเกมรุกตอนนี้ได้ การเป็น "ผู้ล่า" ที่หวังจะไล่บี้ทีมนำเพื่อเป็นแชมป์ อาจแปรสภาพเป็น "ผู้ถูกล่า" จากหลายทีมที่ไล่ตามหลังซึ่งทำให้แม้แต้โควตา ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็อาจหลุดมือได้เช่นกัน