ชัยชนะที่ทำให้ชีวิตง่ายขึ้น

นี่คือผลการแข่งขัน และความมั่นใจที่ อาร์เซน่อล ต้องการอย่างยิ่ง หลังฟอร์มฝืดในเกมลีก 2 นัดหลังที่ยิงประตูไม่ได้เลย
ในเกมลีก 2 นัดที่แพ้คาบ้านต่อ เวสต์แฮม และบุกเสมอ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ไร้สกอร์ อาร์เซน่อล มีโอกาสลุ้นยิงหลายครั้ง แต่ไม่ใกล้เคียงที่จะได้ประตูเพราะเข้ากรอบรวมกันเพียง 3 ครั้ง
แต่เกมบุกถล่ม พีเอสวี ในนัดแรกของรอบ 16 ทีม ทัพปืนใหญ่ปลดล็อกยิงประตูได้กระจุยกระจาย เหมือนได้ปลดปล่อยความอัดอั้นที่ติดค้างออกมาหมดจด
เพียงแค่ครึ่งชั่วโมงแรกก็ทะลวงเจ้าถิ่นห่างถึง 3-0 จังหวะที่ควรได้ก็ทำได้ และจังหวะที่น่าจะเพลี่ยงพล้ำก็รอด (เฉย)
พีเอสวี น่าจะได้ประตูแรกของเกมด้วยซ้ำจากการยิงเน้นๆ ในเขตโทษของ อิสมาเอล ไซบารี่ ทว่าชนคานสนั่น และจากนั้นเพียงนาทีเศษกลับเป็น เจอร์เรียน ทิมเบอร์ โหม่งให้ อาร์เซน่อล ขึ้นนำ
อีกจังหวะที่ปืนใหญ่รอดตัวคือหลังได้ประตู 2-0 ไมล์ส ลูอิส-สเกลลี่ ที่มีใบเหลืองติดตัว ทำฟาวล์ผู้เล่น พีเอสวี ซึ่งแรงพอเป็นใบเหลืองอีกใบ แต่ผู้ตัดสินใจดีเป่าแค่ฟาวล์
มิเกล อาร์เตต้า รู้ดีว่าหากปล่อยต่อไปไม่ดีแน่ โอกาสโดนไล่ออกจริงๆ มีสูง และในช่วงที่กำลังตัดสินใจว่าจะเอาอย่างไรดี มิเกล เมริโน่ ก็มาพังประตูให้ทีมนำ 3-0
การตัดสินใจจึงทำได้ง่ายเลย ลูอิส-สเกลลี่ ถูกถอดออกก่อนจบครึ่งแรก และมี ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ ลงเล่นแทน
"ผมไม่ได้เห็นการปะทะกันในจังหวะสอง แต่เมื่อคุณนำ 2-0 ในการเล่นนอกบ้าน ผมจึงไม่ต้องการเสี่ยงอีก เขายังอายุน้อยมากๆ ดังนั้นเราจำเป็นต้องปกป้องเขา" อาร์เตต้า เผยถึงการตัดสินเปลี่ยนตัวเร็ว
พีเอสวี โดนอ่วมคาบ้าน
ด้วยการที่ผู้เล่นในแนวรับหายเจ็บกลับมาเป็นตัวเลือกได้เกือบครบยกเว้นเพียง ทาเคฮิโระ โทมิยาสึ ที่พักยาว การปรับเกมของ อาร์เตต้า จึงทำได้ง่ายกว่าแนวรุกที่ 4 ตัวหลักหายไป
สมมุติว่า พีเอสวี ได้ประตูนำก่อน จากนั้น อาร์เซน่อล แซง 2-1 แต่เหลือผู้เล่น 10 คนตั้งแต่นาที 26 ผลการแข่งขันไม่น่าจะออกมาขาดลอยอย่างที่เห็น
เรียกได้ว่าเกมนี้ อาร์เซน่อล มีทั้งคุณภาพและปัจจัยอื่นเป็นใจ จะเรียกว่ามีโชคเข้าข้างก็ว่าได้
พีเอสวี มีกระเตื้่องขึ้นในท้ายครึ่งแรกหลังได้จุดโทษตีไข่แตก และเกือบไล่มาเป็น 3-2 จากลูกโหม่งอันเป็นเครื่องหมายการค้าของ ลุค เดอ ย็อง ที่โขกเต็มศีรษะทว่าข้ามคาน
ต้นครึ่งหลัง อาร์เซน่อล ไม่ปล่อยให้ พีเอสวี ได้มีโมเมนตัมต่อเนื่องมาจากท้ายครึ่งแรกเมื่อเป็นฝ่ายยิง 2 ประตูรวดนำห่างถึง 5-1
ถึงตรงนี้ทุกอย่างจบแล้ว พีเอสวี พยายามดันเกมรุกมากยิ่งขึ้น แต่จังหวะสุดท้ายก็ไม่ได้สร้างปัญหาอะไร ขณะที่ อาร์เซน่อล เล่นรอจังหวะแบบไม่ต้องรีบเร่งอะไร แถมสามารถถอด อีธาน วาเนรี่ ที่โชว์ฟอร์มเด่นยิงประตูได้อีกครั้ง รวมถึง โธมัส ปาร์เตย์ ออกไปพักในช่วง 20 นาทีสุดท้ายได้ด้วย
2 ประตูปิดท้ายจาก โอเดการ์ด ที่เบิ้ลลูกสองของตัวเอง และ ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ เป็นเหมือนโบนัสแทร็กที่ทำให้ อาร์เซน่อล เก็บชัยชนะนอกบ้านในสกอร์สุดเหลือเชื่อ
นอกจากความยอดเยี่ยมในเกมรุกของ อาร์เซน่อล แล้ว ในทางกลับกันก็ต้องบอกว่า พีเอสวี เล่นเกมรับได้แย่มาก กุนซือ ปีเตอร์ บอสช์ ถึงกับควันออกหูกับผลงานลูกทีม และยอมรับกลายๆ ว่าหมดลุ้นเข้ารอบแล้ว
ไมล์ส ลูอิส-สเกลลี่ อาจโดนไล่ออกหากไม่ถูกเปลี่ยนออก
ถ้าไล่ดูแต่ละประตูที่เสีย หรือจังหวะอื่นๆ ที่ อาร์เซน่อล ได้ลุ้นยิง ก็ไม่ได้เป็นการเข้าทำที่เหนือชั้นอะไรเลย ส่วนใหญ่เป็นการต่อบอลง่ายๆ เปิดจากด้านข้าง หรือไม่ก็ไหลตามช่องเข้าเขตโทษ เหมือนลูกซ้อมทั่วไป
เกมรับ พีเอสวี หละหลวมทั้งการยืนตำแหน่ง และประกบตัว แถมแดนกลางก็สกรีนเกมรุก อาร์เซน่อล ได้น้อยมาก ทำให้เห็นจังหวะแบบ โอเดการ์ด พาบอลเลี้ยงมายิงหน้าเขตโทษ หรือ อีธาน วาเนรี่ ก็ได้เลี้ยงตั้งแต่กลางสนามจนเข้าไปยิงในเขตโทษ
อาร์เซน่อล กลายเป็นทีมแรกที่ยิงได้ถึง 7 ประตูในเกมเยือนของ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบน็อกเอาต์ และมาจากนักเตะ 6 คนซึ่งมากสุดอีกเช่นกัน
ชัยชนะขาดลอยช่วยให้ อาร์เซน่อล ทำอะไรได้ง่ายขึ้นเยอะหลังจากนี้
งานในนัดสองที่ได้กลับไปเล่นในรังวันอังคารที่ 11 มีนาคม ก็ไม่น่ายากเย็น ต่อให้หลุดฟอร์มแบบน่าเกลียดแพ้ 0-5 ก็ยังเข้ารอบอยู่ดี
อาร์เตต้า จัดตัวได้แบบไร้กังวล สามารถส่งสำรองหรือดาวรุ่งลงเล่น 3-4 ได้ด้วยซ้ำเพื่อให้ตัวหลักได้พัก และโฟกัสเกมลีกได้มากขึ้น
สุดสัปดาห์นี้ อาร์เซน่อล มีคิวไปเยือน แมนฯ ยูไนเต็ด ในวันอาทิตย์ แม้การลุ้นแชมป์จะริบหรี่ แต่การเป็นเกมใหญ่ เป็นเกมแห่งศักดิ์ศรี แฟนบอลก็อยากเห็นทีมเต็มที่และเอาชนะให้ได้เหมือนเดิม
อาร์เซน่อล เริ่มมองไม่เห็นหลัง ลิเวอร์พูล ที่หนีไปไกล 13 คะแนน แต่สิ่งที่ อาร์เตต้า และลูกทีมต้องระวังคือ "ข้างหลัง" เพราะหลายทีมอยูห่างพวกเขาไม่ห่างนัก การรักษาโควตายูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ให้ได้ก็จำเป็นเช่นกัน
ปืนใหญ่จองตั๋วรอบ 8 ทีมแล้ว
ถ้า อาร์เซน่อล ไม่ได้ผลการแข่งขันที่ดีจากนัดแรกกับ พีเอสวี อาจส่งผลในลีกให้น่าห่วงยิ่งขึ้น พื้นที่ท็อปโฟร์ที่ว่าแน่ๆ (มีโอกาสได้โควตาชปล.เพิ่มเป็น 5 ทีม) ก็มีเสียวได้เช่นกัน
ดังนั้นการได้กำลังใจ และสกอร์ตุนชนะหลายลูก จึงเป็นเรื่องที่ดีมากก่อนเกมลีกบุกรังปีศาจแดงเพื่อลุ้นเก็บอีก 3 คะแนน
เช่นเดียวกับรับมือ เชลซี ในเกมลีกสุดสัปดาห์หน้าที่เป็นโปรแกรมทิ้งทวนก่อนเบรกทีมชาติเดือนมีนาคม
อย่างที่บอกว่า นัดสองกับพีเอสวันในอังคาร อาร์เตต้า สามารถพักตัวหลักบางรายได้เพื่อเก็บไว้ลุยกับ เชลซี ที่ตอนนี้คือทีมอันดับ 5 ถือว่าเป็นคู่แข่งโดยตรงในการแย่งพื้นที่แชมเปี้ยนส์ ลีก
ธรรมชาติของการทำทีมควรต้องโฟกัสเกมหน้ามากสุด ไม่ควรมองข้ามช็อต แต่ อาร์เตต้า สามารถมองถึงเกมกับ เชลซี ก่อนเบรกได้เลยหลังได้ชัยชนะขาดลอยในเกมล่าสุดที่แดนกังหัน
เป็นชัยชนะที่ทำให้การวางแผนต่อจากนี้ทำได้ง่ายขึ้นและชัดขึ้น
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT