ยิ่งเดินยิ่งห่าง

อาร์เซน่อล ต้องการชนะเพื่อรักษาโอกาสลุ้นแชมป์อันริบหรี่ให้มีอยู่ต่อไป แต่กลายเป็นว่าถูก ลิเวอร์พูล ทิ้งห่างเป็น 15 คะแนนแล้ว
มิเกล อาร์เตต้า พยายามหลีกเลี่ยงที่จะพูดว่าการลุ้นแชมป์ "จบแล้ว" หลังถูกนักข่าวถามจี้อย่างหนัก
"ผมไม่ต้องการพูดแบบนั้น แต่มันเป็นความหงุดหงิดที่เราไม่สามารถชนะเกมของตัวเอง"
"เรารู้ดีว่าต้องชนะทุกนัดที่เหลือเพื่อโอกาสลุ้นแชมป์ แต่ผมไม่คิดว่าตอนนี้คือเวลาที่เหมาะสมที่จะพูดถึงมัน" อาร์เตต้า กล่าว
อาร์เซน่อล มีสถิติที่ดีกับการเจอ แมนฯ ยูไนเต็ด ในลีกช่วงหลัง โดยที่มีลุ้นเอาชนะปีศาจแดง 5 นัดติดเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร
ทว่าปัญหาในเกมรุกก็ยังเป็นสิ่งที่แก้ไม่หาย และดับความหวังของทีมไปเรื่อยๆ
มิเกล อาร์เตต้า และลูกทีมไม่สามารถรักษาโมเมนตัมจากเกมยุโรปที่บุกยิง พีเอสวี ขาดลอยถึง 7 ประตูได้ เพราะเมื่อกลับมาเล่นในลีกก็คืนร่างเดิมอีกครั้ง
สิ่งที่เกิดขึ้นที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด โดยเฉพาะครึ่งแรก แทบไม่ต่างจากวันที่แพ้คาบ้านต่อ เวสต์แฮม และเสมอที่รัง น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์
ครองเกมได้มากกว่า ต่อบอลได้มากกว่า และหาจังหวะยิงประตูได้มากกว่า ทว่าโอกาสจะแจ้งที่จะได้ประตูมีน้อยมาก
ปืนใหญ่เป็นฝ่ายขึงใส่เจ้าถิ่นอยู่ฝ่ายเดียวตลอดครึ่งแรก แต่จังหวะชี้เป็นชี้ตายก็ขาดประสิทธิภาพ
ในทางตรงกันข้าม กลับเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ฉวยโอกาสขึ้นนำก่อนในช่วงทดเจ็บจากฟรีคิกของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ที่ เดวิด ราย่า น่าจะป้องกันได้ดีกว่านี้
แมนฯ ยูไนเต็ด เล่นในรังตัวเอง แต่ รูเบน อาโมริม จำเป็นต้องวางแท็กติกเน้นรับรอสวนกลับเพื่อผลการแข่งขันที่ต้องการ
อาร์เซน่อล มีปัญหาผู้เล่นแนวรุกบาดเจ็บหลายคน แมนฯ ยูไนเต็ด ก็มีเช่นกัน และสถานการณ์โดยรวมในฤดูกาลนี้ย่ำแย่กว่าอีก การอยู่อันดับ 15 ของตารางบ่งบอกทุกอย่างเป็นอย่างดี
อาโมริม กล่าวถึงแท็กติกในการรับมือ อาร์เซน่อล ว่า "เราไม่อยากเล่นแบบเน้นรับมากเกินไปและปล่อยให้คู่แข่งครองบอลหรอก แต่ด้วยสภาพทีมตอนนี้ เราต้องปรับตัวและหาวิธีเล่นที่ทำให้เรามีโอกาสชนะได้ และวันนี้เราก็แสดงให้เห็นแล้วว่ามันใช้ได้ผล"
ประตูของ บรูโน่ ทำให้เกมในครึ่งหลังเปิดมากขึ้น อาร์เซน่อล พยายามโหมสุดตัว และทำให้ข้างหลังมีพื้นที่ให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้โจมตีบ่อยครั้ง
แม้ปืนใหญ่ครองบอลได้มากกว่าเหมือนเดิม แต่โอกาสจะแจ้งที่จะได้ประตูเป็นทางปีศาจแดงที่น่าจะยิงได้ 2 หรือ 3 ประตูด้วยซ้ำ หากไม่ติดเซฟของ ราย่า ที่โชว์ฟอร์มเป็นพระเอกสุดๆ ในครึ่งหลัง
โอกาสของ นุสแซร์ มาซราอุย, โจชัว เซิร์กเซ่ และ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ล้วนแต่ใส่สกอร์ได้เลย ทว่า ราย่า ปฏิเสธเอาไว้ได้ทั้งหมด
อาร์เซน่อล อาจจะเสียดายที่ไม่สามารถชนะได้เพราะเป็นฝ่ายคอนโทรลเกมและมีจังหวะยิงมากกว่า แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็รู้สึกไม่ต่างกันจากโอกาสทองหลายครั้งในครึ่งหลัง
ท้ายที่สุดจึงจบด้วยผลเสมอซึ่งแม้เป็นสิ่งที่ยุติธรรมดา แต่ก็ไม่ได้ส่งผลดีอะไรต่อทั้งสองทีม
อาร์เซน่อล จบสัปดาห์ด้วยการตามหลัง ลิเวอร์พูล ห่างเป็น 15 คะแนน ขยับจากอันดับ 15 ขึ้นมา 14 จากหนึ่งคะแนนที่ได้เพิ่ม
เป็นเกมที่จบลงแล้วทำให้ทั้งสองทีมยิ่งเดินยิ่งห่างจากเป้าหมายที่ต้องการ
อาร์เซน่อล คงต้องพึ่งปาฏิหาริย์เท่านั้นถึงจะแซงหน้าคว้าแชมป์ได้ และแน่นอนว่าเรื่องราวที่เหลือเชื่อคงไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยโดยเฉพาะกับทีมที่ไม่พร้อมที่จะสร้างมันขึ้น
อาร์เตต้า ยังแก้ปัญหาในเกมรุกไม่ได้ คำถามเรื่องกองหน้าคนใหม่ที่ไม่ดึงมาร่วมทีมในตลาดหน้าหนาวยังคงทิ่มแทงใจเหมือนเดิม
เมื่อตัดสินใจว่าจะใช้งานนักเตะที่มีอยู่ หรือใจจริงอยากได้แต่บอร์ดไม่อนุมัติ ถึงตรงนี้่ก็แก้ไขอะไรไม่ได้อีก และต้องยอมรับกับผลที่ตามมา
แม้ไม่ใช่สิ่งการันตีว่าการมีดาวยิงธรรมชาติมาเพิ่มในตลาดหน้าหนาวจะทำให้ อาร์เซน่อล เบียดลุ้นแชมป์กับ ลิเวอร์พูล ได้ดีกว่านี้ แต่การ "มี" ตัวเลือกย่อมดีกว่า "ไม่มี"
ในสถานการณ์ที่ต้องการทำประตูแซงชนะให้ได้ ไม้ตายสุดท้ายที่ อาร์เตต้า ทำก็คือส่งแบ็กซ้าย คีแรน เทียร์นีย์ ลงสนามแทน โธมัส ปาร์เตย์
อาร์เตต้า ไม่ควรหลอกตัวเองเรื่องการลุ้นแชมป์ แต่ควรต้องยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น ยอมรับกับสิ่งที่เลือกซึ่งมีผลตามมาในตอนนี้
มองโลกสวยเกินไปก็มีแต่จะยิ่งเดินยิ่งห่างจากความเป็นจริง
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT