แดน เบิร์น : ไอ้โย่งรถเข็นไปไกลถึงทีมชาติ

แต่ไม่ใช่สำหรับ แดน เบิร์น ที่ประตูสู่ทีมชาติเปิดขึ้นตอนอายุ 32 ปี
ปราการหลังหุ่นเสาโทรเลขของ นิวคาสเซิ่ล เป็นหนึ่งในแข้งหน้าใหม่ที่ โธมัส ทูเคิล กุนซือคนใหม่ เรียกติดทัพสิงโตคำรามเป็นครั้งแรก เช่นเดียวกับ ไมล์ส ลูอิส-สเกลลี่ แบ็กซ้ายดาวรุ่งจาก อาร์เซน่อล
การรอคอยอันยาวนานสิ้นสุดลงแล้ว ผลลัพธ์ของการต่อสู้ปากกันตีนถีบมาตั้งแต่เด็กออกมาคุ้มค่า
นี่คือสัปดาห์ที่ดีสุดในชีวิตของ แดน เบิร์น ก็ว่าได้เพราะนอกจากถูกเรียกตัวติดทีมชาติเป็นครั้งแรกแล้ว ยังช่วยให้ทีมรัก นิวคาสเซิ่ล คว้าแชมป์ในประเทศครั้งแรกในรอบ 70 ปี ในถ้วยคาราบาว คัพ ที่เอาชนะ ลิเวอร์พูล 2-1 โดยที่ตัวเขาเป็นคนโหม่งประตูแรกของเกม
กว่าจะมีสัปดาห์ที่ดีงามยิ่งกว่าฝันนี้ แดน เบิร์น เดินทางมาไกลมาก
เบิร์น เคยถูก นิวคาสเซิ่ล ปล่อยตัวในตอนเด็กเพราะไม่ดีพอที่จะได้อยู่ในทีมเยาวชนต่อไป เขาจำใจเก็บข้าวของไปพิสูจน์ตัวเองที่อื่นพร้อมกับทำงานหาเงินด้วยการเป็นพนักงานดูแลรถเข็นที่ซูเปอร์มาร์เก็ต
ไม่ใช่แค่ชีวิตนักฟุตบอลช่วงเริ่มต้นที่ต้องผิดหวังบ่อยครั้งในช่วงเริ่มต้น ชีวิตจริงก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบ เขามีนิ้วมือเพียง 9 นิ้วหลังจากเสียนิ้วนางข้างขวาไปเพราะอุบัติเหตุตอนอายุ 13 ขวบ
ได้เล่นพรีเมียร์ลีกครั้งแรกกับ ฟูแล่ม
เจ้าของความสูง 6 ฟุต 7 นิ้ว ที่เริ่มเล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตูมาก่อน เปิดใจหลังมีชื่อติดทีมชาติเป็นครั้งแรกว่า "ผมรอคอยโอกาสนี้มานานมาก และผมไม่ต้องการทำให้เสียบรรยากาศหรอกนะ แต่เขา (โธมัส ทูเคิ่ล) บอกกับผมว่าเล่นได้ดีมานานแล้ว และผมก็ไม่ได้มาที่นี่เพียงเพื่อนั่งเชียร์เพื่อน ผมต้องการลงเล่นด้วย"
"ความฝันของเด็กๆ ทุกคนคือการเล่นฟุตบอลโลก ผมไม่เคยลงเล่นทีมชาติใดๆ มาก่อน ผมคิดว่าโอกาสติดทีมชาติคงผ่านไปแล้วในวัย 32 ปี"
"แต่ตอนที่ผู้จัดการทีมคนใหม่เข้ามาก็มีความรู้สึกแบบ 'คุณไม่มีทางรู้หรอกว่าอนาคตอะไรจะเกิดขึ้น'"
"ผมรู้ว่ามันจะเป็นเรื่องยากกับการมาที่นี่ที่เต็มไปด้วยนักเตะทีมชาติ ผมไม่เคยติดทีมมาก่อน แต่ผมรู้สึกว่าผมพร้อมช่วยทีมเต็มที่ และนั่นคือสิ่งที่ผมต้องการทำ"
ตอนที่ถูกปล่อยตัวออกจาก นิวคาสเซิ่ล เบิร์น อายุเพียง 11 ขวบ และพออายุ 16 ก็ต้องไปทำงานดูแลรถเข็นที่ ASDA ซูเปอร์มาร์เก็ตใน ไบลธ์ เมืองบ้านเกิดสัปดาห์ละครั้ง
ช่วงเวลานั้น เบิร์น เล่นให้ ไบลธ์ สปาร์ตันส์ ที่อยู่นอกลีก ก่อนย้ายร่วมทีม ดาร์ลิงตัน ในลีก ทู ด้วยสัญญาเยาวชนในปี 2009
การถูกเรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษในวันนี้้เป็นเรื่องไกลตัวสำหรับ แดน เบิร์น ที่ในช่วงเยาวชนเขาต้องซักชุดแข่งเอง และเตรียมอาหารกลางวันไปสนามซ้อมด้วย
สร้างชื่อจริงจังกับ ไบรท์ตัน
ขนาดตอนไปสอบใบขับขี่ รายได้ของ เบิร์น ในการทำงานวันเสาร์ยังไม่เพียงพอสำหรับค่าน้ำมันรถ เขาใช้วิธีขับรับส่งเพื่อนจาก ไบลธ์ ไป เคาน์ตี้ เดอร์แฮม เพื่อแลกกับค่าน้ำมัน
เบิร์น เอาชนะความยากลำบากทางการเงินจนได้ขึ้นชุดใหญ่ของ ดาร์ลิงตัน และทำผลงานได้ดีจนกระทั่งได้โอกาสครั้งสำคัญย้ายร่วมทีม ฟูแล่ม ในปี 2011 ขณะอายุเพียง 18 ปี
5 ปีในรังคราเวน ค็อตเทจ เบิร์น ได้เล่นพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรก และลงสนามไปทั้งหมด 69 นัด แต่ก็ไม่ได้ต่อเนื่องสม่ำเสมอ เขาถูกปล่อยยืมตัวไปเล่นที่ โยวิล ทาวน์, เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ก่อนย้ายขาดไป วีแกน ในปี 2016
เขาได้หวนคืนเวทีพรีเมียร์ลีอีกครั้งในปี 2018 เมื่อเซ็นสัญญากับ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟอัลเบี้ยน โดยในซีซั่นแรกถูกส่งกลับไปให้ วีแกน ยืมใชงาน ก่อนกลับมาเป็นแกนหลักให้กับ ไบรท์ตัน ในซีซั่นต่อมา
วันที่รอคอยมาถึง เบิร์น ได้หวนคืนรังย้ายร่วมทีมรัก นิวคาสเซิ่ล อีกครั้งในเดือนมกราคม ปี 2022 เพื่อช่วยกอบกู้ทีมรักที่สุ่มเสี่ยงต่อการตกชั้นหลังจากชนะเพียงนัดเดียวใน 22 นัดแรก
ในช่วงนั้น นิวคาสเซิ่ล เพิ่งได้เจ้าของใหม่เข้ามากอบกู้สโมสร และเปลี่ยนผู้จัดการทีมจาก สตีฟ บรูช เป็น เอ็ดดี้ ฮาว และ แดน เบิร์น ก็คือหนึ่งใน 5 แข้งใหม่ที่ ฮาว ดึงมาช่วยทีมในตลาดหน้าหนาว
ค่าตัว 13 ล้านปอนด์ กลายเป็นการลงทุนที่คุ่มค่าเมื่ออดีตลูกหม้อสโมสรช่วยให้ทีมมีเกมรับที่ดีขึ้น พร้อมกับเดินหน้าเก็บชัยชนะได้ 12 จาก 18 นัดสุดท้ายจนไต่อันดับขึ้นมาจบที่ 11 ของตาราง ห่างโซนตกชั้น 14 คะแนน
ช่วยให้ทีมรักสาลิกาสิ้นสุดการอคอยความสำเร็จ
"มันทำให้ผมรู้สึกยืดหยุ่น ผมไม่ได้มีเส้นทางอาชีพที่พุ่งขึ้นต่อเนื่อง มันมีช่วงขึ้นและลง ผมได้เล่นพรีเมียร์ลีกครั้งแรกตอนอายุ 21 ปี แต่จากนั้น 3 ปีก็ถูก ฟูแล่ม ปล่อยตัว แต่ผมไม่สนใจความคิดเห็นของผู้คนนัก ผมรู้ว่าผมทำอะไรได้"
"ผมรู้สึกว่ามีคนสงสัยในฝีเท้าผมเยอะมากตลอดอาชีพที่ผ่านมา และคงมีไม่กี่คนใน ดาร์ลิงตัน คิดว่าผมจะมานั่งให้สัมภาษณ์กับทีมชาติอังกฤษในวันนี้ แต่ผมรู้สึกว่าผมสมควรมาอยู่จุดนี้แล้ว" เบิร์น กล่าว
เบิร์น เป็นหนึ่งในตัวจริงของ นิวคาสเซิ่ล ชุดที่แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-2 ในนัดชิงชนะเลิศคาราบาว คัพ เมื่อปี 2023
ก่อนความปราชัยในนัดชิงชนะเลิศวันนี้ คุณพ่อของเขาที่เคยเป็นสมาชิกตั๋วปีของ นิวคาสเซิ่ล ได้เขียนจดหมายสุดซาบซึ้งใจถึงลูกชาย
เนื้อความในจดหมาย คุณพ่อของ เบิร์น บรรยายถึงความภูมิใจที่เขารู้สึก และบอกเล่าส้นทางของลูกชายที่เคยถูกปฏิเสธจากสโมสร และต้องไปเข็นรถเข็นหารายได้ที่ซูเปอร์มาร์เก็ต จนถึงวันที่ได้ลงเล่นในลงดวลฝีเท้ากับนักเตะชื่อดังในสนามระดับโลก
เบิร์น เล่าต่อ "ผมมีเป้าหมายเล็กๆ ที่อยากทำให้ได้ในตอนนี้ ผมต้องการลงเล่นในลีก ทู และก็ทำได้ ลงเล่นในลีก วัน และก็ทำได้ ผมรู้สึกมาตลอดว่ามีความสามารถที่จะเล่นในระดับทีมชาติได้ แต่คุณจะไม่มีประสบการณ์เว้นแต่ว่าคุณลงมือทำ"
"ผมเคยถูกมองข้าม แต่ก็เข้าใจได้ ในความคิดของผม แกเร็ธ (เซาธ์เกต) ทำทีมคล้ายสโมสรมากกว่าซึ่งก็ได้ผลดี มันเป็นเรื่องของความพร้อมเพรียง แต่มันไม่เป็นผลดีสำหรับผมเท่าไหร่ ดังนั้นเมื่อผู้จัดการทีมคนใหม่เข้ามา มันก็เหมือนว่าได้เริ่มต้นอีกครั้ง"
"โชคดีที่ผู้จัดการทีมคนใหม่มอบโอกาสให้ผม และผมก็ต้องการคว้าโอกาสนี้เอาไว้ ผมเคยคิดว่าโอกาสติดทีมชาติคงผ่านไปแล้วตอนผมอายุ 32 ปี"
ซูเปอร์มาร์เก็ต ASDA ร่วมยินดีกับ แดน เบิร์น
การติดทีมชาติของ เบิร์น คือความภูมิใจของผู้คนใน ไบลธ์ อย่างแท้จริง ขนาด ASDA ซูเปอร์มาร์เก็ตที่เขาเคยไปทำงานด้วยช่วงวัยรุ่นก็ยังร่วมยินดีในก้าวสำคัญที่ยิ่งใหญ่นี้ และได้รีไทร์เสื้อกั๊กหมายเลข 33 ที่เขาเคยใส่ทำงานเพื่อเป็นเกียรติด้วย
"โทรศัพท์ของผมปิดอยู่ ผมใช้หมายเลขเดิมมาตั้งแต่อายุ 16 ดังนั้นคงต้องไม่เชื่อแน่ว่ามีข้อความเยอะขนาดไหน"
"ภาคตะวันออกเฉียงหน้าของอังกฤษมักถูกมองข้ามอยู่นิดๆ ในเชิงลูกหนัง ไม่ได้มีทีมที่ผลิตนักเตะชั้นนำออกมามากนัก ผมจึงภูมิใจมากๆ ที่ตัวเองมาจาก นิวคาสเซิ่ล ผมรักที่จะบอกกับทุกคนว่าผมมาจากไหน"
วันศุกร์นี้ แดน เบิร์น กำลังจะทำให้เห็นอีกครั้งว่าเขาภูมิใจแค่ไหนกับถิ่นที่มาของตัวเอง และการเดินทางอันแสนไกลกว่าจะถึงวันที่ได้สวมเสื้อทีมชาติอังกฤษลงสนามในเวมบลีย์
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT