สมควรจบแบบนี้
ความพ่ายแพ้ต่อ แอตเลติโก มาดริด ทำให้อาร์เซน่อลหยุดเส้นทางในยูโรปา ลีก ไว้ที่รอบรองชนะเลิศ และยังเป็นเกมยุโรปนัดสุดท้ายของ เวนเกอร์ ในฐานะกุนซือปืนโต
เป็นการสิ้นสุดช่วงเวลา 22 ปีแบบน่าเศร้า และล้มเหลวอีกครั้งในถ้วยยุโรป
เวนเกอร์ เคยพาทีมเข้าชิงชนะเลิศยูฟ่า คัพ ในปี 2000 แต่ก็พ่ายจุดโทษกาตาลาซาราย 1-4
อีก 6 ปีถัดมา ได้เข้าชิงถ้วยใหญ่แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่ผลลัพท์ไม่ต่างกัน กลายเป็นผู้แพ้จากการโดนบาร์เซโลน่ายิงแซงชนะ 2-1
ครั้งนี้ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายก็ไปไม่ถึงรอบชิงฯ ความหวังของใครหลายคนที่อยากเห็นการอำลาเวนเกอร์เป็นไปอย่างสวยงามด้วยการมีแชมป์ ก็ต้องผิดหวังกันไป
เป็นเรื่องเศร้าที่ฉากจบของ เวนเกอร์ กับอาร์เซน่อลลงเอยแบบนี้ แต่ความจริงที่ต้องยอมรับคือ พวกเขาไม่ดีพอและไม่คู่ควรที่จะได้ตั๋วรอบชิงฯ แม้แต่นิด
หากจะบอกว่าอาร์เซน่อลโยนโอกาสของตัวเองทิ้งตั้งแต่นัดแรกก็คงไม่ผิดนัก
ในสถานการณ์ที่ได้เปรียบทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเล่นในบ้าน คู่แข่งโดนใบแดงตั้งแต่ 8 นาทีแรกตามด้วยกุนซือโดนไล่ขึ้นอัฒจันทร์ พร้อมกับสร้างโอกาสยิงประตูได้ถึง 28 ครั้ง
แต่ทำได้เพียงประตูเดียวและยังมาเสียประตูโง่ๆ ท้ายเกม
สกอร์ 1-1 ในนัดแรกจึงเป็นความเสียเปรียบในทันทีที่มาเยือนตราหมีซึ่งไม่เสียประตูในบ้านมา 11 นัดติดต่อกันและชนะถึง 10 นัด
อันที่จริง เงื่อนไขในนัดสองของอาร์เซน่อลก็ไม่ได้ยากอะไรเพราะขอแค่เพียงยิงได้ 1 ประตูก็ได้อะเวย์โกลคืนแล้ว ทว่าตลอดทั้งเกมแทบไม่ได้สร้างความระคายเคืองให้ แยน โอบลัค แม้แต่นิดเดียว
นัดแรกที่เอมิเรตส์ นายทวารตราหมีงานเข้ายิ่งกว่าพระเอกคิวทอง แต่เกมนี้แทบไม่ได้ต้องออกแรงใดๆ เพราะอาร์เซน่อลยิงบอลเข้ากรอบเพียงครั้งเดียวและมาจากการยิงไกลของ กรานิต ชาคา
นั่นหมายความว่า นักเตะปืนโตไม่สามารถต่อบอลเข้าไปยิงในเขตโทษตามสไตล์ถนัดของตัวเองได้เลย
ตราหมี เป็นเกมที่เล่นเกมรับได้ดีเยี่ยมอยู่แล้ว เกมนี้โชว์คุณภาพออกมาได้อีกครั้ง การยืนตำแหน่งที่บัญชาการโดย ดีเอโก้ โกดีน แน่นหนาและเต็มพื้นที่ทุกตารางนิ้ว บอลเคาะตามช่องของอาร์เซน่อลไม่สามารถจบในจังหวะสุดท้ายได้เลย หากไม่ติดบล็อกก็โดนบีบให้ต้องยิงทิ้งยิงขว้าง
เมื่อนัดสองที่ทุกอย่างกลับมาเท่ากัน 11 คนของตราหมีจึงเล่นในสไตล์ของตัวเองได้ดีกว่า รับแน่นรอโต้ จังหวะเข้าทำรวดเร็ว แข็งแกร่ง และแม่นยำ แนวรับอาร์เซน่อลปั่นป่วนทุกครั้งที่ตราหมีได้บอล
โชคร้ายที่ โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ เจ็บตั้งแต่ต้นเกมทำให้ต้องส่ง คาลั่ม แชมเบอร์ส ลงแทน แต่ต่อให้กองหลังชาวฝรั่งเศสยังอยู่ในสนามก็ไม่ได้หมายความว่าจะจัดการเกมรุกของตราหมีที่ทรงประสิทธิภาพได้
การได้ ดีเอโก้ คอสต้า กลับมาทำให้ตราหมีอันตรายขึ้นอีกหลายเท่าเพราะลำพังแค่ความคล่องตัวของ อองตวน กรีซมันน์ ก็เป็นปัญหาใหญ่ที่อาร์เซน่อลรับมือได้ยากแล้ว พอมีความถึกของ คอสต้า เข้ามาเสริมก็ยิ่งครบเครื่อง
คอสต้า เล่นงานอาร์เซน่อลตั้งแต่ต้นเกม และประตูที่ยิงได้ก็แสดงให้เห็นว่าไม่ได้มีความแข็งแกร่งอย่างเดียว หากแต่หาพื้นที่และรู้จังหวะที่ต้องวิ่งได้ดีอีกด้วย ขนาด เอคตอร์ เบเยริน ที่เร็วที่สุดในทีมอาร์เซน่อลยังเสียท่า
รู้ตัวอีกทีก็มีสภาพไม่ต่างจากสามล้อคันเล็กที่ริอาจไปเบียดสิบล้อ!!
เกมรุกอาร์เซน่อลขึงเกมได้หลายช่วง แต่จังหวะสุดท้ายยังคงเป็นปัญหา นัดแรกได้ยิงแต่ไม่เฉียบขาด แต่นัดสองดูจะมีปัญหาเรื่องการตัดสินใจอย่างมาก
แบ็กสองข้างเปิดบอลได้อย่างน่าผิดหวัง ส่วนหนึ่งคือยิ่งเวลาเหลือน้อยก็ยิ่งสร้างความกดดันให้อาร์เซน่อล แถมยังเสียประตูในช่วงเวลาที่ไม่น่าโดนและบั่นทอนกำลังใจอย่างยิ่งคือทดเจ็บครึ่งแรก
ความรู้สึกระหว่าง 0-0 ตอนพักครึ่ง กับ โดนยิง 1-0 ตอนทดเจ็บ ต่างกันสิ้นเชิงทีเดียว
เมซุต โอซิล, แจ็ค วิลเชียร์ และ แดนนี่ เวลเบ็ค รวมถึง เฮนริค มคิทาร์ยาน ที่ลงสำรองช่วงท้ายไม่สามารถกดดันแนวรับตราหมีได้เท่าที่ควร 20-30 นาทีสุดท้ายยิ่งเล่นไม่ออก ไม่ได้ทำให้แฟนบอลได้ลุ้นแม้แต่นิด
เหมือนรับสภาพตัวเองว่าทำได้แค่นี้ ไม่รู้จะเจาะยังไง นอกจากความแข็งแกร่งในจังหวะเบียดปะทะกันแล้ว สปีดบอลในการเล่นยังช้ากว่าอีกทั้งที่ได้ชื่อว่าเล่นเกมเร็วได้ดีอีกทีม
เป็นฟอร์มการเล่นที่น่าผิดหวังสุดๆ และไม่ได้มีแผนสองแผนสามเพื่อแก้หมากของตราหมีเลย
แต่ก็อย่างที่ว่าไป อาร์เซน่อลทำตัวเองให้ลำบากที่สเปนเพราะการที่ไม่สามารถกุมความได้เปรียบทั้งที่โอกาสเพียบในนัดแรกได้
เมื่อทำไม่ได้ก็ต้องถูกลงโทษ ผู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่ "อยู่รอด" และ "อ่อนแอก็แพ้ไป"
นี่คือสิ่งที่อาร์เซน่อลสมควรได้รับ พวกเขาไม่สามารถมีเกียรติยศใดๆ ติดมือในฤดูกาลนี้เพราะขาดซึ่งคุณภาพที่ควรมี และไม่มีความเป็นนักสู้ที่พร้อมถวายหัวแบบเกินร้อย
ความผิดพลาดหลายอย่างเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีกและไม่เคยได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น
แต่จบแบบนี้ก็ดีแล้ว ไหนๆ ก็จะเปลี่ยนผู้จัดการทีมก็ให้ซัมเมอร์นี้เป็นซัมเมอร์ที่ได้ "ลางบาง" เต็มรูปแบบ
ใครที่เคยได้รับการ "อุ้มชู" จนเกินเหตุจนไม่ได้พัฒนาอย่างที่ควรจะเป็นก็ต้องรู้ตัวแล้วว่าอนาคตคงเป็นแบบนี้ไม่ได้
หากไม่เค้นอะไรสักอย่างมาโชว์กุนซือใหม่ก็เตรียมจบเห่ได้เลย
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT