ส่งใจช่วย'ป๋า'

"เฟอร์กี้" ต่อสู้กับความยากลำบากมามากมายจนกระทั่งสร้างให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยิ่งใหญ่ระดับโลก แต่วันนี้เขาต้องเจอบททดสอบที่ยากที่สุด และต่างจากที่เคยพบมาโดยสิ้นเชิง

เป็นบททดสอบที่มี "ชีวิต" เป็นเดิมพัน 

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา กุนซือวัย 76 ปี เป็นลมคาบ้านพักจนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลซึ่งทางแพทย์ก็ทำการผ่าตัดสมองเป็นการด่วนเพราะมีเลือดออกในสมอง

เฟอร์กี้ อยู่ในอาการโคม่าหลายชั่วโมง สร้างความตกอกตกใจต่อคนที่ทราบข่าวโดยเฉพาะในวงการฟุตบอลที่ร่วมส่งกำลังใจให้ท่านเซอร์พ้นขีดอันตรายให้ได้ 

ชั่วโมงวิกฤตผ่านไปหลายชั่วโมงจนล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมามีรายงานข่าวว่า เซอร์ อเล็กซ์ พ้นจากอาการโคม่าและรู้สึกตัวแล้ว สามารถลุกขึ้นนั่งตลอดจนพูดคุยกับคนรอบข้างได้

ทางทีมแพทย์รวมถึงครอบครัวของอดีตกุนซือผีแดงยังไม่ออกมาให้ข่าวอัพเดตใดๆ เพิ่มเติมเพราะต้องการความเป็นส่วนตัว ไม่อยากให้วุ่นวายเกินเหตุ แต่แน่นอนว่าการรู้สึกตัวของป๋าเป็นข่าวดีที่แฟนบอลต่างรอคอย

หลายคนสงสัยว่า อาการของโรคที่ท่านเซอร์เผชิญในตอนนี้คืออะไรกันแน่ ?

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่าโรคนี้คร่าชีวิตผู้ป่วย 1 ใน 5 คน? และอีก 2 ใน 5 ก็จะเป็นอัมพฤกษ์, อัมพาต หรือ ตาบอด?  

บนเยื่อหุ้มสมองจะมีหลอดเลือดวิ่งอยู่เป็นจำนวนมาก หากหลอดเลือดเหล่านี้มีความผิดปกติ เช่น "Berry Aneurysm" หรือ อาจจะเกิดจากความดันโลหิตสูง หรือได้รับอุบัติเหตุมีการฉีกขาด หลอดเลือดเหล่านั้นแตกก็จะทำให้มีเลือดออกในชั้น "Subarachnoid"

โรคนี้พบได้ประมาณ 6-12 คนต่อประชากร 100,000 คน หรือร้อยละ6 ของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองเฉียบพลัน อายุเฉลี่ยที่พบคือ 50 ปี ขึ้นปี?

การมีเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นกลางเป็นโรคหลอดเลือดสมองอย่างหนึ่งซึ่งคิดเป็น 1-7 เปอร์เซ็นต์ของโรคหลอดเลือดสมองทั้งหมด? ถือเป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ที่อาจทำให้เสียชีวิตหรือทุพพลภาพได้รุนแรงแม้จะได้รับการวินิจฉัยและรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ ก็ตาม 

ผู้ป่วยเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นกลางเกือบครึ่งนั้นเสียชีวิต และ 10-15 เปอร์เซ็นต์ เสียชีวิตก่อนมาถึงโรงพยาบาล? ผู้ที่รอดชีวิตนั้นก็มักมีความสูญเสียทางระบบประสาทหรือการรับรู้

จากคำอธิบาททางการแพทย์คร่าวๆ ทำให้เรารับรู้ว่า ชีวิตของป๋ามีเพียงเส้นบางๆ คั่นอยู่ระหว่าง "ความเป็น" กับ "ความตาย"

ตอนนี้รู้สึกตัว พูดคุยได้ แต่ยังไม่มีอะไรการันตีว่าจะกลับมาเหมือนเดิมเพราะต้องใช้เวลาอีกนานในการฟื้นฟูและทำการกายภาพบำบัดโดยที่ต้องมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญดูแลอย่างใกล้ชิด

อย่างไรก็ตามสัญญาณบวกดีๆ หลายอย่างก็ทำให้แฟนบอลใจชื้นขึ้นมาได้บ้างโดยเฉพาะบทสนทนาแรกยังคงคุยเรื่องฟุตบอลซึ่งเป็นสิ่งที่ป๋าทุ่มเทให้ทั้งชีวิต และหายใจเข้าออกเพื่อสิ่งนี้

เดอะ ซัน สื่ออังกฤษเปิดเผยว่าทันทีที่รู้สึกตัว ป๋าก็ถามถึงผลการแข่งขันของ ดอนคาสเตอร์ โรเวอร์ส ที่ ดาร์เรน เฟอร์กูสัน ลูกชายของตัวเองคุมทีมอยู่

ป๋าเป็นลมหมดสติก่อน ดอนคาสเตอร์ ลงเล่นนัดสุดท้ายของฤดูกาลที่เปิดรับเจอวีแกนซึ่งผลการแข่งขันเป็นทีมเยือนบุกชนะ 1-0

ในช่วงนี้อีกหลายวันหลายสัปดาห์ เฟอร์กี้ ยังต้องอยู่ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของแพทย์นั่นทำให้ไม่สามารถมาให้กำลังใจผีแดงลงเล่นในเอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ กับ เชลซี ที่สนามเวมบลีย์ในวันอาทิตย์ที่ 19 พ.ค. นี้

แต่ก็ไม่วายที่จะต่อรองกึ่งเล่นมุกอีกเกมคือ แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงฯ ว่า "อืม...เอฟเอ คัพ รอบชิงฯ ไม่ได้ แล้วเกมที่เคียฟล่ะ?" 

สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าป๋าหายใจเข้าออกเป็นฟุตบอลจริงๆ และก็นับว่าเป็นเรื่องดีที่หลังฟื้นได้สติก็ไม่ลืมในสิ่งที่ตัวเองหลงใหล 

ตลอดชีวิตการทำงานกุนซือมาหลายสิบปี เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน สะสมความกดดันและความเครียดเอาไว้มาก เส้นเลือดในสมองทำงานหนักเป็นพิเศษ พอมีอะไรมาสะกิดเพียงเล็กน้อยก็ล้มครืนทันที และยิ่งอายุเจ็ดสิบกว่าแบบนี้แล้ว การทำงานของอวัยวะต่างๆ ก็ไม่ได้สมบูรณ์เหมือนคนที่หนุ่มแน่นกว่า

นั่นทำให้ทุกคนต่างเอาใจช่วยและอวยพรให้ป๋าฝ่าวิกฤตชีวิตครั้งนี้ให้ได้เพราะเข้าใจดีกว่า "สาหัส" เอาเรื่อง 

ไม่ว่าจะเป็นแฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือคู่แข่งใดๆ ก็ตามที่เคยปราชัยต่อทีมของเซอร์ อเล็กซ์ ก็ต่างออกมารวมใจกันเป็นหนึ่งเดียว ให้กำลังใจปูชนียบุคคลอันทรงคุณค่าต่อวงการฟุตบอลท่านนี้

"ขอให้ป๋าหายเร็วๆ ครับ"

เคยทำทีมโกงความตายมานับไม่ถ้วน ครั้งนี้ต้องทำให้ได้ครับ...