ฟุตบอลโลก 1950 : จอมโหดดับฝันแซมบ้า
ผลพวงจากสงครามโลกทำให้เยอรมันและญี่ปุ่นโดนคว่ำบาตรจากนานาชาติ ขณะที่หลายชาติไม่พร้อมสำหรับเข้าร่วมแข่งขัน นอกจากนี้ สกอตแลนด์, ตุรกี และอินเดีย ต่างพากันถอนตัวแม้ผ่านรอบคัดเลือกมาได้โดยทีมหลังสุดโดนตัดไม่ได้รับอนุญาตให้เล่นด้วยเท้าเปล่าจึงไม่เข้าร่วมรอบสุดท้าย
ตลอดช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ดร.ออตโตริโน บาราสซี รองประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ได้เก็บรักษาถ้วยแชมป์ฟุตบอลโลก หรือ ถ้วย ''จูลส์ ริเมต์'' เอาไว้ในกล่องรองเท้าใต้เตียงนอนจนนำมาเป็นถ้วยรางวัลสำหรับทีมแชมป์ในครั้งนี้
มีทีมในรอบสุดท้าย 13 ทีมประกอบด้วย บราซิล, ยูโกสลาเวีย, สวิตเซอร์แลนด์, เม็กซิโก, สเปน, อังกฤษ, ชิลี, สหรัฐฯ, สวีเดน, อิตาลี, ปารากวัย, โบลิเวีย และอุรุกวัย ขณะที่ระบบการแข่งขันมีการปรับเปลี่ยนจากแข่งแบบน็อกเอาต์มาเป็นแบ่งกลุ่มทั้งหมด 4 กลุ่ม และมี 1 กลุ่มที่มี 3 ทีม แข่งแบบพบกันหมดเพื่อหาทีมที่มีคะแนนมากสุดเข้ารอบแบ่งกลุ่มรอบสุดท้าย
ถ้วย จูลส์ ริเมต์ รอดพ้นจากภัยสงครามมาได้
บราซิลที่ลงทุนสร้างสนาม ''มาราคาน่า'' ซึ่งใหญ่ที่สุดในโลกเพื่อรองรับการเป็นเจ้าภาพครั้งนี้ พวกเขาเริ่มต้นอัดเม็กซิโอ 4-0 ต่อด้วยเสมอสวิตเซอร์แลนด์ 2-2 และปิดท้ายทุบ ยูโกสลาเวีย 2-0
ทีมชุดนี้โชว์ฟอร์มได้สมราคาทีมเต็ง มีนักเตะระดับพระกาฬอัดแน่นจนล้นทีม ไม่ว่าจะเป็น ซิซินโญ่, ฟริอาซ่า, ชิโก้ และอเดเมียร์ ประกอบกับมี ฟลาวิโอ คอสต้า กุนซือหนวดงาม รับหน้าที่คุมทีม
ขณะที่ทีมชาติอังกฤษถือว่าน่าจับตามองไม่แพ้กันเพราะมีดาวดังหลายคนนำโดย สแตนลี่ย์ แม็ทธิวส์, อัลฟ์ แรมซี่ย์, ทอม ฟินนี่ย์ และ บิลลี่ ไรท์ แต่เอาเข้าจริงทัพสิงโตกลับคำรามไม่ออกเพราะเอาชนะชิลีในนัดแรกนัดเดียว อีก 2 นัดแพ้รวด รวมถึงเสียท่าแม้กระทั่งทีมอ่อนหัดอย่างสหรัฐฯ 0-1 ซึ่งถือเป็นเกมที่พลิกล็อกที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก
บราซิล เจ้าภาพ, อุรุกวัย แชมป์โลกครั้งแรก, สวีเดน และ สเปน คือ 4 ทีมที่ผ่านเข้ารอบ ขณะที่อิตาลีซึ่งมีดีกรีแชมป์ 2 สมัยหลังสุดตกรอบแรกซึ่งสาเหตุสำคัญคือพวกเขาขาดตัวหลักที่เป็นแข้งโตริโน่ไปหลายคนอันเนื่องจากเครื่องบินตกในปี 1949
เจ้าภาพยังทำผลงานร้อนแรงไล่ต้อนสวีเดน 7-1 ก่อนขยี้ทีมสเปนได้อีก 6-1 ขณะที่ทีมอุรุกวัยเริ่มต้นกระท่อนกระแท่นหวุดหวิดจะแพ้สเปนตั้งแต่นัดแรก ยังดีที่ตามตีเสมอ 2-2 ในช่วงท้าย และใช้ความเก๋าเบียดชนะสวีเดนหวุดหวิด 3-2 ทำให้การเจอกับบราซิลในนัดสุดท้ายกลายเป็นนัดชี้ชะตาตัดสินแชมป์โลก
อเดเมียร์ ดาวยิงตัวเก่งของบราซิลที่คว้ารางวัลดาวซัลโว 8 ประตู
แฟนบอลชาวเมืองกาแฟอัดแน่นเข้าสนามมาราคาน่า สังเวียนในนัดชิงชนะเลิศเกือบ 2 แสนคน ทุกคนหวังจะมาฉลองตำแหน่งแชมป์โลกครั้งแรกของประเทศกันอย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับรัฐบาลบราซิลในยุคนั้น เตรียมที่จะประกาศหยุดงานในวันรุ่งขึ้นเพื่อฉลองแชมป์กันให้เต็มคราบเลยทีเดียว
ในเวลานั้นไม่มีใครเชื่อว่าทีมอุรุกวัยจะมีปัญญาต้านทีมเต็งจ๋าอย่างบราซิลได้โดยเฉพาะกับการที่ อเดเมียร์ ดาวยิงตัวเก่ง กำลังเข้าฝักกดไปแล้ว 8 ประตู
ทว่าอุรุกวัยกลับทำได้ดีเกินคาด สามารถต้านทานเกมรุกบราซิลได้จนถึงนาที 47 ที่ทำนบแตกเมื่อ ฟริอาซ่า สบโอกาสซัดให้บราซิลนำก่อนและทำเอาสนามมาราคาน่าแทบแตก โอกาสอยู่ในมือเจ้าภาพทันทีเพราะเพียงแค่เสมอก็เป็นแชมป์โลกแล้ว แต่นี่ยังได้ประตูนำอีก
หลังได้ประตูนำ ทัพแซมบ้าออกอาการย่ามใจ ขณะที่อุรุกวัยก็สู้ถวายหัวเพราะไม่มีอะไรจะเสียจนกระทั่งทำประตูตีเสมอได้จาก ฮวน เคียฟฟิโน่ ในนาที 66 และฮึกเหิมขึ้นตามลำดับ ขณะที่เจ้าภาพเริ่มอ่อนแรงเสียเอง และในที่สุดสนามมาราคาน่าก็เงียบสนิทเมื่อ อัลซิเดส กิเกีย ได้โอกาสซัดเต็มข้อส่งบอลเสียบโคนเสาเข้าไปให้จอมโหดชนะ 2-1
อุรุกวัยทำคะแนนแซงหน้าบราซิลได้สำเร็จ และคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 2 ไปครองได้อย่างยิ่งใหญ่ ขณะที่แฟนบอลแซมบ้าต้องน้ำตานองทั้งประเทศ และจบฟุตบอลโลกครั้งนี้ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของวงการฟุตบอลบราซิลไล่ตั้งแต่ชุดแข่งขันจากเสื้อน้ำเงินกางเกงขาวมาเป็นเสื้อเหลืองกางเกงน้ำเงินอันเป็นเอกลักษณ์จนถึงทุกวันนี้
อุรุกวัย เอาชนะเจ้าภาพบราซิล 2-1 ในนัดชี้ชะตาแชมป์
แฟกต์ไฟล์ฟุตบอลโลก
ชาติเจ้าภาพ : บราซิล
สนาม : 6 สนาม
จำนวนทีม : 13 ทีม
จำนวนนัด : 22 นัด
วันแข่งขัน : 24 มิถุนายนถึง 16 กรกฎาคม ปี 1950
จำนวนประตู : 88 ประตู
ผู้ชมทั้งหมด : 1,045,246 คน (47,511 คนต่อนัด)
ทีมแชมป์ : อุรุกวัย (สมัย 2)
รองแชมป์ : บราซิล
อันดับ 3 : สวีเดน
อันดับ 4 : สเปน
รางวัลรองเท้าทองคำ : อเดเมียร์ (บราซิล) 8 ประตู
สรุปดาวซัลโว
8 ประตู : อเดเมียร์ (บราซิล)
5 ประตู : เอสตานิสเลา บาโซร่า (สเปน), ออสการ์ มิเกวซ (อุรุกวัย)
4 ประตู : ชิโก้ (บราซิล), ซาร์ร่า (สเปน), อัลซิเดส กิเกีย (อุรุกวัย)
3 ประตู : คาร์ล เอริค พัลเมอร์ (สวีเดน), สติก ซุนด์สควิสต์ (สวีเดน), ฮวน อัลแบร์โต้ ชาฟฟิโน่ (อุรุกวัย)
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT