:::     :::

ชัยชนะพร้อมสถิติของซาร์รี่

วันจันทร์ที่ 05 พฤศจิกายน 2561 คอลัมน์ สิงห์สนามจริง โดย ยักษ์เดนส์
2,130
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เชลซี ยังคงเดินหน้ารักษาสถิติยังไม่แพ้เกมอย่างเป็นทางในซีซั่นนี้หลังจากที่เปิดบ้านเอาชนะ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ 3-2 ในฟุตบอลคาราบาว คัพ ทะลุเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศมาแบบหืดจับอยู่เล็กน้อย
         ถือเป็นเกมแรกที่ เกปา อาร์ริซาบาลาก้า นายทวารชาวสเปนได้พักหลังจากที่ลงสนามมาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็กลับมาเฝ้าเสาอีกครั้งในเกมกับ เซาธ์แฮมป์ตัน เช่นเดียวกับบรรดาตัวหลักอย่าง เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, ดาวิด ลุยซ์, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, มาร์กอส อลอนโซ่, รอสส์ บาร์คลี่ย์, จอร์จินโญ่ และ เปโดร โรดริเกซ
         มีแค่คนเหล็กอย่าง เอ็นโกโล่ ก็องเต้, วิลเลี่ยน และ อัลบาโร่ โมราต้า ที่ลงเล่นมาติดๆ รวมถึงในฟุตบอลถ้วยที่เล่นมาเต็ม 90 นาที โดยเฉพาะ ก็องเต้ ที่ลงสนามมาอย่างต่อเนื่องเลย
         คนที่คาดว่าจะกลับมาอย่าง เอแด็น อาซาร์ ที่หายเจ็บหลังหายหน้าไปในเกมเมื่อสัปดาห์ที่แล้วรวมถึงเมื่อกลางสัปดาห์ มีชื่อเป็นแค่ตัวสำรอง แสดงให้เห็นว่า เมาริซิโอ ซาร์รี่ มั่นใจว่า "เอาอยู่" กับคู่แข่งที่ไม่ได้แกร่งมากนักอย่างทีม "นักบุญ" แถมเกมรุกชุดนี้ก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมถล่ม เบิร์นลี่ย์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

         ก็คงเหมือนช่วงต้นซีซั่นที่สตาร์เบลเยี่ยมยังไม่พร้อมและลงมาเป็นตัวโจ๊กเกอร์อยู่เสมอในช่วงครึ่งหลัง เกมนี้ก็รอโอกาสไปก่อน
         หลังจากที่ ลิเวอร์พูล เก็บได้แค่หนึ่งคะแนน เป็นโอกาสของที่จะเก็บชัยชนะพร้อมขึ้นสู่ตำแหน่งรองจ่าฝูง ส่วน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เก็บชัยชนะไปตามหน้าเสื่อก็ต้องไล่บี้กันต่อไป
         เกมที่ครองบอลเหนือกว่าของ "สิงห์บลูส์" ไม่อาจเจาะกำแพงอันหนาแน่นของ คริสตัล พาเลซ ได้เลย โดยเฉพาะเกมริมเส้นที่เป็นเอกลักษณ์แทบไม่ได้สร้างอันตรายได้เลย
         ทั้ง เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า และ มาร์กอส อลอนโซ่ ตีรถเปล่าหลายครั้ง โดยเฉพาะทางซ้ายทีท วิลเลี่ยน มักจะเลี้ยงตัดเข้ากลางมากกว่า

         กลายเป็นเกมโต้กลับของ "อีเกิ้ลส์" ที่มี วิลฟรีด ซาฮา เป็นตัวทีเด็ดที่ดูวูบวาบมากกว่าแม้ประสิทธิภาพในจังหวะจบสกอร์ยังขาดความเด็ดขาดไปบ้าง
         หลังผ่านครึ่งทางของครึ่งแรก เชลซี เริ่มใช้ลูกเปิดโด่งเข้ากลางไปลุ้นบ้างหลังจากที่เล่นบอลเรียดแล้วเจาะไม่เข้า แต่ถ้าไม่ขาด-เกินไปบ้างก็ยากเกินไปที่ อัลบาโร่ โมราต้า จะเอาชนะ มามาดู ซาโก้ และ เจมส์ ทอมกิ้นส์
         แต่การยิงเข้ากรอบหนแรกของ เชลซี ก็มาได้ประตูขึ้นนำจากเกมทางขวาที่ เปโดร พยายามเปิดบอลเข้ากลางโดน เจมส์ ทอมกิ้นส์ โหม่งสกัดแต่บอลย้อนกลับมาที่ เปโดร เปิดอีกทีคราวนี้บอลถึง อัลบาโร่ โมราต้า ที่ยืนคนเดียวจับหนึ่งที่ก่อนยิงจ่อๆเข้าไป
         ถือว่าเฮงสองเด้งเลยจากจังหวะนี้ ทีแรกก็คือจังหวะเปิดหนแรกของ เปโดร นั้นทาง โมราต้า อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า ถ้าทาง ทอมกิ้นส์ ไม่โหม่งแน่นอนว่าผู้ช่วยผู้ตัดสินต้องยกธงแน่นอน ส่วนทีที่สองจังหวะโหม่งสกัดยังมาเข้าทาง เปโดร ที่เปิดกลับมาอีกที ทอมกิ้นส์ ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งทำให้กองหน้าชาวสเปนยืนอยู่คนเดียว

         หลังจากได้ประตูขึ้นนำความกดดันหาย ความมั่นใจเพิ่มพูน จังหวะเข้าทำก็ดูจะเน้นความแน่นอนมากขึ้นไม่จำเป็นต้องโหมเหมือนช่วงแรก อาศัยการผ่านบอลไปเรื่อยๆจนกว่าจะหาช่องได้
         แต่หากเสียบอลไม่ว่าจะส่วนไหนของสนาม นักเตะทุกคนก็พร้อมช่วยกันวิ่งไล่แย่งบอลคืนมาอย่างรวดเร็ว เป็นอีกหนึ่งแท็คติคที่ยอดเยี่ยมที่เห็นได้ชัดในยุคของ เมาริซิโอ ซาร์รี่ เลย
         นั่นทำให้หลายครั้งจังหวะโต้ของ พาเลซ ยังไม่ทันตั้งเกมก็โดนตัดซะก่อน หรือหาเปิดบอลมาข้างหน้าแล้ว วิลฟรีด ซาฮา ได้บอลก็มักจะอยู่โดดเดี่ยวมากกว่าพร้อมกับโดนรุม 2-3 ตลอด
         สกอร์ 1-0 หลังจบครึ่งแรกกับเกมที่เหนือกว่าชัดเจน รวมถึงการเข้าสู่ช่วงต้นครึ่งหลัง แต่ทว่าจังหวะสวนที่วูบวาบของผู้มาเยือนก็เล่นงานเจ้าถิ่นที่เผลอจนได้ เจมส์ แม็คอาเธอร์ ไหลบอลทะลุช่องตัดหลัง ดาวิด ลุยซ์ ให้ แอนดรอส ทาวน์เซนด์ ที่มีความเร็วอยู่แล้วสปีดเอาบอลเข้าเขตโทษก่อนกดด้วยขวา (ข้างไม่ถนัด) บอลเสียบเสาเข้าไป

         ก็เป็นการยิงเข้ากรอบหนแรกแล้วได้ประตูเลย เช่นเดียวกับทาง เชลซี ที่ได้ประตูไปในครึ่งแรก
         เดือดร้อนจน เอแด็น อาซาร์ ที่ต้องลงมาแก้ไขสถานการณ์ให้ทีม (อีกแล้ว) โดยลงมาแทนที่ วิลเลี่ยน หลังผ่านหนึ่งชั่วโมงของเกม เช่นเดียวกับ มาเตโอ โควาซิช ที่ลงมาพร้อมกันเลยแทนที่ รอสส์ บาร์คลี่ย์
         และหลังลงมาไม่ถึงสองนาที อาซาร์ ก็มีส่วนกับการได้ประตูของทีมเลยตั้งแต่เรียกฟาวล์ก่อนเปิดบอลจากทางขวาเข้าเขตโทษบอลตกพื้นเลยไปเสาสองมาถึง อัลบาโร่ โมราต้า พักบอลก่อนกดบอลพุ่งเรียดอย่างเด็ดขาดให้ทีมนำ 2-1
         ถือเป็นลูกยิงมุมแคบที่ต้องอาศัยความมั่นใจอย่างสูง และหัวหอกกระทิงทำได้อย่างสมบูรณ์แบบ
         จากที่โดนตีเสมอและเกมเสียทรงไป โดนทาง พาเลซ บุกเข้าใส่ พอเปลี่ยนตัว อาซาร์ ลงมาทำให้เกมกับมาอยู่ในการครอบครองของทีมและดูสดชื่นขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะ มาร์กอส อลอนโซ่ ที่ประสานงานกันอย่างเข้าขาลงตัว

         และสกอร์ก็มาขยับเป็น 3-1 เลย มาเตโอ โควาซิช ที่เพิ่งลงมาเหมือนกันไหลบอลออกทางซ้ายให้ มาร์กอส อลอนโซ่ ที่อยู่คนเดียวมีทั้งพื้นที่และเวลาก่อนเปิดเรียดมาแถวจุดโทษบอลย้อนหลัง อัลบาโร่ โมราต้า แต่ยังมี เปโดร โรดริเกซ ที่วิ่งมาแปเน้นๆเข้าไป
         ถือเป็นชัยชนะที่ได้มาไม่ง่ายเลย แต่ก็เป็นสามแต้มที่ช่วยให้ทีมแซง ลิเวอร์พูล ขึ้นไปรั้งตำแหน่งรองจ่าฝูงด้วยประตูได้-เสียที่ดีกว่า และบีบช่องว่างกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เหลือ 2 คะแนนเท่าเดิม
         สิ่งที่หายไปจากเกมนี้ของจังหวะเข้าทำคือไม่เห็นการเปิดบอลตัดแนวรับจากกลางสนามอย่างที่เคยเห็นมาตลอดจากทั้ง จอร์จินโญ่, อันโตนิโอ รือดิเกอร์ หรือแม้แต่ ดาวิด ลุยซ์ ซึ่งน่าจะมาจากการที่คู่แข่งเล่นเกมรับแน่นและลึกถึงหน้าเขตโทษ
         เป็นอีกเกมที่นักเตะในทีมทำผลงานได้เป็นอย่างที่ทุกตำแหน่ง อาจจะยกเว้น เกปา อาร์ริซาบาลาก้า ที่แทบไม่ได้ทำอะไรนักนอกจากจังหวะเสียประตู นอกนั้นที่เหลือถือว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานโดยเฉพาะ อัลบาโร่ โมราต้า และ เปโดร โรดริเกซ 

         นอกจากนี้ เมาริซิโอ ซาร์รี่ ยังขึ้นแท่นทำสถิติเป็นกุนซือที่คุมทีมพรีเมียร์ลีกปีแรกพร้อมรักษาประตูไม่แพ้ใคร 11 เกมติดต่อกัน เทียบเท่าสถิติของ แฟร้งค์ คล้าร์ก ที่เคยทำได้กับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ย้อนกลับไปเมื่อปี 1994 ซึ่งในเกมถัดไปหากทีมไม่แพ้ เอฟเวอร์ตัน ในสัปดาห์หน้าก็จะนั่งในสถิติคนแบบเดี่ยวๆ
         สิ่งที่น่าเสียดายอย่างเดียวของทีมและมักเป็นแบบนี้อยู่เสมอก็คือเรื่องของการทำประตูที่ยามมีโอกาสเข้าทำเพื่อยิ่งประตูเพิ่มแต่ถ้าบุกแบบไม่ได้เน้นมากก็ไปเน้นการครองบอลจนเกินควร
         กับประตูได้-เสียที่ตอนนี้ที่ตามหลัง แมนฯ ซิตี้ ถึง 10 ลูก คงต้องยอมรับว่าตามยากเมื่อดูจากเกมรุกอันดุดันของฝั่งเรือใบ 
         หากไม่รีบทำอะไรในตอนนี้กลัวว่าจะมานั่งเสียใจทีหลังเมื่อจบฤดูกาล



คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด