ผลกระทบจาก เอแด็น อาซาร์
อาจจะไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าเซอร์ไพรส์อะไรเพราะสื่อประโคมข่าวกันมาอย่างต่อเนื่อง และก็จบลงอย่างไม่พลิกโผแม้ว่าทาง เชลซี เองจะไม่ได้เต็มใจขายเท่าไรนัก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะมีสัญญาอีกแค่ปีเดียว และนักเตะก็แสดงตัวชัดเจนว่าอยากย้าย
สิ่งที่แสดงออกและความทุ่มเทให้กับสโมสรมาตลอดระยะเวลา 7 ปี ไม่มีอะไรที่แฟนบอลต้องตำหนิเลย เพราะสตาร์ทีมชาติเบลเยียมตอบแทนเงินค่าตัวครบอย่างคุ้มค่าที่สุดแล้ว
แถมยังปิดท้ายด้วยการพาทีมคว้าโทรฟี่ยูโรปา ลีกมาครองอีกด้วย
แต่ก็อย่างที่ว่าฝั่ง "สิงห์บลูส์" เองคงไม่ได้อยากเสียสตาร์เบอร์หนึ่งผู้เป็นแทบจะทุกอย่างของทีมในฤดูกาลที่ผ่านมา เพราะการเสียนักเตะระดับนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาตัวแทน
มันก็เป็นเรื่องปกติของวงการลูกหนัง มีมาแล้วก็ไป แต่ก็นั่นแหละ การย้ายทีมของ "บิ๊กเนม" แต่ละครั้งนำมาซึ่งแรงกระเพื่อมทั้งกับสโมสรเก่าและใหม่ รวมถึงสโมสรอื่นที่เสี่ยงต่อการโดนดูดแข้งตัวเก่งของทีม เหมือนกับเป็นลูกโซ่กันไปนั่นแหละ
ในกรณีของ อาซาร์ เองก็ไม่มีข้อยกเว้น ดูกันการย้ายทีมครั้งนี้ส่งผลกระทบไปขนาดไหนบ้าง
ความสูญเสียของ เชลซี
ตอนย้ายมาอยู่กับ เชลซี เมื่อปี 2012, เอแด็น อาซาร์ ในวัย 21 ปีในฐานะหนึ่งในนักเตะที่ได้รับการจับตามองด้วยพรสวรรค์อันยอดเยี่ยมหลังโชว์ฝีเท้ามาแล้วกับ ลีลล์ ในลีก เอิง ฝรั่งเศส
นับตั้งแต่วันนั้น อาซาร์ ค่อยยกระดับตัวเองขึ้นมาเป็นหนึ่งในพ่อค้าแข้งที่ดีที่สุดในโลก และสามารถพูดได้ว่าเป็นหนึ่งในนักเตะดีที่สุดเท่าที่สโมสรเคยมีมาเลยก็ไม่น่าเกลียดนัก
ตลอดระยะเวลา 7 ปีในรั้วสแตมฟอร์ด บริดจ์, แข้งคนดังนำพาความสำเร็จมาสู่ทีมอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากถ้วยยูโรปา ลีกตั้งแต่ปีแรกที่ย้ายมาร่วมทีม ตามด้วย "ดับเบิ้ลแชมป์" ทั้งพรีเมียร์ลีกและลีก คัพในฤดูกาล 2014/15 และแชมป์ลีกสมัยที่สองในซีซั่น 2016/17 พร้อมเป็นรองแชมป์เอฟเอ คัพ
ฤดูกาล 2017/18 ที่แม้สถานการณ์ของทีมจะย่ำแย่ก็ยังมีถ้วยเอฟเอ คัพ และในปีล่าสุดพาทีมคว้าโควต้ายูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, เป็นรองแชมป์ลีก คัพ และคว้าแชมป์ยูโรปา ลีกปิดท้าย เหมือนกับปีแรกที่ย้ายมาร่วมทีม
กับรางวัลส่วนตัวก็คว้ามามากมายทั้งรางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยม, รางวัลนักเตะยอดเยี่ยม, พรีเมียร์ลีก เพลย์เมกเกอร์ อวอร์ด, พีเอฟเอ แฟน เพลย์เยอร์ รวมถึงได้รับการโหวตให้อยู่ในทีมของฟิฟโปรซึ่งต้องขีดเส้นใต้ไว้ด้วยว่าเป็นนักเตะจาก เชลซี
ผลงานลงสนาม 352 เกมรวมทุกรายการ ยิงไป 110 ประตูกับอีก 81 แอสซิสต์ รั้งอยู่ในอันดับ 9 ของตารางดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของสโมสร เท่ากับว่าเขามีส่วนร่วมกับประตูของทีม 191 ลูก มากกว่านักเตะทุกคนนับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีม ซึ่งรวมแล้วมีทั้งหมด 94 คนด้วยกัน
และถึงแม้ในเกมที่ไม่ได้ยิงหรือแอสซิสต์ก็ยังทำผลงานช่วยทีมได้อย่างดีเยี่ยม เป็นภัยคุกคามชั้นดีกับแนวรับฝ่ายตรงข้าม เปิดโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมได้เป็นอย่างดี
การเสีย อาซาร์ ถือเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของ เชลซี และด้วยค่าตัวเพียง 100 ล้านยูโร (อาจจะได้ถึง 140 ล้านยูโร ตามเงื่อนไข) แต่ด้วยสัญญาที่เหลืออีกปีก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย
ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหน เชลซี ถึงจะมีนักเตะที่อยู่ในระดับนี้อยู่ในทีมอีก
โอกาสของ วินิซิอุส จูเนียร์
ได้รับการจับตามองในฐานะดาวดวงใหม่แห่งวงการลูกหนังบราซิลกับ ฟลาเมงโก้ ซึ่งทาง เรอัล มาดริด ก็ไม่รีรอที่จะทุ่มเงิน 46 ล้านยูโร เพื่อดึงตัวมาร่วมทีมในปี 2017 แต่ให้ต้นสังกัดใช้งานก่อนหนึ่งปี
ในฤดูกาลที่ผ่านมา วินิซิอุส จูเนียร์ กับการเริ่มต้นในทีม เรอัล มาดริด กาสตีย่า ทีมสำรองก่อนโชว์ฟอร์มเยี่ยมและค่อยๆก้าวขึ้นมาอยู่ในทีมชุดใหญ่และได้ลงสนามอย่างต่อเนื่อง ในช่วงเวลาที่ทีมกำลังมีปัญหาในเกมรุกอย่างหนัก
ช่วงซีซั่นที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายและปัญหา ดาวรุ่งแซมบ้ารายนี้ถือเป็นนักเตะไม่กี่คนที่ทำผลงานได้ดีให้กับต้นสังกัด ด้วยความขยันและทุ่มเททำให้เสียงชื่นชมเริ่มไหลมาเทมากับการเล่นเกมรุกทางฝั่งซ้ายให้กับทีม จนได้รับการคาดหมายว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของทีมในฤดูกาลหน้า
แต่การมาของ เอแด็น อาซาร์ อาจจะส่งผลต่อตำแหน่งการเล่นของเจ้าตัวโดยตรง เนื่องจากเป็นพื้นที่เดียวกัน ซึ่งแน่นอนว่าสตาร์คนใหม่คงไม่ได้เข้ามาเพื่อนั่งอยู่ที่ม้านั่งแน่นอน
ทางออกในตอนนี้อาจจะเลือกให้ วินิซิอุส ไปเล่นทางขวาแทน แต่เมื่อก็เหมือนเป็นการบั่นทอนศักยภาพโดยตรง
ต้องรอดูว่า ซีเนดีน ซีดาน จะหาทางออกให้กับดาวรุ่งอนาคตไกลรายนี้ยังไง
การหาตัวแทน ซาร์รี่
แม้คุณจะเป็นแฟนบอล เชลซี ที่แอนตี้สไตล์การทำทีมของ เมาริซิโอ ซาร์รี่ แต่ก็ต้องยอมรับว่าเขาคือโค้ชที่มีฝีมือและไม่ได้จะหากันได้ง่ายๆในเวลานี้
และด้วยความสำเร็จที่ทำได้ในฤดูกาลที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าเหนือกว่าความคาดหมาย เมื่อเทียบกับขุมกำลังของ "สิงห์บลูส์" ที่ตัวเลือกในทีมมีอยู่ไม่มากนัก
แน่นอนว่าการเสีย ซาร์รี่ ที่ส่อแววจะอำลาทีมหลังกระแสแรงเหลือเกิน ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาตัวแทนได้ แม้ว่าจะมีตัวอย่าง แฟร้งค์ แลมพาร์ด ที่ถูกยกเป็นเต็งหนึ่ง แต่ต้องยอมรับว่าประสบการณ์น้อยเกินกว่าที่ เชลซี อาจจะยอมเสี่ยง
ยังไม่รวมถึงปัญหาเรื่องการห้ามซื้อนักเตะที่กำลังอยู่ในช่วงที่อุทธรณ์กันอยู่ ซึ่งเชื่อได้เลยว่าคนที่ถูกทาบทามหรือเล็งรับงานในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์กำลังรอดูผลการตัดสินของทางศาล
เพราะหากไม่ได้ตัวใหม่มาเพิ่มแถมยังเสีย เอแด็น อาซาร์ ไปด้วย ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะปั้นให้ เชลซี ประสบความสำเร็จได้ เผลอๆจะเป็นการเอาชื่อมาทิ้งด้วยซ้ำ
เชลซี ในช่วงหลังจากเม็ดเงินของ โรมัน อบราโมวิช ไม่ได้ทุ่มเงินอย่างบ้าคลั่งเหมือนช่วงแรกอีกแล้ว ซึ่งหากเทรนเนอร์คนใหม่เข้ามา อาจจะไม่ได้รับการอำนวยความสะดวกในเรื่องนี้แม้จะไม่ติดปัญหาแบนก็ตามที
และนั่นคือเหตุผลหลักที่ไม่ใช่เรื่องง่ายแน่หากกับการโน้มน้าวให้ใครเข้ามารับงานคุมทีมในฤดูกาลที่กำลังจะมาถึง
บาร์เซโลน่า
ในขณะที่ เรอัล มาดริด ครองความยิ่งใหญ่ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, คู่ปรับตัวฉกาจอย่าง บาร์เซโลน่า ก็เรียกได้ว่าครองความยิ่งใหญ่ในประเทศ
ยิ่งในฤดูกาลที่ผ่านมาเมื่อ "ราชันชุดขาว" พุ่งชนกับความล้มเหลวเข้าอย่างจัง แม้ว่า "เจ้าบุญทุ่ม" จะไม่ได้ดีเลิศกว่าเท่าไร แต่การมีแชมป์ลา ลีกา มาประดับตู้โชว์ก็ทำให้พวกเขาคุยได้ว่าเหนือกว่าคู่ปรับตลอดกาล
สอดคล้องกับสิ่งที่ ซีเนดีน ซีดาน กล่าวเอาไว้ว่าทีมจะต้องยึด "ลา ลีกา" เป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก และการเสริมทัพในช่วงซัมเมอร์นี้ก็แสดงให้เห็นว่าพวกเขาเอาจริง
โรดรีโก้ โกเยส, เอแดร์ มิลิเตา, ลูก้า โยวิช และล่าสุดกับ เอแด็น อาซาร์ คือนักเตะที่ทีมซื้อเข้ามาเสริมด้วยเม็ดเงินกว่า 230 ล้านปอนด์ และดูท่าอาจจะยังไม่หยุดอยู่เพียงเท่านั้น
แน่นอนการมาของ อาซาร์ จะช่วยเพิ่มระดับความแกร่งของ เรอัล มาดริด หลังการเสีย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และนั่นน่าจะทำให้ซีซั่นใหม่ที่จะมาถึงไม่ง่ายสำหรับ บาร์เซโลน่า แน่นอน
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT