ผลเสมอกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ทำให้ เชลซี ไม่ชนะเกมลีกมาแล้ว 3 นัดติดต่อกัน
จะบอกว่าปีนี้โชคดีหน่อยตรงที่เหล่าบรรดาทีมเบียดแย่งพื้นที่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกทีมอื่นๆต่างพากันสะดุดกันเป็นว่าเล่น ทำให้ทีมของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด เลยยังเกาะอยู่ในอันดับ 4 ของตารางอย่างเหนียวแน่น
แต่การที่ สเปอร์ส เก็บชัยชนะ เหนือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ในเกมวันอาทิตย์ทำให้ตอนนี้ช่องว่างอยู่ห่างเพียงแค่ 4 คะแนน เริ่มกดดัน "สิงห์บลูส์" มาทุกขณะ
ว่าไปแล้วตอนนี้ถือว่า เชลซี อยู่ในช่วงที่สภาพทีมพร้อมเต็มที่เหมือนกัน อาจจะมีแค่ คริสเตียน พูลิซิช ที่เจ็บ ส่วนตัวอย่าง โอลิวิเยร์ ชิรูด์ กับ รูเบน ลอฟตัส-ชีค ปกติเป็นสำรองอยู่แล้ว
เกมที่คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม เป็นอีกครั้งที่ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ตัดสินใจดร็อป เกปา อาร์รีซาบาลาก้า ที่ช่วงหลังมีออกทะเลให้เห็นบ่อยๆแล้วเอา วิลลี่ กาบาเยโร่ ตัวเก๋าลงเฝ้าเสาแทน
ในตำแหน่งเซนเตอร์ดูแล้วตอนนี้คงจะไว้ใจ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ กับ อันเดรียส คริสเตนเซ่น เป็นตัวหลัก ส่วนแบ็คดูจะยังคิดมากอยู่เมื่อ รีซ เจมส์ ทางแบ็คขวาพุ่งขึ้นมา ทำให้ช่วงหลังต้องโยก เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ไปอยู่ทางซ้าย
จริงอยู่ว่าแบ็คชาวสเปนสามารถเล่นได้ แต่มันเหมือนกับเสียความดุดันไปบ้างเหมือนกัน ทั้งที่ทีมมีแบ็คซ้ายธรรมชาติอย่าง มาร์กอส อลอนโซ่ และ เอแมร์ซอน อยู่
แต่ก็เข้าใจการตัดสินใจของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด เพราะผลงานของสองแบ็คซ้ายธรรมชาติที่ขาดความแน่นอนในการเล่น ในรายของ อลอนโซ่ ดูเหมือนว่าจะเข้ากับระบบ "วิง-แบ็ค" ที่มี 3 เซนเตอร์มากกว่า เพราะหากให้ยืนในระบบแบ็คโฟร์ถือว่าเสี่ยงที่จะโดนคู่แข่งเล่นงานได้ด้วยการเติมเกมรุกที่สูงจนถึงกรอบเขตโทษคู่แข่ง
เรียกได้ว่ารุกดี แต่รับกลับน่าเป็นช่วง
ส่วนในรายของ เอแมร์ซอน ที่ได้รับโอกาสต่อเนื่องในช่วงต้น แต่ช่วงหลังดูเหมือนจะแผ่วลงไปอย่างน่าใจหายจนถึงขั้นมีข่าวเรื่องย้ายทีมออกมาเลย
นั่นเป็นอีกเหตุผลที่ทีมมีข่าวเสริมแบ็คซ้ายตัวใหม่ทั้งที่มีอยู่ในทีมอยู่แล้ว 2 คน และคนที่ถูกจับจ้องก็หนีไม่พ้น เบน ชิลเวลล์ ของ เลสเตอร์ ซิตี้ นั่นเอง ซึ่งน่าจะมีการขยับตัวในช่วงซัมเมอร์
อีกปัญหาของทีมก็คงหนีไม่พ้นปัญหาเรื่องประสบการณ์ของนักเตะที่ทีมชุดนี้เต็มไปด้วยแข้งพลังหนุ่ม
ในทีมชุดปัจจุบันมีแค่ วิลลี่ กาบาเยโร่, เซซาร์ อัซปิลิวยก้า, วิลเลี่ยน, เปโดร โรดริเกซ และ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ เท่านั้น ที่อายุเลยเลข 3 ที่เหลือล้วนยังไม่ถึงทั้งสิ้น
และในจำนวนนี้จะบอกได้ว่ามีแค่ อัซปิลิวยต้า กับ วิลเลี่ยน เท่านั้นด้วยที่ได้ลงสนามต่อเนื่องเหนือ ที่เหลือปกติแทบจะเป็นสำรองอยู่แล้ว
เกมที่ทีมพบกับ คริสตัล พาเลซ, แฟร้งค์ แลมพาร์ด ส่งนักเตะอายุเฉลี่ยที่ 24 ปี 88 วัน น้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งส่วนหนึ่งเข้าใจได้ว่าการติดโทษแบนในตลาดซัมเมอร์ทำให้ทีมต้องผลักดันดาวรุ่งขึ้นมา
แต่ถึงกระนั้นในช่วงตลาดหน้าหนาวที่ผ่านมาเมื่อทีมพ้นโทษแบน แต่กลับไม่เสริมทัพสร้างความไม่เข้าใจให้กับแฟนอย่างมาก ทั้งที่น่าจะเป็นทีมที่ทุ่มเงินมากกว่าทีมไหนๆ
การยืนระยะของทีมจึงเกิดปัญหา เพราะนักเตะหนุ่มอาจจะห้าวหาญ แต่เมื่อเจอกับความเก๋าของคู่แข่งต่อให้เป็นทีมที่ดูศักยภาพเป็นรอง แต่ก็พร้อมที่จะแพ้ได้
คล้ายกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ใช้นักเตะอายุน้อยเต็มที่ กลายเป็นปัญหาในระยะยาว เมื่อเจอกับคู่แข่งเขี้ยวๆหน่อย มีพลังวิ่งมากแค่ไหนสุดท้ายก็หมดเหมือนกัน
และเมื่อขาดนักเตะประสบการณ์ มันก็คือทีมไม่มีนักเตะระดับโลกในทีม
นับตั้งแต่สมัย โชเซ่ มูรินโญ่ คุมทีม ทัพ "สิงห์บลูส์" ไม่เคยขาดนักเตะฝีเท้าระดับโลกเลย ซึ่งหากมองในทีมชุดปัจจุบันดูเหมือนจะมีแค่ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ กับ จอร์จินโญ่ เพียงสองคนเท่านั้น
การขาย เอแด็น อาซาร์ ออกจากทีมเลยกลายเป็นช่องโหว่ขนาดใหญ่ แม้จะได้ คริสเตียน พูลิซิช มาแต่ทั้งอายุและต้องการปรับตัวทำให้ต้องใช้เวลาอีก
เช่นเดียวกับกองหน้าที่ทีมไปโยนความหวังทั้งหมดไว้กับ แทมมี่ อบราฮัม พอกองหน้าทีมชาติอังกฤษยิงไม่ได้เหมือนกับทั้งทีมก็เป็นอัมพาตไปด้วยเลย นั่นเป็นเหตุผลที่ทีมพยายามจะดึงกองหน้ามาเสริมก่อนตลาดปิดแต่ก็พลาดไป
อีกปัญหาใหญ่ที่ตอนนี้กลายเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดไม่แพ้เรื่องการทำประตูก็คือการเสียประตูนั่นเอง
สถิติบอกเอาไว้ว่า เชลซี เสียประตูคิดเป็น 16% จากการโดนคู่แข่งส่องประตู ถือเป็นตัวเลือกที่สูงที่สุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้เลย นับตั้งแต่มีการบันทึกครั้งแรกเมื่อปี 2003-04
การทุ่มเงินซื้อ เกปา อาร์รีซาบาลาก้า มาเฝ้าเสาแทนที่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ด้วยค่าตัวเป็นสถิติโลกของตำแหน่งผู้รักษาประตู ซึ่งในปีแรกถือว่าโชว์ฟอร์มเซฟถือว่าใช้ได้เลย
แต่ว่าในฤดูกาลนี้มือกาวชาวสเปนกลับมีช็อตผิดพลาดให้เห็นหลายครั้ง จน แฟร้งค์ แลมพาร์ด ดร็อปเป็นตัวสำรองในสองเกมหลังในเกมเอฟเอ คัพต่อด้วยเกมกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งถึงขั้นมีการคาดว่า เกปา อาจจะนั่งสำรองไปอีกหลายเกมด้วย
ผู้รักษาประตูวัย 25 ปีมีสถิติเซฟที่ 55.4% เท่านั้น เทียบกับผู้รักษาประตูคนอื่นในพรีเมียร์ลีกถือว่าแย่ที่สุดในลีกฤดูกาลนี้เลย และหากนับสโมสรใน 7 ลีกใหญ่ของยุโรปต้องบอกว่า เกปา อยู่ในอันดับท้ายๆเลย
ในทีมท็อป 10 ของพรีเมียร์ลีก เชลซี เป็นทีมที่เสียประตูมากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองแค่ เอฟเวอร์ตัน ทีมเดียวเท่านั้น
จากสถานการณ์ตอนนี้ทีมเริ่มกลับมาเสี่ยงที่จะเสียตำแหน่งท็อปโฟร์ของตารางแล้ว แม้ปัจจุบันจะนำอยู่ แต่ 4 คะแนนกับทิศทางตอนนี้เริ่มไม่แน่ไม่นอนซะแล้ว
เกปา คงต้องเค้นฟอร์มออกมาให้ดีมากขึ้นกว่านี้นอกจากจะเพื่อรักษาตำแหน่งของตัวเอง ยังช่วยให้ทีมรักษาอันดับของตัวเองเอาไว้ด้วย
ตอนนี้ยังถือว่าได้พักหายใจหายคอ มีเวลา 2 สัปดาห์ก่อนที่จะเจอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกหนึ่งคู่แข่งแย่งพื่นที่ท็อปโฟร์กัน
ถือเป็นการวัดเลยว่าจะเป็นการตัดคู่แข่งออกจากการลุ้นหรือจะเป็นการทำให้ตัวเองลำบาก