:::     :::

สู้เพื่อตัวเอง

วันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน 2563 คอลัมน์ สิงห์สนามจริง โดย ยักษ์เดนส์
1,811
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ชัยชนะเหนือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำให้ เชลซี รักษาระยะห่างกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไว้ที่ 5 คะแนนเท่าเดิมในช่วง 7 เกมสุดท้ายของฤดูกาล

เมื่อมองจากโปรแกรมในลีกที่เหลืออยู่กับ เวสต์แฮม (เยือน), วัตฟอร์ด (เหย้า), คริสตัล พาเลซ (เยือน), เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด (เยือน), นอริช ซิตี้ (เหย้า), ลิเวอร์พูล (เยือน) และ วูล์ฟแฮมป์ตัน (เหย้า) คงต้องบอกว่าทีมของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด คงไม่พลาดที่จะคว้าท็อปโฟร์ของตารางไปครอง

ถ้าจะบอกว่า เชลซี มีศักยภาพมากพอที่จะคว้าชัยอย่างน้อย 6 จาก 7 เกมก็คงไม่เกินไป ซึ่งอีกเกมกับ "หงส์แดง" อาจจะยากหน่อย แต่เมื่อทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้แชมป์ไปแล้วแรงจูงใจอาจจะลดน้อยถอยลง

หรืออันที่จริงทีมอาจจะไม่ต้องรอถึงตอนนั้นอาจจะคว้าตั๋วไปแล้วก็เป็นได้


เกมกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องบอกว่า แฟร้งค์ แลมพาร์ด วางแผนได้เป็นอย่างดี ในรูปเกมที่ทีมเป็นรองในภาพรวมแต่สุดท้ายคว้าชัยชนะมาครองได้

รู้กันอยู่แล้วว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า คือหนึ่งในกุนซือที่เป็นจ้าวของการเล่นแบบ "ติกี้ ตาก้า" การครองบอลคือจุดแข็งของการทำงานที่สร้างชื่อมาตั้งแต่กับ บาร์เซโลน่า, บาเยิร์น มิวนิค และต่อยอดมาถึงที่ซิตี้ด้วย

ไม่ว่าใครที่เข้ามาร่วมทีมบางคนเก่งอยู่แล้ว บางคนอาจจะไม่ได้ฝีเท้าจัดจ้านมากมาย แต่การเล่นในแบบครองบอลยังคงเป็นสิ่งที่ทีมภายใต้การนำทัพของนายใหญ่ชาวสเปนทำได้ดีเสมอ


การเล่นแบบจังหวะเดียวในเกมนี้ก็เล่นงานทางฝั่งเจ้าถิ่นได้ดีเยี่ยม เควิน เดอ บรอยน์, อิลคาย กุนโดกัน, โรดรี้ และ แบ็งฌาแม็ง เมนดี้ ที่ผ่านบอลกันอย่างที่เห็นกันอยู่เสมอ อย่างในช่วงครึ่งหลังจากการเล่นเกมรุกอย่างรวดเร็วจาก เควิน เดอ บรอยน์, ริยาด มาห์เรซ จบที่ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง น่าเสียดายที่ชนเสา

ประตูขึ้นนำของ เชลซี ต้องบอกว่ามาจากความสามารถของ คริสเตียน พูลิซิช รวมถึงความผิดพลาดของ แบ็งฌาแม็ง เมนดี้ ที่ไม่เข้าใจกับ อิลคาย กุนโดกัน ปล่อยให้แข้งทีมชาติสหรัฐฯกระชากบอลจากครึ่งสนามและจังหวะจบสกอร์ก็เฉียบขาด

ก็เรียกได้ว่าทั้งเก่งทั้งเฮงถึงจะได้ประตูในจังหวะนี้นั่นแหละ

        

จริงอยู่ว่ามันอาจจะไม่ได้เป็นจังหวะจบสกอร์ที่มีการต่อบอลสวยงามอะไร แต่ประตูก็คือประตู แฟนบอลไม่ได้สนมากนักว่าได้มายังไง ขอให้ได้เท่านั้น

การเสียประตูจากฟรีคิกให้ เควิน เดอ บรอยน์ เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ การยิงอย่างสมบูรณ์แบบอย่างนั้นเป็นเรื่องยากที่จะเซฟได้ 

เชลซี เองก็เกือบได้ประตูอีกครั้งจากความผิดพลาดของคู่แข่งที่ เอแดร์ซอน เตะบอลเกมมาเข้าเท้า เมสัน เมาท์ กระชากเข้าเขตโทษแต่ยิงไปเข้าข้างหน้าต่าง


ในส่วนของประตูชัยก็มาจากจังหวะที่ แฟร์นันดินโญ่ ไปจงใจเอามือปัดบอลจนเสียจุดโทษแถมด้วยใบแดงก่อนที่ วิลเลี่ยน จะสังหารให้ทีมเอาชนะไปได้ 2-1 เก็บสามแต้มสุดสำคัญเอาไว้ได้

สองประตูที่ "สิงห์บลูส์" ได้ในเกมนี้ถือว่าเป็นความยอดเยี่ยมของนักเตะในเรื่องของการฉวยโอกาสจากความผิดพลาดของคู่แข่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องปรบมือให้จากรูปเกมที่ครองบอลน้อยกว่า แต่ทีมแสดงให้เห็นว่าไม่จำเป็นต้องครองบอลเยอะ แต่จังหวะเข้าทำให้มีความเด็ดขาดก็พอ

อีกจุดหนึ่งที่ทำให้ เชลซี เล่นสบายมากขึ้นก็คือการขาดกองหน้าคนสำคัญอย่าง เซร์คิโอ อเกวโร่ ที่เจ็บ ทำให้อาวุธหนักหายไป แม้ว่าทีมจะสร้างสรรค์เกมได้เป็นอย่างดี แต่จังหวะปิดบัญชีนั่นแหละที่ขาดหายไป


คนที่ควรได้รับคำชื่นชมในเกมนี้ต้องมีชื่อของ เกปา อาร์รีซาบาลาก้า ที่หากไม่นับลูกฟรีคิกถือว่าทำหน้าที่ได้ดีทีเดียว แม้จะมีจังหวะออกบอลพลาดเหมือนกันแต่ก็ยังทำได้ดี ท่ามกลางข่าวที่ว่าทีมมองหาผู้รักษาประตูคนใหม่อยู่ด้วย

เชลซี ยังคงสานต่อผลงานอันยอดเยี่ยมต้องแต่ก่อนพักเบรก เท่ากับตอนนี้ทีมเก็บได้ 13 จาก 15 คะแนนเต็มในช่วง 5 เกมหลัง 

วันอาทิตย์นี้ทีมมีโปรแกรมเอฟเอ คัพที่จะไปเยือน เลสเตอร์ ซิตี้ คั่นกลางก่อนที่จะได้ลงเล่นเกมลีกนัดถัดไปกับ เวสต์แฮม

แชมป์เอฟเอ คัพก็อยากได้ ในลีกก็ยังต้องเน้น ต้องดูที่การวางแผนของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ว่าจะจัดทีมยังไง

แต่ในช่วงเวลาที่ทีมมีแต่ข่าวดี นักเตะอย่าง วิลเลี่ยน กับ เปโดร โรดริเกซ ก็อยู่ช่วยทีมจนจบซีซั่น, แข้งในทีมก็พร้อมเต็มที่ กำลังใจมาเต็มแถมผลงานก็กำลังมาดี แบบนี้แฟนบอลคงฝันได้ไกลในช่วงที่เหลือของฤดูกาลนี้

        


คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด