โทษตัวเองก่อนแล้วค่อยโทษผู้ตัดสิน
แน่นอนว่า แฟร้งค์ แลมพาร์ด ผู้เป็นกุนซือก็คงเสียดายไม่น้อยกัยบการชวดมีโทรฟี่ตั้งแต่ปีแรกที่้เข้ารับตำแหน่งนายใหญ่ของทีม
การแพ้ในเกมการแข่งขันฟุตบอลไม่ใช่เรื่องแปลก เพียงแต่เกมนี้มีอะไรให้พูดถึงในวงกว้าง โดยเฉพาะการทำงานของผู้ตัดสินในเกมนี้อย่าง แอนโธนี่ย์ เทย์เลอร์
ถ้าคุณเป็นแฟน เชลซี คงต้องหงุดหงิดกับการทำหน้าที่ของเชิ้ตดำรายนี้ตลอดทั้งเกมเป็นแน่
ถึงขนาดมีคนพาดพิงไปถึงรายการเอฟเอ คัพที่มีสปอนเซอร์คือสายการบินเอมิเรตส์ เฉกเช่นเดียวกับสปอนเซอร์คาดหน้าอกของ อาร์เซน่อล นกหวีดก็ย่อมเอนเอียงไปเป็นธรรมกา
อันที่จริงต่อให้คุณไม่ได้เป็นแฟน "สิงห์บลูส์" แต่นั่งดูเกมอยู่ก็คงต้องรู้สึกบ้างแหละว่าวันนี้ดูเหมือนว่าการทำหน้าที่ของตุลาการในสนามมันดูจะไม่เป็นใจให้ฝั่งสีน้ำเงินเท่าไร
คงจะมีแค่ฝั่ง "กูนเนอร์ส" เท่านั้นแหละที่บอกว่าผู้ตัดสินทำหน้าที่ได้ "เยี่ยมจริงๆ เยี่ยมมจริงๆ เยี่ยมจริงๆ" สามครั้งไปเลย
แต่ถึงกระนั้นนั่นเป็นส่วนหนึ่งของเกมที่อาจจะสร้างความหงุดหงิดให้กับผู้ติดตามชม แต่ที่เหลือควรจะเป็นความรับผิดชอบชองนักเตะที่ต้องทำผลงานให้ดี
ประตูขึ้นนำตั้งแต่ต้นเกมจาก คริสเตียน พูลิซิช คือการออกสตาร์ทได้อย่างสวยงามของ เชลซี ซึ่งดูแล้วทุกอย่างยิ่งน่าจะเข้าทางและทำให้ทีมเล่นได้ง่ายขึ้น
รูปแบบการเล่นของทีมไม่ได้เปลี่ยนแปลง ทีมยังคงเล่นแบบเพรสซิ่งบีบเกมสูงตั้งแต่หน้าประตูคู่แข่ง แต่สิ่งที่หายไปกลับกลายเป็นทีมที่แทบไม่ได้บุกเพิ่มเพื่อสร้างอันตรายให้กับ อาร์เซน่อล เลย
การขึ้นเกมของทีมแทบไปไม่ถึงไหน ถ้าไม่ผ่านบอลคืนหลังก็ไปไม่ถึงหน้าประตูคู่แข่ง เข้าใจว่าคู่แข่งเองก็เล่นแบบบีบเกมสูงเช่นกัน แต่นั่นไม่ใช่ข้อแก้ตัว
สุดท้ายก็โดนเล่นงานจนได้เมื่อ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า เสียเหลี่ยมให้กับ ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมย็อง จนต้องไปเหนี่ยวและเสียจุดโทษไปนำมาซึ่งการเสียประตูตีเสมอ ซ้ำร้ายหลังจากนั้นตัวเองยังมาเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหวอีก
จากที่ได้ประตูขึ้นนำควรจะได้เปรียบ เล่นไปเล่นมาเกมกลายเป็นรอง มาเสียจุดโทษโดนตีเสมอ กัปตันทีมมาเจ็บอีก เท่านั้นไม่พอต้นครึ่งหลังแนวรุกคนสำคัญอย่าง คริสเตียน พูลิซิช มาเจ็บไปอีก เกมรุกยิ่งลดความน่ากลัวไปกันใหญ่
จังหวะเสียประะตูที่สองยิ่งแสดงให้เห็นถึงความห่วยในการเล่นเกมรับของ เชลซี ที่โดนบุกขึ้นมาง่ายๆ เมื่อ นิโกล่าส์ เปเป้ ได้บอลก่อนที่จะไหลให้ ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมย็อง ในใจคนที่ดูเกมอยู่แทบจะคิดได้เลยว่า "เสร็จแน่"
แล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ซึ่งนอกจากจะต้องชมความยอดเยี่ยมของ โอบาเมย็อง แล้วก็ต้องวิจารณ์ คูร์ท ซูม่า ที่เสียเหลี่ยมง่ายเหลือเกิน
ส่วนใบแดงของ มาเตโอ โควาซิช ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งของความโชคร้ายในเกมที่ แอนโธนี่ย์ เทย์เลอร์ ผู้ตัดสินโดนวิจารณ์อย่างหนักหน่วง รวมถึงจังหวะที่ เอมิลิอาโน่ มาร์ตีเนซ ที่ออกมารับบอลก้ำกึ่งว่าจะนอกกรอบอีก
ทุกอย่างกลายเป็นองค์ประกอบรวมให้ทีมลงเอยด้วยความพ่ายแพ้ ทั้งที่ควรจะทำได้ดีกว่านี้
แน่นอนว่าเสียงของแฟนสิงห์บลูส์พุ่งเป้าไปที่ผู้ตัดสินที่ทำหน้าที่อย่างน่ากังขา ซึ่งจะว่าไปมันก็ใช่ แต่ทั่งนี้ทั้งนั้นก็ต้องโทษตัวเองที่ทำผลงานไม่ดีเป็นหลักก่อน
อย่างที่ แฟร้งค์ แลมพาร์ด นายใหญ่ของทีมออกมาพูดหลังจบเกม ยอมรับว่าทีมทำได้ไม่ดีพอ ต่างจากเกมรอบตัดเชือกที่เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาได้ ซึ่งนักเตะเล่นกันได้อย่างดีเลย แม้ว่าจะมีการพูดถึงผู้ตัดสินอยู่บ้าง แต่อย่างที่เจ้าตัวบอก ยังไงก็ต้องโทษตัวเองก่อน
การชวดแชมป์ยิ่งแสดงให้เห็นถึงเกมรับที่มีปัญหา ในขณะที่ทีมเสริมแต่ผู้เล่นในแนวรุก จากตรงนี้คงทำให้ แฟร้งค์ แลมพาร์ด มองเห็นอะไรมากขึ้น
ยังรวมถึงตำแหน่งผู้รักษาประตูที่เป็นที่ปวดหัวว่าจะหาใครคนใหม่เข้ามาหรือใช้ เกปา อาร์รีซาบาลาก้า ต่อไป
ถือว่าปีนี้คือจุดเริ่มต้นที่ยอดดเยี่ยมสำหรับ แฟร้งค์ แลมพาร์ด และลูกทีม ฤดูกาลหน้าใหม่เดือนหน้าก็มาแล้ว
ได้เห็นความผิดพลาด จุดอ่อน จุดแข็ง ของทีมหมดแล้ว ก็ดูว่าจะทำยังไงกันต่อไป
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT