สิ่งที่คาดหวังจากทีมในซีซั่นนี้
แน่นอนว่าแฟนบอลทุกทีมเฝ้ารอที่จะเห็นทีมรักกลับมาลงสนามอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งแฟนบอลของ "สิงห์บลูส์" ที่เสริมทัพได้อย่างน่าสนใจทีเดียวในฤดูกาลนี้
เพราะนั่นทำให้ความคาดหวังจากที่ขอติดท็อปโฟร์ไปลุยในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกให้ได้ ตอนนี้เป้าหมายน่าจะถูกยกระดับขึ้นเป็นการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกซะแล้ว
แต่ละคนที่เข้ามาล้วนใช้งานได้เลย ชื่อเสียงเรียงนามไม่ธรรมดา นั่นจึงนำมาซึ่งเป้าหมายที่สูงสุดอย่างไม่ต้องสงสัย
แลมพาร์ด ต้องใช้เวลาในการหาทีมที่ลงตัว
การเสริมทัพครั้งใหญ่ด้วยผู้เล่นระดับท็อปชนิดเกือบครึ่งทีมย่อมไม่ง่ายกับการหาทีมที่ลงตัวได้ในทันที
ฮาคิม ซิเย็ค, ทิโม แวร์เนอร์, เบน ชิลเวลล์, มาล็อง ซาร์, ติอาโก้ ซิลวา และ ไค ฮาแวร์ตซ์ ทุกคนล้วนดีพอทีกับการเป็นตัวจริงให้กับทีมอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งหากไม่นับ ซาร์ ทุกคนมีโอกาสลงเล่นพร้อมกันด้วย
โดยเฉพาะในแนวรุกที่หากมองว่าสามารถลงเล่นได้ 4 คน ในระบบ 4-2-3-1 ตามแบบฉบับที่ทีมใช้อยู่บ่อยๆเมื่อฤดูกาลที่แล้วใครควรจะอยู่ตรงไหนบ้างเมื่อมีทั้งนักเตะใหม่ 3 คนอย่าง ซิเย็ค, แวร์เนอร์ และ ฮาแวร์ตซ์ ร่วมกับคนเก่าอย่างทั้ง เมสัน เมาท์, คริสเตียน พูลิซิช, คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย, แทมมี่ อบราฮัม และ โอลิวิเยร์ ชิรูด์
นั่นเป็นโจทย์ที่ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ต้องคิดใคร่ครวญเพราะทั้งหมดทั้งมวลคือความรับผิดชอบของเขาเต็มๆว่ามันจะออกมาดีหรือไม่ดี
ยังไงคงต้องใช้เวลากันอยู่บ้าง แต่ถ้ามันลงตัวเมื่อไร เชื่อว่าด้วยศักยภาพของแต่ละคนจะนำมาซึ่งผลงานอันยอดเยี่ยมให้ทีมแน่นอน
ผลงานของ ติอาโก้ ซิลวา คือสิ่งสำคัญทัพสิงห์
การดึง ติอาโก้ ซิลวา ที่อยู่ในวัยใกล้เกษียณไม่ใช่ความผิดพลาดเลยเมื่อมองถึงสิ่งที่เขาจะนำมาสู่แผงกองหลังของ เชลซี
ตลอดฤดูกาลที่ผ่านมาพลพรรคสีน้ำเงินต้องหงุดหงิดกับการที่ทีมต้องเสียประตูแล้วประตูเล่าทั้งในบอลลีกและบอลถ้วย
แนวรับที่แข็งแกร่งถือเป็นรากฐานที่สำคัญของความสำเร็จ เห็นได้จาก ลิเวอร์พูล ที่ดึง เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ และ อาลีสซง เบ็คเกอร์ ทำให้ทีมเสียประตูยาก เกมรุกก็บุกได้อย่างวางใจ
จริงอยู่ว่า ซิลวา ไม่ใช่ตัวเลือกในระยะยาวของทีม แต่ประสบการณ์ในกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี และ ลีก เอิง ฝรั่งเศส รวมถึงในเวทียุโรปและระดับนานาชาติจะเข้ามาช่วยยกระดับกองหลังของทีมได้เป็นอย่างดี
เขาสามารถถ่ายทอดประสบการณ์บรรดาเด็กรุ่นหลังทั้งหลายของทีมทั้ง อันโตนิโอ รือดิเกอร์, คูร์ท ซูม่า, ฟิคาโย่ โทโมรี่ และ อันเดรียส คริสเตนเซ่น ช่วยเพิ่มความมั่นคงและประสบการณ์ที่จำเป็นกับเกมลูกหนังระดับนี้ได้
แต่สิ่งที่สำคัญอีกอย่างคือการที่เจ้าตัวต้องแสดงมันออกมาในสนาม ซึ่งจะเป็นตัววัดคำพูดได้อย่างดีที่สุด ถ้ามันออกมาดี คนอื่นจะมีความมั่นใจตามไปด้วยอย่างไม่ต้องสงสัยฃ
ในช่วงเวลา 1-2 ฤดูกาลนี้คงจะทำให้เหล่าบรรดากองหลังของทีมได้อะไรบ้างไม่มากก็น้อยแหละ
แลมพาร์ด และ เชลซี กับการวางรากฐานที่พิเศษ
การกลับมาสู่รั้วสแตมฟอร์ด บริดจ์ในฐานะผู้จัดการทีมของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ถือเป็นสิ่งที่สร้างรอยยิ้มให้กับแฟนบอลของ เชลซี ได้ แม้จะไม่มีใครรู้ว่าเขาจะทำงานได้ดีแค่ไหน
แต่ในฐานะตำนานสโมสรที่เป็นกำลังสำคัญในความสำเร็จของสโมสรตลอดเส้นทางค้าแข้ง แน่นอนว่ามันทำให้แฟนๆในฝันถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น
ในปีแรกนายใหญ่ไฟแรงก็แสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมในการบริหารจัดการและนำ "สิงห์บลูส์" จบท็อปโฟร์ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของสโมสร และยิ่งไปกว่านั้นกับการให้โอกาสเด็กได้ก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่
โรมัน อบราโมวิช และ มารีน่า กรานอฟสกาย่า แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นใจตัวของกุนซือด้วยการทุ่มทุนมหาศาลเสริมทัพเพื่อนำทีมกลับคืนการเป็นทีมระดับหัวแถวไม่ใช่แค่ในประเทศแต่ในเวทียุโรปให้ได้
เงินหลัก 200 ล้านปอนด์ถูกเทลงมาให้ แลมพาร์ด เพื่อซื้อนักเตะที่ต้องการ ซึ่งแต่ละคนที่เข้ามาถือว่าอายุไม่เยอะและจะเป็นกำลัวงสำคัญของสโมสรได้อีกหลายปี
ท้ายที่สุดแล้วถ้าในปีนี้ทีมจะไม่ได้แชมป์มาครองอย่างที่แฟนบอลหวัง แต่มันก็แสดงให้เห็นว่าตอนนี้ทีมกำลังเดินมาในทิศทางที่ถูกต้องในการวางรากฐานเพื่ออนาคต ซึ่งมันอาจจะสมบูรณ์มากขึ้นในปีหน้า
ฤดูกาล 2020/21 อาจจะเป็นเพียงการเริ่มต้นอะไรที่พิเศษสำหรับสโมสร ที่อาจจะนำความสำเร็จมาสู่ทีมได้ในไม่กี่ปีข้างหน้า
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT