ไม่อยู่ในแผนการทำทีม
ด้วยการเสริมทัพอย่างที่รู้กันในช่วงตลาดซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่ละคนที่เข้ามานั้นพร้อมที่จะเป็นตัวหลักของทีมทั้งสิ้น แต่ในขณะเดียวกันนั้นตัวที่ปล่อยออกจากทีมนั้นยังไม่สมดุลกันเท่าไร
อัลบาโร่ โมราต้า ที่โดนปล่อยยืมอยู่แล้วก็โดนขายออกไป, วิลเลี่ยน กับ เปโดร โรดรีเกซ หมดสัญญา และ มาริโอ ปาซาลิช ก็โดนขายออกไป
แต่ยังไงก็ยังมีอีกหลายคนที่ยังอยู่ในข่ายที่จะต้องโดนปล่อยตัวออกไปหลังจากจบฤดูกาลนี้
เพราะการซื้อนักเตะเข้ามาด้วยเม็ดเงินมากกว่า 200 ล้านปอนด์ ยังไงทีมต้องพยายามปล่อยแข้งที่ไม่จำเป็น เพราะนอกจากจะลดภาระค่าเหนื่อยที่ยังต้องจ่าย ก็คือการเพิ่มเงินเข้าสโมสรเพื่อให้อยู่ในกฎไฟแนนเชี่ยล แฟร์ เพลย์ของจากยูฟ่า
ปัจจุบันทีมมีผู้เล่นในทีมชุดใหญ่มากถึง 27 คน ยังไม่รวมพวกที่ถูกปล่อยยืมอีกเพียบ เอาเฉพาะแค่พูดชื่อก็คุ้นหูอย่างน้อยก็ต้องมี 10 คนแล้ว
แต่วันนี้จะเน้นให้เห็นเฉพาะแข้งดังๆ 5 คนที่ดูแล้วอาจจะได้เก็บข้าวของออกจากทีมในเร็วๆนี้
แดนนี่ ดริ๊งค์วอเตอร์
สภาพของกองกลางวัย 30 ปีในเวลานี้ แทบไม่เหลือคราบของกองกลางชุดแชมป์พรีเมียร์ลีกกับ เลสเตอร์ ซิตี้ เมื่อปี 2015/16 เลย
ซัมเมอร์ปี 2017 "สิงห์บลูส์" ถึงขนาดยอมจ่ายเงินระดับ 35 ล้านปอนด์เพื่อคว้าตัวมาร่วมทีม แต่ดูท่าทางแล้วว่าตอนนี้เงินที่จ่ายไปคงสูญเปล่าแล้ว
ปีแรกลงเล่น 22 เกมทำได้แค่ประตูเดียว ปีที่สองหนักเลยลงเล่นแค่เกมเดียวหลังจากนั้นก็โดนปล่อยให้ทีมอื่นยืมตัวใช้งานมาตลอด
เท่านั้นไม่พอในช่วงหลังกลายเป็นแข้งมีปัญหาทั้งเมาแล้วขับ ทะเลาะวิวาท แถมตอนยังมีเรื่องกับเพื่อนร่วมทีมระหว่างซ้อมกับ แอสตัน วิลล่า อีก
"ผมรู้ว่าการย้ายมาอยู่กับ เชลซี ไม่ได้เป็นอย่างที่ใครคิดและผมทำผิดพลาด" ดริ๊งค์วอเตอร์ กล่าวเอาไว้เหมือนยอมรับสภาพ
ตอนนี้เจ้าตัวขอโอกาสที่จะกลับมาสู่สนามอีกครั้งในวัย 30 ปีถือว่ายังมีเวลาอีกเพียบที่จะกอบกู้ชื่อเสียงกลับมา เพียงแต่ว่ามันคงจะไม่ใช่ที่ เชลซี อีกแล้ว
มาร์กอส อลอนโซ่
ต้องยอมรับเลยว่า มาร์กอส อลอนโซ่ ถือเป็นหนึ่งในขวัญใจของแฟนบอลนับตั้งแต่ย้ายมาค้าแข้งกับทีมเมื่อปี 2016 ด้วยสไตล์การเล่นที่เติมเกมรุกได้อย่างดุดัน
โดยเฉพาะเรื่องของการเข้าทำที่ต้องบอกว่าแบ็คชาวสเปนรายนี้ไม่ได้มีดีแค่การเติมเกมช่วยแนวรุกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีทีเด็ดในการทำประตูได้ดีไม่แพ้ใครเลย หรือจะบอกว่าเป็นแบ็คจอมทำประตูเลยก็ว่าได้
แต่การมาของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป โอกาสลงเล่นน้อยลงอย่างชัดเจน แต่ถึงกระนั้นเมื่อฤดูกาลที่แล้วเจ้าตัวก็ยังทำ 4 ประตูจาก 18 เกมในลีกฃ
ทว่าด้วยรูปแบบการทำทีมที่นายใหญ่คนใหม่ไม่ได้ต้องการแค่เกมบุกอย่างเดียว เกมรับต้องดีด้วย เพราะซีซั่นที่แล้วต้องยอมรับว่าทีมเสียประตูเยอะมากทำให้ทีมทุ่มเงินดึง เบน ชิลเวลล์ เข้ามาอีกคน จากโอกาสที่น้อยอยู่แล้วก็แทบไม่เหลือ
แม้แต่เกมในเกมที่ปรับทัพยกแผงเพื่อให้สำรองลง มาร์กอส อลอนโซ่ ก็ยังไม่ได้เล่น โดยเป็น เอแมร์ซอน พัลมิเอรี่ ที่ลงสนามทำให้มันชัดเจนอยู่แล้วว่าต้องไป
รายงานบอกว่า เชลซี เตรียมขาย มาร์กอส อลอนโซ่ ออกจากทีมในช่วงตลาดเดือนมกราคมนี้ โดยมีหลายทีมดังในอิตาลีต้องการตัว
อย่างน้อยจนถึงตอนนี้เจ้าตัวคือนักเตะในตำแหน่งกองหลังที่ทำประตูในพรีเมียร์ลีกที่สุดที่ 19 ลูกนับตั้งแต่ฤดูกาล 2016/17 ถือเป็นการจารึกชื่อเอาไว้เหมือนกันว่ามีของดี
อันโตนิโอ รือดิเกอร์
ดูเหมือนความว่าดกีความชอบที่เจ้าตัวอ้างว่าเป็นคนช่วยคุยให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ ย้ายมาร่วมทีม เชลซี จะไม่ได้เป้นสิ่งที่คุ้มกะลาหัวให้ได้ลงสนามกับทีมได้
เพราะการมาของ ติอาโก้ ซิลวา ทำให้เจ้าตัวกลายเป็นเลือกสำรองตำแหน่งเซนเตอร์ไปในทันที โดยยังมี คูร์ท ซูม่า ที่อยู่หน้าเขาอีกคน แถมไม่แน่ว่ายังเป็นรอง อันเดรียส คริสเตนเซ่น อีกคนด้วยซ้ำ
ในซีซั่นนี้ที่แทบไม่มีส่วนร่วมกับเกมของทีมเลย ในพรีเมียร์ลีกได้เล่นแค่เกมเดียว ส่วนในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกลงเล่นไป 4 เกมก็จริง แต่ก็ต้องยอมรับว่าเพื่อนร่วมกลุ่มของ "สิงห์บลูส์" ไม่ได้แกร่งอะไรมากนักทำให้ แฟร้งค์ แลมพาร์ด กล้าที่จะส่งลงเล่น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีศึกชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปรออยู่กลางปีหน้า เจ้าตัวยิ่งต้องพยายามหาโอกาสลงเล่นให้ได้มากกว่านี้
แต่ดูแล้วว่าโอกาสภายในทัพ เชลซี คงจะไม่ได้มากกว่าไปนี้ ซึ่งหากจะหวังให้ใครเจ็บยาวแล้วได้เล่นคงจะเป็นการฝันเฟื่องมากเกินไปหน่อย
เอาชัวร์กว่าก็คือย้ายทีมนั่นแหละ และไม่แน่ว่ามันจะเกิดขึ้นในช่วงตลาดหน้าหนาวนี้ก็ได้
จอร์จินโญ่
แม้จะไม่ได้เป็นสำรองถาวรอะไรขนาดนั้น แต่ก็ต้องยอมรับว่าบทบาทในทีมของ จอร์จินโญ่ ถือว่าลดน้อยถอยลงไปพอสมควร
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ดูจะพอใจกับผลงานของทีมเมื่อถอย เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ลงไปเล่นมิดฟิลด์ตัวรับเต็มตัวแล้วเกมรับของทีมแน่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
นั่นทำให้ จอร์จินโญ่ ต้องหลุดเป็นตัวสำรอง โดยแดนกลางของทีมเป้น ก็องเต้, เมสัน เมาท์ และ ไค ฮาแวร์ตซ์ ที่จองสัมปทานอยู่ในเวลานี้
ที่ผ่านมาตัวแข้งทีมชาติอิตาลีเองก็มีข่าวเรื่องย้ายทีมมาตลอดนับตั้งแต่ เมาริซิโอ ซาร์รี่ อำลาทีม โดยเสื่อพยายามจับโยงว่าเจ้านายเก่าที่ตามกันมาตั้งแต่สมัยคุม นาโปลี จนถึง เชลซี และไปคุม ยูเวนตุส อยากได้ตัวไปร่วมงานกันอีกครั้ง
แต่ในเมื่อตอนนี้ ซาร์รี่ ว่างงานไปแล้วหลังโดนปลดก็เล่ยไม่รู้ว่าจะไปในทิศทางไหน ด้วยแท็คติคปัจจุบันของทีมคงต้องบอกว่ายากที่ จอร์จินโญ่ จะมีที่ลง อาจจะเล่นในฐานะตัวสำรองหรือลงตัวจริงในเกมที่ไม่ได้เน้นอะไรมากซะมากกว่าแล้ว
ค่าตัว 50 ล้านปอนด์ที่ทาง เชลซี ตั้งไว้ หากมีคนยอมจ่ายคงน่าจะขายแน่ล่ะ
เกปา อาร์รีซาบาลาก้า
ในวัยเพียง 17 ปีเมื่อครั้งก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของ แอธเลติก บิลเบา, เกปา อาร์รีซาบาลาก้า ถูกวางให้เป็นทายาทของ อีเกร์ กาซียาส ตำนานผู้รักษาประตูของ เรอัล มาดริด และทีมชาติสเปน
ด้วยสไตล์การเซฟประตูที่คล้ายกันรวมถึงส่วนสูงที่ใกล้เคียงกัน และดังขึ้นมาตั้งแต่ยังเด็ก ไม่แปลกที่จะถูกเปรียบเทียบกันไปแบบนั้น
และมันยิ่งตอกย้ำว่าเจ้าตัวจะมีเส้นทางอาชีพที่ยิ่งใหญ่เมื่อ เชลซี ยอมทุ่มเงินค่าตัวสถิติโลกในตำแหน่งผู้รักษาประตูดึงตัวไปร่วมทีมเมื่อปี 2018 กลายเป็นที่จับตามองมากกว่าเดิม
แต่ทว่าหลายครั้งหลายคราที่ก่อความผิดพลาดจนบ้างครั้งถูกมองว่ามัน "ง่ายเกินไป" จน แฟร้งค์ แลมพาร์ด หมดความเชื่อมั่น ถึงขนาดหลายครั้งดร็อปเป็นตัวสำรองแล้วให้ วิลลี่ กาบาเยโร่ เฝ้าเสา
ปีนี้ เชลซี จัดการหาผู้รักษาประตูคนใหม่อย่าง เอดูอาร์ เมนดี้ เข้ามาแทนซะเลย แถมกลายเป็นได้ผล มือกาวคนใหม่ทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยมเสริมสร้างความมั่นใจให้ทีมจนแนวรับแข็งแกร่งเสียประตูยาก
คงไม่ต้องมาคาดเดากันไปว่าหากทู่ซี้ใช้ต่อไปแล้วจะก้าวขึ้นมาโชว์ฝีมือยอดเยี่ยมเหมือนเมื่อครั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้โอกาส ดาบิด เด เคอา ที่เส้นทางออกแนวเดียวกันแถมแย่กว่าด้วยซ้ำ เพราะตอนนี้ เชลซี ไม่ทนแล้ว
แม้ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ยืนยันว่าไม่กดดันที่จะขาย เกปา ออกจากทีม แต่ด้วยค่าเหนื่อยที่จะประหยัดไปรวมถึงค่าตัวที่จะได้รับ ยังไงสุดท้ายคงปล่อยตัวออกจากทีมดีกว่า
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT