รอด-ไม่รอด

ถึงขนาดที่บ่อนรับนพนันถูกกฎหมายยกให้ขึ้นมาเป็นเต็งหนึ่งของกุนซือที่จะโดนปลดออกจากตำแหน่งรายต่อไป

แน่นอนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ได้มาจากการแพ้ให้กับ "สุนัขจิ้งจอก" เพียงอย่างเดียว แต่มันเป็นผลพวงมาจากผลงานที่แย่มาต่อเนื่องของทีมนั่นแหละ

หากไม่นับชัยชนะเหนือ มอร์แคมบ์ ในเกมเอฟเอ คัพที่มองมุมไหนต้องชนะเท่านั้น "สิงห์บลูส์" แพ้ถึง 5 จาก 8 เกมหลังสุดในพรีเมียร์ลีก เก็บได้แค่ 7 คะแนนในช่วงเวลาดังกล่าว

เรียกได้ว่าการเชผิญหน้ากับคู่แข่งที่ลุ้นพื้นที่ฟุตบอลยุโรด้วยกันทั้ง เอฟเวอร์ตัน, อาร์เซน่อล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และล่าสุด เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมไม่มีคะแนนติดมือเลยแม้แต่แต้มเดียว

ถึงขนาดที่ตัว แฟร้งค์ แลมพาร์ด เองก็เหมือนจะทำใจอยู่บ้างว่าตัวเองอาจจะตกงานได้ทุกเมื่อ

อย่างที่เคยบอกไปแล้วหลายต่อหลายครั้งว่าความคาดหวังของสโมสรในฤดูกามลนี้สูงลิบจากการที่ทีมทุ่มทุนเสริมทัพมหาศาล ซึ่งเป้าหมายพื้นที่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกอย่างน้อยต้องได้

หรือไม่แน่ว่าในสายตาของ โรมัน อบราโมวิช นั้นยังต่ำเกินไปด้วยซ้ำเมื่อเทียบกับเงินที่เจ้าตัวต้องควักกระเป๋าเสริมทัพมากมาย

แม้จะเป็นเรื่องเข้าใจได้ว่ายังต้องให้เวลานักเตะหน้าใหม่ต้องปรับตัวอยู่ก็ตามที แต่ในฐานะของคนที่จ่ายเงินอาจจะไม่คิดอย่างนั้น

ที่สำคัญนักเตะที่ดึงเข้ามาทุกคนยังไม่มีใครที่ฟอร์มเข้าตาแบบเต็มๆเลยสักคนเดียว โดยเฉพาะในแนวรุกที่ดูเหมือนว่า แฟร้งค์ แลมพาร์ด จะหาทีมที่ลงตัวไม่ได้สักที

ทิโม แวร์เนอร์ คือคนที่ได้รับโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่องมากที่สุด แต่หลายต่อหลายเกมเราได้เห็นว่า กองหน้าชาวเยอรมันโยนโอกาสทิ้งไปแบบง่ายๆ นั่นทำให้ความมั่นใจเสียหายพอสมควร

ไหนจะ ไค ฮาแวร์ตซ์ ที่ค่าตัวแพงเกือบเป็นสถิติสโมสรยิ่งไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ขณะที่ ฮาคิม ซิเย็ค ที่ดููวูบวาบและน่าจะเป็นตัวความหวังได้แต่ก็เจออาการบาดเจ็บเล่นงานอยู่เรื่อยๆจนฟอร์มสามวันดี สี่วันไข้

ส่วนเกมแรก เอดูอาร์ เมนดี้ ที่ดูเหนียวหนึบในตอนแรกเริ่มออกอาการเป๋ ส่วน ติอาโก้ ซิลวา อายุมากแล้วคงฝากอะไรไว้ไม่ได้มาก ยิ่งในช่วงที่โปรแกรมต้องเล่นกันติดๆ การยืนระยะดูมีปัญหา ขณะที่ เบน ชิลเวลล์ เองหลายครั้งรุกจนหลุดตำแหน่งเพื่อนต้องวิ่งกันช่วยจนเสียตำแหน่งกันไปหมด

พูดง่ายๆว่าปัญหาเพียบเลยสำหรับทีมในเวลานี้

ยิ่งเวลานี้กระแสปลดจากตำแหน่งแรงขึ้นมา สื่ออังกฤษทั้งหลายก็ไม่พลาดที่จะหยิบยกชื่อของเหล่ากุนซือทั้งหลายขึ้นมาว่าใครจะเข้ามาแทนที่หากปลด แฟร้งค์ แลมพาร์ด

ตอนนี้ก็มีเพียบเลยทั้ง อังเดร เชฟเชนโก้ เด็กเก่าของทีมแถมรายนี้ซี้กับ โรมัน อบราโมวิช ด้วย แต่ปัจจุบันทำงานในตำแหน่งเทรนเนอร์ทีมชาติยูเครนอยู่ อาจจะคุยกันยากหน่อย

มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี อดีตกุนซือยูเวนตุสที่เผยว่าร่ำเรียนภาษาอังกฤษมาสักพักตั้งตอนที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา มีข่าวโดนปลด ถ้าเป็นจริงตอนนี้ก็คงคืบหน้าไม่น้อยเลย

อีกคนที่เป็นตัวเต็งก็คือ โธมัส ทูเคิ่ล ที่เพิ่งแยกทางกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง มาสดๆร้อนๆ ซึ่งเจ้าตัวก็เคยเผยว่าสนใจรับงานในอังกฤษเช่นกัน

แต่คนละล้วนมีภาษีดีเยี่ยม โดยเฉพาะสองรายหลังที่ประสบการณ์คุมทีมโชกโชนคว้าแชมป์มามากมายเลย

ถึงขนาดที่มีรายงานออกมาว่าทางสโมสรอยากให้ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ลาออกเองดีกว่าที่จะให้สั่งปลดจากตำแหน่ง เนื่องจากยังให้เกียรติในฐานะตำนานของสโมสรเลย

เพราะดูจากที่ผ่านมาเหล่าบรรดากุนซือมีชื่อทั้งหลายที่ผ่านงานคุมทีมในรั้วสแตมฟอร์ด บริดจ์ ล้วนอยู่ไม่ยืดแม้ว่าจะพาทีมได้แชมป์ทั้ง โชเซ่ มูรินโญ่, โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ, ราฟาเอล เบนีเตซ, อันโตนิโอ คอนเต้ และล่าสุดอย่าง เมาริซิโอ ซาร์รี่

แล้วกับ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ที่ยังไม่มีแชมป์เลยจะเอาอะไรไปรอด

ไม่รู้ว่าสโมสรอาจจะยอมกัดฟันรอจนจบฤดูกาลนี้แล้วดูว่าสุดท้ายทีมจะไปได้ไกลแค่ไหนใน 3 รายการที่แข่งขันรึเปล่าทั้ง พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

ฟุตบอลลีกดูกันไปยาวๆ, เอฟเอ คัพ อยู่ในรอบ 4 จะเปิดบ้านเจอ ลูตัน วันเสาร์นี้ ส่วนถ้วยยุโรปเจอของแข็งอย่าง แอตเลติโก มาดริด ที่นั่งเก้าอี้จ่าฝูงลา ลีกา สเปนในเดือนกุมภาพันธ์

สามเกมต่อจากนี้อาจจะไม่ยากทั้ง ลูตัน ในบอลถ้วย ตามด้วยการเล่นในบ้านทั้งสองนัดในลีกทั้ง วูล์ฟแฮมป์ตัน และ เบิร์นลี่ย์ แต่เกมถัดไปนี่แหละอาจจะเป็นตัวชี้ชะตาของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด กับการไปเยือน สเปอร์ส 

ไม่รู้ว่าตอนนี้เหล่าบรรดาสาวกสิงโตน้ำเงินคิดยังไง แต่เชื่อว่าคงมีไม่น้อยแหละที่ทำใจแล้วว่า แฟร้งค์ แลมพาร์ด จะไม่ได้เป็นกุนซือทีมต่อไปในซีซั่นหน้า