การกลับมาของ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย
ตลอด 6 เกมภายใต้การคุมทีมของนายใหญ่ชาวเยอรมัน ดาวรุ่งวัย 20 ปีมีส่วนร่วมทุกนัด โดยเป็นตัวจริง 5 เกมและลงเล่นเป็นตัวสำรอง 1 เกม แม้จะมีแค่แอสซิสต์เดียวเท่านั้น แต่ดูจากฟอร์มการเล่นต้องบอกว่าใช้ได้เลยทีเดียว
ไม่ว่าจะเล่นเป็นวิง-แบ็กขวา ขึ้นไปยืนสูงในแนวรุก หรือเป็นแต่เป็นหน้าต่ำ เจ้าตัวก็พร้อม ขอแค่ได้ลงสนามก็พอ
ในเวลานี้ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย น่าจะเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีความสุขมากที่สุดในทีมในยุคใหม่นี้
วันนี้ไปคุยกับสตาร์คนนี้ถึงความรับผิดชอบครั้งใหม่, เป้าหมายในเกม และการเผชิญหน้ากับ แอตเลติโก มาดริด ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
นับตั้งการ โธมัส ทูเคิ่ล มาคุมทีม คุณออกสตาร์ทในฐานะวิง-แบ็กขวา 4 จาก 6 เกม ซึ่งไม่เคยเห็นคุณเล่นมาก่อนแม้แต่สมัยเป็นเยาวชน คุณคิดยังไงเกี่ยวกับตำแหน่งที่แตกต่างออกไปและเคยคิดว่าเหมาะที่จะเล่นตำแหน่งนี้หรือไม่?
แน่นอนว่ามันเป็นบทบาทที่แตกต่างสำหรับผมและเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ผมไม่เคยทำมาก่อน แต่ผมมองเห็นความท้าทาย มันเป็นสิ่งที่ผมรู้ว่าผมสามารถทำได้ ในการเติมเกมรุก ผมสามารถใช้ศักยภาพที่มีในการมุ่งไปข้างหน้า แต่การเล่นเกมรับก็เช่นกัน ตอนนี้ผมต้องระวังมากขึ้นเพราะผมไม่ได้เล่นเป็นปีก
ผมกำลังเล่นในตำแหน่งวิง-แบ็ก ดังนั้นผมต้องถอยกลับมาลงมากขึ้น มันเป็นประสบการณ์ที่ดีที่ได้เรียนรู้ตำแหน่งใหม่ภายใต้ผู้จัดการทีมคนใหม่และเป็นไปด้วยดีสำหรับผม ผมสนุกกับกสารเล่นตรงนั้น - มันก็ไม่เลวนะสำหรับผม ผมสนุกกับมันและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผมสามารถปรับปรุงและหวังว่าจะทำได้ดี
มันไม่เคยอยู่ในความคิดของผมมาก่อน เมื่อใดก็ตามที่ทีมเล่นในระแบบกองหลัง 5 คน ผมมักจะเล่นในฐานะแข้งหมายเลข 10, เป็นปีหหรือไม่ก็เป็นหน้าต่ำ ผมไม่เคยเล่นวิง-แบ็กหรือคิดว่าจะเล่นตำแหน่งนี้ ดังนั้นการบอกว่าได้เล่นในตำแหน่งนั้นเป็นอะไรที่หใม่สำหรับผม แต่ผู้จัดการทีมก็ช่วยผมได้ดี
เขาอธิบายสิ่งต่างๆ วิธีการเล่นในตำแหน่งนั้น ในสิ่งที่ต้องทำในการเดินหน้าลุยและถอยกลับมา ซึ่งมันช่วยได้ผมได้เป็นอย่างดีในการเตรียมพร้อมก่อนเกม ผมได้ดูคลิปเกี่ยวกับเขามาก่อนเช่นกันเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับการวางตำแหน่งมาบ้าง ดังนั้นมันช่วยผมได้และเป็นการดีที่ได้เล่นตรงนั้น
คุณเคยพูดก่อนหน้านี้มาเกี่ยวกับการตั้งเป้าหมายเพื่อทำประตูมากขึ้น และบ่อยครั้งคุณไปอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมแต่ยังไม่สามารถทำประตูได้ อธิบายให้ฟังหน่อยว่าคุณพยายามทำยังไง?
ผมมีความรู้สึกเฉพาะในการเล่นวิง-แบ็กหรือในตำแหน่งปีก คุณต้องไปที่เสาสองในการทำประตู ในทุกประตูมีผลในตอนท้ายดังนั้นไม่สำคัญว่าจะเป็นอะไรก็ตาม คุณต้องการมีชื่ออยู่บนสกอร์บอร์ดหรือแอสซิสต์เพื่อช่วยทีมให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ผมบอกกับตัวเองว่าเมื่อใดที่อยู่แถวเขตโทษ ผมต้องเด็ดขาดและมีความโหดเหี้ยมมากขึ้น คว้าโอกาสเมื่อมันมาถึงและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะส่งบอลสู่ก้นตาข่ายได้บ่อยขึ้น การสอดเข้ามาเป็นหนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดที่จะสอดเข้ามาในจุดที่กองหลังมองไม่เห็น
ผมไม่ได้ตั้งเป้าหมายเฉพาะสำหรับตัวเอง แต่ผมพยายามที่จะทำประตูให้ได้มากที่สุด มันที่ดีได้รู้ว่าเรามีนักเตะที่มีศักยภาพในการผ่านบอลมาได้เช่นกันไม่ว่าจะเปิดหหรือผ่านบอลตัดเพื่อให้คุณส่งบอลเข้าประตู ผมแค่ทำให้มั่นใจว่าจะไปอยู่ในตำแหน่งนั้นและพยายามยิงและหวังเป็นอย่างยิ่งว่ามันจะไปอยู่ที่ก้นตาข่าย
ในบรรดาผู้ที่มองดูคุณจากเด็กอะคาเดมี่อาจจะคิดว่าคุณเป็นจอมถล่มประตู กับการทำ 31 ประตูใน 55 เกม นั่นคือตัวเลขที่คุณหวังจะทำได้ในทีมชุดใหญ่หรือไม่?
สมัยอยู่ในทีมอะคาเดมี่ เมื่อคุณเห็นตัวเลขแบบนั้นคุณจะรู้สึกว่า 'ว้าว' และคุณต้องการพยายามและลองทำแบบนั้นในทีมชุดใหญ่เช่นกัน แต่เห็นได้ชัดว่ามันเป็นลีกที่ยากกว่ามากและยากที่จะทำประตูได้
คุณต้องการเป็นผู้เล่นคนนั้น คนที่ทุกๆทีมหวาดกลัวและเมื่อคุณมีเป้าหมายในการทำประตูหรือแอสซิสต์สำหรับทีมในทุกเกมที่ลงเล่น ช่วยทีมให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพราะนั่นมีส่วนช่วยในตอนท้าย คุณทำประตูหรือแอสซิสต์ช่วยทีมชนะ ดังนั้นผมจึงมองแบบนั้น
ถ้าผมสามารถทำประตูได้หนึ่งเกมและอาจจะเป็นเกมถัดผมสามารถแอสซิสต์ และเกมถัดไปก็ทำประตูได้อีกครั้ง มันช่วยในทุกๆด้าน ผมต้องการเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่อยู่บนสกอร์บอร์ดอยู่เสมอ
ในเกมกับ ท็อตแน่ม ก่อนหน้านี้ คุณได้เล่นในแนวรุกร่วมกับ เมสัน เมาท์ โดยมี รีซ เจมส์ เป็นวิง-แบ็ก การได้เล่นกับเพื่อนที่เล่นร่วมกันมานานมีส่วนช่วยให้ผลงานดีขึ้นรึเปล่า?
ผมเล่นกับ รีซ และ เมสัน มาหลายปี ดังนั้นผมรู้ถึงคุณสมบัติและความสามารถของพวกเขา ซึ่งพวกเขาเองก็รู้ว่าผมทำอะไรได้ การเล่นร่วมกับพวกเขานั้นง่ายมากเพราะพวกเขารู้ว่าผมทำอะไรได้ในสนาม พวกเขาสามารถข่วยผมและเชื่อมโยงกับผมได้อย่างรวดเร็ว
พวกเขารู้ว่าผมสามารถเติมเกมขึ้นหน้าและผมรู้ว่าพวกเขาก็ทำได้ดีเช่นกัน ดังนั้นมันเป็นการดีมากที่ได้เชื่อมเกมกับพวกเขา
การก้าวขึ้นมาจากอะคาเดมี่ มันเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมที่รู้ว่าเรากำลังทำให้อะคาเดมี่ภูมิใจ เราต้องการก้าวต่อไปด้วยกัน พยายามคว้าแต้มให้มากที่สุดและลงเล่นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ มันเยี่ยมเสมอเมื่อได้ประสานงานกับเพื่อน - พวกเขาถ่อมตัวและมีพัลงที่ดี ดังนั้นมันเยี่ยมที่ได้ลงเล่นร่วมกับพวกเขาและผมหวังว่ามันจะเป็นแบบนี้ต่อไปอีกหลายปี
บ่อยครั้งผู้คนพูดถึงดาวรุ่งของ เชลซี ในภาพรวม และบางทีอาจจะลืมไปว่าคุณอายุน้อยกว่า รีซ 1 ปี, น้อยกว่า เมสัน 2 ปี และน้อยกว่า แทมมี่ อบราฮัม 3 ปี คุณคิดว่าถูกมองข้ามเรื่องนี้ไปรึเปล่า?
แน่นอน ผมรุ็สึกว่าบางครั้งก็ลืมไป แต่ถ้าพวกเขาพูดเกี่ยวกับเราเป็นหนึ่งเดียว มันก็เป็นเรื่องดีที่จะพูดถึง และพูดถึงเราทุกคนในภาพรวมก็เป็นครั้งรู้สึกที่ดีเช่นกัน คุณต้องการลงเล่นในทีมใหญ่และดูเหมือนว่าคุณกำลังทำในสิ่งที่ถูกต้องในสนามและช่วยทีมให้มากที่สุด
ผมไม่ค่อยชอบฟังมันเท่าไร ผมชอบที่จะเน้นไปที่การเล่นในสนามและฟังครอบครัว ผู้จัดการทีม เพื่อนและเพื่อนร่วมทีมรอบตัว, ผมฟังในสิ่งที่พวกเขาบอกกับผมเพราะพวกเขาต้องให้กับแนะนำที่ดีที่สุดสำหรับผมเพื่อให้ผมดีขึ้น
ผมชอบที่จะฟังพวกเขาและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพวกเขาจะคอยแนะนำผมไปเรื่อยๆเพื่อให้ผมเป็นนักเตะที่ดีขึ้น
คุณยังคิดว่าตัวเองเป็นแข้งอายุน้อยอีกรึเปล่สหลังจากที่ขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ 3 ฤดูกาลแล้ว?
ผมจะไม่บอกว่าผมรู้สึกสบายใจอย่างเต็มที่ ชัดเจนว่าผมอยู่ในทีมชุดใหญ่มาระยะหนึ่งแล้ว ดังนั้นผมจึงรู้สึกอุ่นใจ ผมอยู่กับทุกคนที่นี่มานานแล้วซึ่งมันก็ยอดเยี่ยม แต่ผมไม่รู้สึกมั่นคงเท่าไรนัก
ผมยังคงพยายามต่อสู้เพื่อให้แน่ใจว่าจะเป็นผู้เล่นที่ดีขึ้นในทุกๆวันและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะทำงานอย่างหนักในทุกวันเช่นกัน
มันเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมที่ได้รู้ว่าผมได้อยู่ใกล้กับผู้เล่นเหล่านี้มานาน เราทุกคนต่างก็เป็นทำได้ดีในฐานะทีม เราทุกคนเริ่มสบายใจซึ่งกันและกันมากขึ้น รู้ว่าทุกคนสนุกกับอะไรและเล่นกันอย่างไร แต่ผมแค่อยากลงสู่สนามและทำในสิ่งที่ดีที่สุด ซึ่งก็คือสนุกกับฟุตบอล
ผู้คนเมื่อนึกถึง คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย พวกเขาอาจจะสนใจแต่ความเร็ว, ทักษะและการเลี้ยงบอล แต่หนึ่งในสิ่งที่คุณสมบัติที่ดีที่สุดของคุณคือการผ่านบอลและแทบไม่มีใครพูดถึง มันสำคัญกับเกมของคุณยังไง?
ผมทำมันมาตั้งแต่สมัยเป็นเด็ก ผมชอบที่จะเปิดเกมให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และผมรู้สึกว่าการผ่านบอลยาวหรือการเปลี่ยนเกมเป็นอะไรที่ดีที่สุดเสมอ บางครั้งพื้นที่แออัดและคุณต้องเปิดพื้นที่และพยายามเคลื่อนไหวเพื่อรับบอล
ผมแค่อยากเห็นภาพก่อนและเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นตั้งแต่เนิ่นๆ ดังนั้นผมรู้ว่าถ้าผมเปลี่ยนการเล่น จะมีโอกาสที่ดีที่จะลุยได้เร็วและเราเล่นจากตรงนั้น ผมพยายามมองภาพให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ มองไปรอบๆ มองหาพื้นที่และพยายามเล่นบอลให้เร็วที่สุด
ในที่สุดคุณก็กลับมาอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์เต็มที่อีกครั้งหลังจากที่บาดเจ็บเอ็นร้อยหมาย เมื่อมองย้อนกลับไปนั่นคือความปราชัยครั้งแรกในเส้นทางอาชีพรึเปล่า?
อาการบาดเจ็บเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจสำหรับผมและมันทำให้ผมต้องใช้เวลานานมากกว่าจะกลับมาได้ นี่เป็นหนึ่งในการบาดเจ็บที่ต้องใช้เวลาเป็นปีเพื่อฟื้นฟูเพราะมันคือการเจ็บครึ่งใหญ่
คุณสูญเสียกล้ามเนื้อที่น่อง คุณสูญเสียความเร็วและอะไรแบบนั้น ดังนัน้คุณต้องทำงานอย่างหนักร่วมกับทีมและคนในครอบครัวที่บ้านพยายามจะกลับมาอย่าสภาพที่เป็นอยู่ในตอนนี้ ความฟิตและความสามารถในการวิ่งอย่างที่ทำได้ในปกติโดยให้กล้ามเนื้่อกลับมาซึ่งมันเป็นเรื่องใหญ่
ผมทำงานอย่างหนักนอกสนามและพยายามฟื้นฟูกล้ามเนื้อและความแข็งแกร่งกลับมาและทำทุกอย่างให้กลับมาเหมือนก่อนที่จะบาดเจ็บ ทุกคนพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ผมกลับมาเร็วที่สุดและผมรู้สึกว่าผมกลับมาอย่างที่เคยเป็นแล้ว
ผมไม่เคยบาดเจ็บและไม่เคยเข้ารับการผ่าตัดมาก่อน ดังนั้นมันจึงเป็นอะไรทึ่ใหม่สำหรับผมและเป็นความท้าทายครั้งยิ่งใหญ่ มันเป็นการกลับมาครั้งใหญ่เมื่อรู้ว่าทุกอย่างกำลังดำเนินไปด้วยดี กับรอบรองชนะเลิศยูโรปา ลีก ที่มาถึง ดังนั้นมันเป็นเรื่องยาก แต่ผมบอกตัวเองว่าทุกอย่างเกิดขึ้นแบบมีเหตุผลของมัน พระเจ้าให้เหตุผลทุกอย่างที่คุณทำ ดังนั้นผมมีความสุขกับตอนนี้และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผมจะเติบโตและพัฒนาต่อไป
เป็นเวลาเกือบ 3 ปีครึ่งนับตั้งแต่คว้าแชมป์โลกชุดยู-17 กับทีมชาติอังกฤษซึ่งทีมมีนักเตะอย่าง ฟิล โฟเด้น, เจดอน ซานโช่, ริอาน บรูว์สเตอร์, เอมิล สมิธ-โรว์ และ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ทุกคยล้วนก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ด้วยแนวทางของตัวเอง คุณเล่นในทีมที่ดีแต่เป็นทีมที่ดีที่สุดในแง่ของความสามารถส่วนตัวรึเปล่า?
เรามีความสามารถส่วนตัวที่ยอดเยี่ยมในทีมนั้น ทุกคนในทีมล้วนมหัศจรรย์และด้วยเหตุผลนั้นเราถึงคว้าแชมป์ เราทุกคนล้วนมีแนวคิดที่ถูกต้องและทัศนคติที่ถูกต้องที่จะเดินลงสู่สนามและคว้าแชมป์
เรารู้ว่าทุกคนมีลักษณะเฉพาะตัวในการคว้าชัยในเกมและวิธีที่เราเล่นในฐานะทีมก็สามารถคว้าชัยเช่นเดียวกัน มันเป็นความพิเศษที่ได้เล่นในทีมชุดนั้นเพราะพวกเขาล้วนเป็นยอดนักเตะและผมคิดว่าทุกคนจะพูดในแบบเดียวกัน มันยอดเยี่ยมมากที่ได้เห็นหลายคนทำได้เป็นอย่างดี
ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกกำลังกลับมาแข่งกันอีกครั้งและเป็นการฝ่าอุปสรรคที่แท้จริงสำหรับคุณของรายการนี้ คุณรู้สึกตื่นเต้นมากแค่ไหนที่ได้ลิ้มรสของฟุตบอลรอบน็อคเอาท์อีกครั้ง?
ผมตื่นเต้นมากๆเลย! มันเป็นเกมที่ยิ่งใหญ่กับ แอตเลติโก, ทีมที่เรารู้ว่าเป็นทีมใหญ่และทำได้อย่างดีเยี่ยมในฤดูกาลนี้ เราต้องการลงสู่สนามในเกมนั้นพร้อมกับแนวคิดพยายามคว้าชัยชนะและพยายามผ่านเข้ารอบต่อไปให้ได้ มันจะเป็นเกมที่แตกต่างจากที่เราคาดหวัง ไปเล่นที่โรมาเนียแทนที่จะเป็นสเปน แต่มันจะเป็นเกมที่ยิ่งใหญ่
เรารู้ว่าฟุตบอลเป็นกีฬาที่บ้าคลั่งและสามารถเกิดอะไรขึ้นก็ได้ คุณสามารถชนะได้ใน 1 นาที และในนาทีต่อมาคุณแพ้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแชมเปี้ยนส์ ลีก
เป้าหมายของเราคือใส่ทุกอย่างที่มีและดูว่าเราจะทำมันสำเร็จได้หรือไม่
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT