ชัยชนะที่ยอดเยี่ยม
เพราะมันไม่ใช่แค่เกมธรรมดา แต่มันคือศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกเหนือ ปอร์โต้ ในฐานะทีมเยือน ด้วยสกอร์ 2-0 เพราะนี่น่าจะเป็นการแหย่เท้าเข้าสู่รอบรองชนะเลิศไปหนึ่งขาแล้ว
5 นักเตะที่เป็นแค่ตัวสำรองในเกมล่าสุดทั้ง เมสัน เมาท์, เบน ชิลเวลล์, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, อันเดรียส คริสเตนเซ่น และ ไค ฮาแวร์ต กลับมาเป็นกำลังสำคัญอีกครั้ง แน่นอนว่ามันส่งผลให้ทีม "แน่น" มายิ่งขึ้น โดยเฉพาะในเกมรับ
อันที่จริงทีมไม่ได้ทำผลงานในเกมนี้ได้ยอดเยี่ยมอะไรมากมาย และเกมก็ไม่ได้เหนือกว่าเจ้าบ้าน จะว่าไปดูจะเป็นรองอยู่ด้วยซ้ำ แต่มองตามตรงมันเป็นเรื่องของแผนการเล่นที่การไปเยือนจะให้ทะเล่อทะล่าบวกใส่ก็ใช่เรื่อง
ด้วยความสมดุลของนักเตะและการเล่นทำให้ทีมกลับออกมาพร้อมชัยชนะจากประตูของ เมสัน เมาท์ และ เบน ชิลเวลล์ ซึ่งมีจุดน่าสนใจหลายอย่างทีเดียวจากเกมนี้
ปฏิกิริยาอันยอดเยี่ยมหลังความพ่ายแพ้ที่น่าอับอาย
หลังจากที่ไม่แพ้ใครมา 14 เกมในการคุมทีม, โธมัส ทูเคิ่ล เสียสถิติครั้งแรกในบอลลีกล่าสุดอย่างที่รู้กัน
อย่าว่าแต่ไม่แพ้ใคร ทีมแทบไม่เปิดโอกาสให้คู่แข่งเข้ามาทำประตูมากเท่าไรอีกดว้ย แต่แค่เกมเดียวโดนทะลวงตาข่าย 5 ลูกแถมเป็นการเล่นในบ้านอีก แถมยังมีเหตุการที่ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ กับ เกปา อาร์รีซาบาลาก้า ทะเลาะกันในสนามซ้อมออกมาตามหน้าสื่ออีก
ถึงกระนั้นจากความพ่ายแพ้ในเกมล่าสุดกลายเป็นแรงกระตุ้นให้ทีมต้องการกลับมาทำผลงานให้อีกครั้งในการเจอกับ ปอร์โต้ แน่นอนว่ามันไม่ง่ายเลย ไม่อยากนั้นพวกเขาคือไม่สามารถเขี่ย ยูเวนตุส ตกรอบก่อนหน้านี้มาได้หรอก
แต่ผลงานในเกมเมื่อวันพุธถือเป็นการกลับมาอย่างยอดเยี่ยม แถมยังเป็นเกมสำคัญที่ทั้งชนะ ได้อะเวย์โกล แถมไม่เสียประตูอีกต่างหาก
แม้ฟอร์มการเลานจะไม่ได้ดีอะไรมากมาย แต่ใครจะสนล่ะ ขอให้ได้ชัยชนะเท่านั้นแหละเป็นพอ
การหายไปของ แซร์โจ้ โอลิเวยร่า กระทบต่อ ปอร์โต้
ถ้าจะบอกว่าใครคือแข้งที่โดดเด่นที่สุดของ ปอร์โต้ ในซีซั่นหน้า ชื่อของ แซร์โจ้ โอลิเวยร่า จะต้องติดอยู่ในอันดับต้นๆอย่างไม่ต้องสงสัย
19 ประตูกับ 7 แอสซิสต์ในซีซั่นนี้ต้องบอกว่าสุดยอด โดยเฉพาะในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกปีนี้ที่เจ้าตัวกดไปถึง 5 ลูกจาก 7 เกมก่อนหน้านี้ และที่ทีมเข้ารอบมาได้ก็เพราะประตูของเจ้าตัวนั่นแหละที่ทำ 2 ประตูในเกมเยือน ยูเวนตุส จนทำให้ทีมได้อะเวย์ โกลเข้ารอบมาได้
แต่ทว่าใบเหลืองในเกมที่อัลลิอันซ์ สเตเดี้ยมในเกมรอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดที่สอง ส่งผลให้เจ้าตัวต้องติดโทษแบนหนึ่งเกมในนัดนี้ไป
ในเกมกับ "สิงห์บลูส์" ต้องบอกว่าทางฝั่ง ปอร์โต้ ทำเกมบุกใส่ได้มากกว่าและสร้างโอกาสมากมายตลอดทั้งเกม แต่จังหวะจบสกอร์นั้นไม่สามารรถส่งบอลไปสู่ก้นตาข่ายได้
หากมี แซร์โจ้ โอลิเวยร่า อยู่ทีมอาจจะได้ลุ้นมากกว่า หรือไม่ก็อาจจะมีประตูและรูปเกมอาจจะเป็นไปในคนละแบบก็เป็นได้
อีกเกมที่ไม่น่าจำของคู่หูเยอรมัน
ทิโม แวร์เนอร์ และ ไค ฮาแวร์ตซ์ ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในแนวรุกของ เชลซี ในเกมนี้ แต่ก็เป็นอีกครั้งที่คู่หูค่าตัวแพงล้มเหลวกับการโชว์ผลงานออกมา
ทั้งสองคนแทบไม่ได้มีบทบาทอะไรกับเกมเลยตลอดครึ่งแรก จนกระทั่งเกือบครึ่งทางของครึ่งหลัง ทำให้สุดท้ายในนาทีที่ 65 ของเกม โธมัส ทูเคิ่ล ตัดสินใจเปลี่ยนทั้งคู่ออกพร้อมกันแล้วเอาชนะ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ กับ คริสเตียน พูลิซิช ลงมาเล่นแทน
ถึงกระนั้นทางนายใหญ่ชาวเยอรมันยังออกมาปกป้องทั้งคู่ว่าเกมนี้ทีมก็ไม่สามารถตั้งเกมจากแนวลึกได้ดีนัก ทำให้ผู้เล่นในแนวรุกก็ไม่ได้มีโอกาสอะไรมากมายนัก
แต่ในมุมมองของแฟนบอลอย่างน้อยทั้งคู่ก็ควรจะทำได้ดีกว่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคนที่ลงมาเล่นแทนกลับมีส่วนกับเกมมากกว่า
ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่า โธมัส ทูเคิ่ล จะเค้นศักยภาพจากทั้งสองคนออกมาอย่างดีที่สุดได้ยังไง
เบน ชิลเวลล์ กับผลงานอันยอดเยี่ยมถึง โธมัส ทูเคิ่ล
นับตั้งแต่ โธมัส ทูเคิ่ล เข้ามาคุมทีม มาร์กอส อลอนโซ่ เหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้งกับการได้ลงเล่นอยู่เสมอ ในขณะที่ เบน ชิลเวลล์ ที่เล่นตำแหน่งเดียวกันก็หลุดจากทีมในหลายเกม
แต่ในเกมกับ ปอร์โต้ เป็นแบ็กทีมชาติอังกฤษที่ได้รับความไว้วางใจได้ลงสนามก่อน และเจ้าตัวก็ไม่ทำให้ผิดหวังตอบแทนความไว้วางใจของผู้เป็นเจ้านาย
นอกจากฟอร์มในการเล่นเกมรับที่เคลียร์บอล 4 ครั้งและเข้าสกัดอีก 3 หน เข้าตัวยังแสดงให้เห็นถึงเทคนิคในการเติมเกมรุกจนนำมาซึ่งประตูที่สองของทีมในเกมนี้ด้วย
ผลงานในเกมนี้นอกจากจะเพิ่มความมั่นใจให้เจ้าตัวแล้วก็น่าจะเพิ่มโอกาสของตัวเองในทีมชนิดที่ โธมัส ทูเคิ่ล คงไม่สามารถปฏิเสธได้ และอาจจะได้รับโอกาสลงเล่นมากขึ้นกว่าเดิม
เมสัน เมาท์ กับผลงานยอดเยี่ยม (อีกครั้ง)
หนึ่งในนักเตะที่ทำผลงานได้ดีที่สุดนับตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วไม่ว่าจะเป็นการคุมทีมของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด หรือ โธมัส ทูเคิ่ล
แม้ว่าในบางครั้งจะถูกมองว่าต้องแบกภาระของทีมมากจนเกินไป ขนาดเกมที่แล้วที่โดน เวสต์บรอมวิช ไล่ถล่ม 2-5 เจ้าตัวลงเล่นเป็นตัวสำรองยังอุ่ตส่าห์ลงมายิงประตูที่สองให้กับทีมได้
เมสัน เมาท์ ยังคงเดินหน้าทำหน้าที่ของตัวเอง และก็ทำได้อย่างดีเยี่ยม ไม่เสียทีที่เจ้านายให้ความไว้วางใจ ในแต่ละเกมที่ลงสนามเขาคือตัวขับเคลื่อนเกมของทีม ถ้ากองหน้ายิงไม่ได้ เขาก็พร้อมที่จะสอดขึ้นมาทำประตูช่วยทีมแทน
ณ ตอนนี้ต้องยอมรับว่าเขาเป็นนักเตะที่ "ห้ามแตะต้อง" ไปแล้วจากผลงานอันยอดเยี่ยมเหนือเพื่อนร่วมทีม ด้วยเทคนิคและทักษะในการเล่น ช่วยทีมหลายต่อหลายครั้ง
เรียกได้ว่าทีมจะไปได้ไกลแค่ไหนในซีซั่นนี้ขึ้นอยู่กับฟอร์มการเล่นของ เมสัน เมาท์ นี่แหละ
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT