ท้องฟ้าที่ลอนดอนเป็นสีน้ำเงิน!
ถือเป็นการเปิดตัวอันยอดเยี่ยมของ โรเมลู ลูกากู ที่กลับมาค้าแข้งกับทีมอีกครั้งด้วยการทำประตูเบิกร่องก่อนทีมคว้าชัยไปครอง
ต้องบอกว่าเป็นเกมที่ทีมทำผลงานได้ดีทั้งรุกและรับ แม้ว่าทาง โธมัส ทูเคิ่ล จะไม่พอใจผลงานในครึ่งหลังของทีมสักเท่าไร
เป็นอีกเกมที่น่าจดจำสำหรับพลพรรคสีน้ำเงินกับการคว้าชัยสองเกมรวด นั่งเก้าอี้จ่าฝูงของตารางด้วยการยิง 5 ประตูและยังไม่เสียเท่ากับ ลิเวอร์พูล
การจัดทีม
โธมัส ทูเคิ่ล จัดการเปลี่ยนทีม 3 คนจากเกมแรกของฤดูกาล หนึ่งในคนที่ลงสนามแน่นอนว่าคือ โรเมลู ลูกากู ร่วมกับ ไค ฮาแวร์ตซ์ และ รีซ เจมส์ ส่วนคนที่หลุดไปคือ ติโม แวร์เนอร์, เทรเวอห์ ชาโลบาห์ และ คริสเตีย พูลิซิช
เอ็นโกโล่ ก็องเต้ และ ฮาคิม ซิเย็ค กลับมามีชื่อเป็นตัวสำรองหลังหายจากอาการบาดเจ็บ
ส่วนทาง อาร์เซน่อล ไม่มี เบน ไวท์ โดยรายงานเผยว่าติดเชื้อโควิด ส่วน บูกาโย่ ซาก้า ลงเล่นตัวจริงหลังเกมที่แล้วเป็นแค่ตัวสำรอง
เปิดฉากอย่างดุดัน
เริ่มต้นเกมนาทีแรก อาร์เซน่อล ได้โอกาสทักทายจังหวะที่ บูกาโย่ ซาก้า พักบอลเข้าทางปืน เอมิล สมิธ โรว สับไกเข้ากรอบแต่บอลไปตรง เอดูอาร์ เมนดี้
แต่หลังจากนั้นเกมแทบจะเป็นของ เชลซี ที่เดินเกมบุกขึ้นมาเป็นระลอกแถมหลายต่อหลายครั้งได้จบ แม้ว่าสุดท้ายจะยังไม่ได้เข้ากรอบหรือได้ลุ้นมากมาย
กระทั่งนาทีที่ 15 ของเกม "สิงห์บลูส์" ก็มาได้ประตูขึ้นนำเริ่มต้นจาก โรเมลู ลูกากู ที่พักบอลก่อนไหลคืนมาที่ มาเตโอ โควาซิช เปิดเข้าเขตโทษด้านขวา รีซ เจมส์ ได้หลุดเดี่ยวก่อนตบเข้ากลาง ลูกากู ฉีกหนีตัวประกบมาแปจ่อๆเข้าไปเป็น 1-0 ถือเป็นการเปิดตัวที่ประทับใจเหลือเกิน
สกอร์ขัยบหนี 2-0!
หลังจากได้ประตูขึ้นนำโอกาสลุ้นประตูยังแทบจะเป็นของฝั่งผู้มาเยือนข้างเดียว เดี๋ยวซ้าย เดี๋ยวขวา เล่นงานแบ็กทั้งสองฝั่งของ อาร์เซน่อล จนเป๋ไปเป๋มา
กระทั่งนาทีที่ 35 ของเกมสกอร์บอร์ดขยับอีกครั้งของฝั่งสีน้ำเงิน มาร์กอส อลอนโซ่ ลุยขึ้นมาทางซ้ายก่อนไหลเข้ากลาง โรเมลู ลูกากู เก็บบอลไม่ได้แต่ยังมี เมสัน เมาท์ รับช่วงแล้วไหลเข้าเขตโทษด้านขวา รีซ เจมส์ แต่งหนึ่งทีแล้วกดเต็มข้อบอลพุ่งเสียบตาข่ายเสาสองเต็มๆเป็น 2-0
5 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรกมีจังหวะเสียวของเจ้าบ้าน แต่เป็นจุดโทษที่เกือบได้เมื่อ บูกาโย่ ซาก้า ที่โดน รีซ เจมส์ เบียดล้มลงในกรอบ แต่อาจจะดูง่ายไปหน่อยสุดท้ายไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ไม่มีอะไรในครึ่งหลัง
เข้าสู้ครึ่งหลังทาง อาร์เซน่อล พยายามฮึดสู้และมีโอกาสตีไข่แตกทางลูกยิงนอกกรอบของ บูกาโย่ ซาก้า แต่ไม่ผ่านมือของ เอดูอาร์ เมนดี้ เหินปัดออกหลังไปได้
การประสานงานของ เชลซี ยังมีให้เห็นเรื่อง รีซ เจมส์ ไหลบอลให้ โรเมลู ลูกากู ชิ่งต่อมาที่ เมสัน เมาท์ ลองยิงหน้าเขตโทษบอลพึ่งหลุดเสาออกไป
อีกครั้งของฝั่งเจ้าบ้านจากลูกเตะมุม นิโกล่าส์ เปเป้ เปิดลึกไปเสาสอง ปาโบล มารี โหม่งตั้งเข้ากลาง ร็อบ โฮลดิ้ง โหม่งต่อ เอดูอาร์ เมนดี้ ได้แต่มองแล้วแต่บอลหลุดเสาไปอย่างน่าเสียดาย
หนึ่งชั่วโมงของเกม ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมย็อง ถูกส่งลงมาและได้โอกกาสสักไกทันทีแต่บอลเบาและไปตรง เอดูอาร์ เมนดี้
อย่างที่ โธมัส ทูเคิ่ล บอกว่าเกมครึ่งหลังของทีมไม่น่าพอใจนักและควรจะทำได้ดีกว่านี้ แต่สุดท้ายทีมก็ยังรักษาสกอร์ไว้ได้ คว้าชัย 2-0 ชนะสองเกมรวดยิงได้ 5 ลูกและยังไม่เสียประตูเลย
เกมถัดไป
ในสัปดาห์หน้าจะเป็นอีกบททดสอบสำคัญของ เชลซ กับการบุกไปเยือนหนึ่งในทีมแย่งแชมป์อย่าง ลิเวอร์พูล ที่แอนฟิลด์ ซึ่งแน่นอนว่าผลชนะ-แพ้อาจจะมีผลในบั้นปลาย
หลังจากนั้นโปรแกรมฟุตบอลสโมสรจะพักหลีกทางให้ทีมชาติก่อนจะกลับไปเล่นในบ้านอีกครั้งเจอกับ แอสตัน วิลล่า ในวันที่ 11 กันยายน
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT