จักรวาลสีน้ำเงิน
นั่นทำให้พลพรรค "สิงห์บลูส์" ได้แชมป์ครบทุกรายการที่ลงเล่นทั้งพรีเมียร์ลีก, เอฟเ คัพ, ลีก คัพ, คอมมูนิตี้ ชิลด์, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูโรปา ลีก, ยูฟ่า คัพ วินเนอร์ส คัพ, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และล่าสุดกับ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ นี่เอง
หลังจากปาฏิหาริย์ที่มิวนิคที่ทีมเอาชนะ บาเยิร์น มิวนิค คว้าแชมป์ยุโรปสมัยแรกของสโมสรอย่างยิ่งใหญ่ ทีมได้สิทธิ์ไปเล่นรายการสโมสรโลกในปีถัดมา แต่ว่าในครั้งนั้นทีมผิดหวังในรอบชิงชนะเลิศด้วยการแพ้ให้กับ โครินเธียนส์ 0-1
มาครั้งนี้กับความมุ่งมั่นที่มากกว่าเดิม เตรียมพร้อมมากกว่าเดิม เรียนรู้จากความผิดพลาดจากครั้งที่แล้ว แม้ว่าจะต้องออกแรงเหนื่อยจนถึงช่วงต่อเวลาพิเศษ แต่สุดท้ายก็บรรลุเป้าหมายได้สำเร็จ
นั่นทำให้ เชลซี อยู่ในทำเนียบร่วมกับ บาเยิร์น มิวนิค และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เคยได้แชมป์ครบทุกใบ โดยเป็นทีมที่ 11 ของทัวร์นาเม้นต์นี้และเป็นทีมที่ 3 ของอังกฤษที่เคยได้แชมป์รายการนี้ต่อจาก "ปีศาจแดง" และ ลิเวอร์พูล
หลังสิ้นเสียงนกหวีดคนที่น่าจะแฮปปี้มากที่สุดคงหนีไม่พ้น เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า กัปตันทีมที่อยู่กับสโมสรมายาวนานนับตั้งแต่ปี 2012 ซึ่งจะครบ 10 ปีในปีนี้พอดิบพอดีถึงกับขุกเข่าลงไปกับพื้นพร้อมเฮอย่างสุดเสียง
ตลอดเส้นทางอาชีพในรั้วสแตมฟอร์ด บริดจ์แข้งชาวสเปนเดินหน้ากวาดแชมป์มาแล้วทุกรายการกับทีม และอยู่ในทีมชุดเมื่อปี 2012 ที่พ่ายแพ้ให้กับ โครินเธียนส์ ด้วย ไม่แปลกที่เมื่อจบเกมนี้แล้วทีมชนะเจ้าตัวจะดีใจอย่างมาก เรียกได้ว่าดีใจกว่าใครด้วยซ้ำ
แถมจังหวะจุดโทษยังใช้ความ "เก๋า" ถือว่าเหมือนจะยิงเองทำให้นักเตะ พัลเมรัส เข้ามาเล่นสงครามจิตวยาก่อนที่เอาบอลให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ ที่ไม่โดนรบกวนมายิงหน้าตาเฉยกันไปเลย
อีกคนที่ดีใจสุดๆก็คือ ติอาโก้ ซิลวา ปราการหลังตัวเก๋าที่ได้แชมป์รายการนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตเช่นกันหลังจากที่ได้เป็นจ้าวยุโรปหนแรกเมื่อปีที่แล้ว นับเป็นการตัดสินใจที่ไม่ผิดจริงๆที่ย้ายมาค้าแข้งกับ "สิงโตแห่งกรุงลอนดอน"
นอกจากนี้กองหลังชาวบราซิลยังได้รับเลือกให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเม้นต์อีกด้วย
ในขณะที่ โธมัส ทูเคิ่ล นายใหญ่ของทีมได้ฉลองโทรฟี่ที่ 3 ของตัวเองนับตั้งแต่มาคุม เชลซี โดยไช้เวลาเพียงแค่ปีเศษ และรายการที่ได้ก็เป็นรายการระดับทวีปและระดับโลกไปเลย
ตอนนี้ก็เหลือแค่ในระดับประเทศที่ปัจจุบันอยู่ในรอบชิงชนะเลิศคาราบาว คัพ ส่วน ในเอฟเอ คัพก็อยู่ในรอบ 5 ของการแข่งขันแล้ว ขณะที่ในพรีเมียร์ลีกอาจจะต้องไปเริ่มกันใหม่ในปีหน้า
แต่ในภาพรวมก็ต้องบอกว่าประสบความสำเร็จอย่างงดงาม และแฟนบอลก็แฮปปี้กันอย่างมาก
ที่ลืมไม่ได้เลย โรมัน อบราโมวิช ผู้อยู่เบื้องหลังทุกความสำเร็จของ เชลซี นับตั้งเข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรเมื่อปี 2003
ในประวัติศาสตร์สโมสรนับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรทีมคว้าโทรฟี่ไปทั้งหมด 36 ใบมีถึง 21 ใบที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่ "เสี่ยหมี" เดินเข้ามาสู่รั้วสแตมฟอร์ด บริดจ์
แม้หลายครั้งจะโดนค่อนขอดว่าใช้เงินซื้อความสำเร็จ หรือจะการเปลี่ยนกุนซือเป็นว่าเล่น แต่เม็ดเงินหลายพันล้านปอนด์ที่นำมาสู่สโมสรสร้างความสุขและรอยยิ้มให้กับแฟนบอลมากกว่าเสียงตำหนิ
นี่คือบุคคลสำคัญที่สุดของ เชลซี ในยุคปัจจุบัน รอยยิ้มบนใบหน้าหลังทีมได้แชมป์เห็นแล้วต้องยิ้มตามอย่างแน่นอน
ในเวลานี้แฟนบอล เชลซี น่าจะเป็นแฟนบอลที่มีความสุขที่สุดในโลก ทุกคนร้องเพลงของสโมสรอย่างกึกก้อง
"เราจะครองจักรวาลนี้ เพราะพวกเราคือเชลซี, เชลซี, เชลซี!
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT