:::     :::

ประตูที่เร็วที่สุดของ เชลซี ซีซั่นนี้

วันจันทร์ที่ 14 มีนาคม 2565 คอลัมน์ สิงห์สนามจริง โดย ยักษ์เดนส์
877
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ชัยชนะเหนือ นิวคาสเซิ่ล 1-0 ในเกมล่าสุดเป็นอีกครั้งที่แฟนบอล เชลซี ต้องลุ้นกับแบบหายใจไม่ทั่วท้องกว่าทีมจะคว้าสามแต้มครองได้สำเร็จ

         ประตูชัยของ ไค ฮาแวร์ตซ์ ต้องรอเกือบถึงนาทีสุดท้าย แม้ว่าเกือบตลอดทั้งเกมทีมครองบอลเหนือกว่าชัดเจนแต่จังหวะเข้าทำขาดความเด็ดขาดไปเอง

         ในเกมก่อนหน้านี้ที่บุกชนะ นอริช ซิตี้ 3-1 ทีมก็ต้องรอถึงนาทีสุดท้ายกว่าจะหายใจหายคอคล่องขึ้นจากประตูของ ไค ฮาแวร์ตซ์ คนเดิม หลังจากที่โดนไล่มาเป็น 1-2 ในช่วง 20 นาทีสุดท้ายของเกม


         หรืออย่างในเกมที่บุกชนะ คริสตัล พาเลซ ก็ตเองรอถึงนาทีที่ 89 กว่าจะได้ประตูชัยจาก ฮาคิม ซิเย็ค เรียกได้ว่าปีนี้มีหลายต่อหลายเกมเลยที่ทีมต้องลุ้นเหนื่อยกว่าจะเก็บชัยชนะในเกมนี้ เช่นเดียวกับเกมเอฟเอ คัพกับทีมจากลีก วันอย่าง พลีมัธ ที่ทีมต้องสู้จนถึงช่วงต่อเวลาพิเศษกว่าจะชนะได้ แถมยังโดนนำไปก่อนด้วย เท่านั้นไม่พอช่วงท้ายทีมเยือนได้จุดโทษด้วยแต่ยิงไม่เข้า

         ดูแล้วช่วงที่เหลือของฤดูกาลนี้คงเป็นอะไรที่เหนื่อยสำหรับ โธมัส ทูเคิ่ล ในการพาทีมไปถึงฝั่งฝันให้ได้ทั้งในบอลถ้วยอย่างยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และ เอฟเอ คัพ รวมถึงในพรีเมียร์ลีกที่ก็ยังต้องเต็มที่ต่อไป

         แต่ประตูที่ทีมทำได้อย่างรวดเร็วก็มีเหมือนกัน โดยมี 8 ลูกที่เกิดขึ้นในช่วง 10 นาทีแรกของเกม และ 5 ลูกต่อไปนี้คือประตูที่เร็วที่สุดที่ทีมทำได้ในซีซั่นนี้

7.02 - เมสัน เมาท์ พบ นอริช ซิตี้


         ย้อนกลับไปในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ถือเป็นเกมที่ เชลซี คว้าชัยชนะด้วยสกอร์ที่มากที่สุดในซีซั่นนี้ โดยไล่ถล่ม นอริช ซิตี้ 7-0

         ประตูแรกของเกมนี้เกิดในนาทีที่ 7 เลยมานิดหน่อยจังหวะที่ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย เปิดบอลจากทางซ้ายเข้าเขตโทษโดนโหม่งสกัดออกมา จอร์จินโญ่ เก็บได้ตรงหัวกะโหลกก่อนไหลให้ เมสัน เมาท์ กดด้วยขวาตรงหน้าเขตโทษบอลพุ่งเสียบเสาอย่างเด็ดขาด

         บทสรุปเกมนี้ เมาท์ ซัดแฮตทริคให้กับ "สิงห์บลูส์" ส่วนอีก 4 ลูกมาจาก ฮัดสัน-โอดอยม รีซ เจมส์, เบน ชิลเวลล์ และ แม็กซ์ อารอนส์ ทำเข้าประตูตัวเอง

5.08 - ติโม แวร์เนอร์ เจอ เชสเตอร์ฟิลด์


         เกมเอฟเอ คัพรอบ 3 กับการเจอ เชสเตอร์ฟิลด์ สโมสรรองบ่อนจากบลูสแควร์ พรีเมียร์ซึ่งเกมนี้ โธมัส ทูเคิ่ล ขนตัวหลักลงเล่นเพียบโดยเฉพาะในแนวรุกที่มีทั้ง โรเมลู ลูกากู, ติโม แวร์เนอร์, คริสเตียน พูลิซิช, ฮาคิม ซิเย็ค และ คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย

         ด้วยศักยภาพที่เหนือกว่าเยอะอยู่แล้วของเจ้าบ้านก็เดินหน้าไล่ทุบตั้งแต่เริ่มเกมและก็มาสอยตาข่ายตั้งแต่ 5 นาทีแรก จังหวะที่ มาเตโอ โควาซิช แทงบอลเข้าเขตโทษด้านขวาให้ ฮาคิม ซิเย็ค ที่อยู่คนเดียวยิงติดเซฟบอลปลิ้นมาแฉลบแนวรับผู้มาเยือนก่อนเข้าทาง ติโม แวร์เนอร์ ที่ยืนโล่งๆหน้าประตูยิงง่ายๆเข้าไป

         เกมนี้ทีมรัวตาข่ายผู้มาเยือน 4-0 ตั้งแต่ครึ่งแรก ก่อนจบเกมที่สกอร์ 5-1 โดยปัจจุบันทีมอยู่ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย โดยจะพบกับ มิดเดิ้ลสโบรช์ ในวันวันเสาร์หน้า

4.18 - ไค ฮาแวร์ตซ์ เจอ สเปอร์ส


         เกมรอบรองชนะเลิศนักแรกของศึกคาราบาว คัพที่สแตมฟอร์ด บริดจ์กับการเจอ สเปอร์ส คู่ปรับร่วมกรุงลอนดอน

          แค่ไม่ถึง 5 นาที เชลซี ก็ได้ประตูออกนำ มาร์กอส อลอนโซ่ ฉกบอลตัดหน้า เอแมร์ซอน ทางซ้ายแล้วกระชากขึ้นมาก่อนไหลเข้าเขตโทษให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ สอดมาตวัดยิงด้วยซ้าย ดาวินซอน ซานเชซ ลงมาพยายามช่วยสกัดแต่ก็ไม่อยู่บอลปลิ้นเข้าประตูไป

         สุดท้ายเกมนี้ทีมชนะ 2-0 โดยได้อีกประตูจากการทำเข้าประตูตัวเองของ เบน เดวีส ส่วนเกมเลกที่สอง เชลซี ก็ชนะอีก 1-0 รวมผลสองเกมชนะ 3-0 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศแต่ไปแพ้ ลิเวอร์พูล ในการดวลจุดโทษชวดแชมป์ไป

2.31 - เทรโวห์ ชาโลบาห์ เจอ นอริช ซิตี้


         เพิ่งผ่านมาสดๆร้อนๆเมื่อกลางสัปดาห์ที่แล้วที่แคร์โรว์ โร้ด และเกมนี้ทีมก็เริ่มต้นได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว

         จากลูกเตะมุมทางซ้าย เมสัน เมาท์ เปิดมาที่เสาแรก เทรโวห์ ชาโลบาห์ ขึ้นโหม่งส่งบอลตุงตาข่าย ก่อนที่ทีมจะคว้าชัย 3-1 โดยได้อีกสองลูกจาก เมาท์ และ ไค ฮาแวร์ตส์ ส่วนเจ้าบ้านตีไข่แตกจาก ตีมู ปุ๊กกี้ จากจุดโทษ

         ถือเป็นการกลับมาทำประตูได้อีกครั้งของแข้งชาวอังกฤษหลังจากที่เปิดตัวพังตาข่ายตั้งแต่นัดแรกของฤดูกาลและอีกลูกเมื่อเดือนตุลาคม ซึ่งถือเป็นประตูแรกในพรีเมียร์ลีกรอบ 5 เดือนเลย

1.22 - ติโม แวร์เนอร์ เจอ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก


         ย้อนกลับไปในเกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ทาง เชลซี ต้องกาชัยชนะเพื่อการันตีเป็นแชมป์กลุ่มเหนือ ยูเวนตุส

         แค่เพียงนาทีครึ่งเท่านั้นทีมก็ส่งบอลสู่ก้นตาข่ายสำเร็จจากลูกเตะมุมทางซ้ายที่ รอสส์ บาร์คลี่ย์ เปิดมาเสาแรก อันเดรียส คริสเตนเซ่น โหม่งเช็ดบอลเลยมาเสาสอง ติโม แวร์เนอร์ ยืนอยู่คนเดียวแปจ่อๆหลาเดียวเข้าไป

         อย่างไรก็ตามสุดท้ายบทสรุปเกมนี้จบลงที่ผลเสมอ 3-3 โดยที่ เชลซี โดนตีเสมอในช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้ายเลย ทำให้ทีนหล่นเป็นรองแชมป์กลุ่มไป


คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด