:::     :::

Third Time Lucky ของ เชลซี

วันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม 2565 คอลัมน์ สิงห์สนามจริง โดย ยักษ์เดนส์
986
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
อีกครั้งสำหรับ เชลซี กับการได้เข้าไปเล่นในเกมชิงฟุตบอลถ้วยที่เวมบลีย์ที่แฟนบอลได้เห็นกันบ่อยครั้งในช่วงหลัง

        เฉพาะปีนี้ก็หนที่สองแล้วหลังจากที่เข้าชิงชนะเลิศคาราบาว คัพซึ่งคู่แข่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ลิเวอร์พูล นี่เอง โดยเกมนั้นจบเกมด้วยการเสมอกันไปก่อนจะต้องดวลจุดโทษถึง 11 คนสุดท้าย เกปา อาร์รีซาบาลาก้า เป็นคนพลาดทำให้ทีมแพ้ไป

         ในรายการเอฟเอ คัพนี้ก็เป็นการเข้าชิงชนะเลิศเป็นปีที่สามติดต่อกันแล้ว ซึ่งสองหนแรกจบลงด้วยความพ่ายแพ้อย่างเจ็บช้ำให้กับ อาร์เซน่อล 1-2 ในปี 2019/20 และเมื่อปีที่แล้วที่แพ้ เลสเตอร์ ซิตี้ 0-1

         แน่นอนว่าในการเข้าชิงถ้วยในปีนี้ทาง "สิงห์บลูส์" หมายมั่นปั้นมือว่าทีมจะชนะจนได้เหมือนกับคำที่ว่า "Third Time Lucky"

         วันนี้ไปเจาะลึกสถิติก่อนที่ทั้งคู่จะเจอกันในวันเสาร์นี้


สถิติเจอกันในเอฟเอ คัพ

1931/32 รอบก่อนรองชนะเลิศ ลิเวอร์พูล 0-2 เชลซี

1961/62 รอบสาม ลิเวอร์พูล 4-3 เชลซี

1964/65 รอบรองชนะเลิศ ลิเวอร์พูล 2-0 เชลซี

1965/66 รอบสาม ลิเวอร์พูล 1-2 เชลซี

1977/78 รอบสาม เชลซี 4-2 ลิเวอร์พูล

1981/82 รอบห้า เชลซี 2-0 ลิเวอร์พูล

1985/86 รอบสี่ เชลซี 1-2 ลิเวอร์พูล

1996/97 รอบสี่ เชลซี ชนะ ลิเวอร์พูล 4-2

2005/06 รอบรองชนะเลิศ ลิเวอร์พูล 2-1 เชลซี 

2011/12 รอบชิงชนะเลิศ เชลซี 2-1 ลิเวอร์พูล

2019/20 รอบห้า เชลซี 2-0 ลิเวอร์พูล


         นี่จะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เอฟเอ คัพที่ผู้จัดการทีมเยอรมันมาเจอกันเอง

         เกมนัดนี้จะเป็นการชิงชนะเลิศรายการนี้ครั้งที่ 16 ของ เชลซี และครั้งที่ 15 ของ ลิเวอร์พูล โดยฝั่ง เชลซี ได้แชมป์ไป 8 ครั้งเทียบกับ ลิเวอร์พูล ที่ได้ไป 7 ครั้ง

         โธมัส ทูเคิ่ล ยังไม่แพ้ใน 4 เกมที่เจอกับ ลิเวอร์พูล (ยกเว้นดวลจุดโทษตัดสิน) นับตั้งแต่มาคุม เชลซี

         ลิเวอร์พูล เก็บคลีนชีตได้เพียง 3 จาก 28 เกมหลังสุดที่เจอกันทุกรายการ

         เชลซี และ ลิเวอร์พูล เป็นคู่ที่สองเท่านั้นในประวัติศาสตร์ที่เข้าชิงรายการคาราบาว คัพ และ เอฟเอ คัพในฤดูกาลเดียวกันต่อจาก อาร์เซน่อล กับ เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ ในปี 1992/93 


ชัยชนะขาดที่สุดระหว่างสองทีม

         เชลซี ชนะ ลิเวอร์พูล 6-1 เกมดิวิชั่น 1 ฤดูกาล 1937/38

         ลิเวอร์พูล ชนะ เชลซี 6-0 เกมดิวิชั่น 1 ฤดูกาล 1934/35

สถิติ เชลซี

         เกมรอบชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพทั้งทีมชายและทีมหญิงเป็นการเผชิญหน้ากับคู่แข่งทีมเดียวกันในฤดูกาลนี้ของรอบชิงชนะเลิศลีก คัพ

         ในเกมบอลถ้วยรอบชิงชนะเลิศ 3 ปีหลังสุดทั้งทีมชายและทีมหญิง เชลซี มีส่วนร่วมทั้งหมด

         เชลซี เป็นทีมที่ประสบความสำเร็จในศึกเอฟเอ คัพ มากที่สุดนับตั้งแต่ขึ้นปี 2000 โดยเข้าชิงไป 11 ครั้ง (รวมปี 2022) และคว้าแชมป์ได้ 6 สมัย


         เชลซี เป็นทีมแรกที่ผ่านเข้าชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ 3 ฤดูกาลติดต่อกัน นับตั้งแต่ที่ อาร์เซนอล ทำเอาไว้ระหว่างซีซั่น 2000/01 ถึง 2002/03

         เชลซี ผ่านเข้าชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ เป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน และเป็นครั้งที่ 5 ในรอบ 6 ฤดูกาลหลังสุด มีแค่ อาร์เซนอล (21) และ แมนฯ ยูไนเต็ด (20) ที่มากกว่า และมีเพียงแค่ 2 สโมสรดังกล่าวนี้ที่คว้าโทรฟี่เอฟเอ คัพมากกว่า เชลซี 

         เชลซี ผ่านเข้าชิงชนะเลิศบอลถ้วย 22 ครั้ง (ไม่นับ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ) จาก 19 ฤดูกาลหลังสุด โดยรวมแล้วทีมผ่านเข้ารอบชิงถ้วยอยู่ที่ 34 ครั้ง

         นี่คือฤดูกาลที่ 6 ติดต่อกันที่ เชลซี ผ่านเข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วยรายการเมเจอร์ ซึ่งถือเป็นสถิติของสโมสร นอกจากนี้ "สิงห์บลูส์" ยังเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษที่ผ่านเข้าชิงชนะเลิศอย่างน้อย 1 จาก 2 รายการบอลถ้วยในประเทศ ได้ 6 ฤดูกาลติดต่อกันด้วย


         หากไม่นับลงเล่น 3 นัดที่เป็นเกมเหย้าของท็อตแน่ม ทาง เชลซี จะลงแข่งขันเป็นครั้งที่ 28 ที่นิว เวมบลีย์ นับตั้งแต่เปิดใช้งานเมื่อปี 2007 ถือเป็นตัวเลขที่มากกว่าสโมสรอื่น 

         เชลซี ไม่สามารถเก็บชัยชนะในการลงแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ 4 ครั้งหลังสุดที่สนามกีฬาแห่งชาติ โดยมีเกมลีก คัพ 2022 กับลิเวอร์พูล, เอฟเอ คัพ 2021 กับเลสเตอร์ ซิตี้, เอฟเอ คัพ 2020 กับอาร์เซนอล และลีก คัพ 2019 กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยหนล่าสุดที่ทีมได้แชมป์ที่เวมบลีย์คือศึกเอฟเอ คัพ 2018 ที่ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 จากจุดโทษของ เอเด็น อาซาร์ ในครึ่งแรก

         เชลซี คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ 8 สมัย โดย 8 กุนซือที่ไม่ซ้ำหน้ากันเลย และ โธมัส ทูเคิ่ล มีลุ้นเป็นคนที่ 9 ของสโมสร

         นี่คือรอบชิงชนะเลิศครั้งที่ 6 ของ โธมัส ทูเคิ่ล นับตั้งแต่รับตำแหน่งคุมทีมเมื่อเดือนมกราคม 2021


         หากได้ลงสนามในเกมนี้ เซซาร์ อัซปิลิเกวต้า จะลงเล่นเกมชิงชนะเลิศเป็นครั้งที่ 13 ให้กับสโมสร ซึ่งมากกว่านักเตะคนอื่นของ เชลซี โดยช่วยให้ทีมได้แชมป์ 6 จาก 12 ครั้ง

         ความพ่ายแพ้ในการดวลจุดโทษตัดสิน 10-11 ให้กับ ลิเวอร์พูล ในคาราบาว คัพ รอบชิงชนะเลิศ ถือเป็นครั้งแรกของพวกเราในฤดูกาลนี้ หลังเคยเอาชนะในการดวลจุดโทษ 3 ครั้งก่อนหน้ากับ บียาร์เรอัล (ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ), แอสตัน วิลล่า และ เซาธ์แฮมป์ตัน (คาราบาว คัพ)

         ฤดูกาลนี้ เชลซี ลงเตะ ยาวถึงช่วงต่อเวลาพิเศษถึง 5 ครั้ง ซึ่งถือเป็นสถิติของสโมสร ทำลายถสิติ 4 ครั้งเกิดขึ้นในฤดูกาล 1997/98 และ 2011/12

เอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ 5 ครั้งหลังสุดของ เชลซี

2011/12 เชลซี 2-1 ลิเวอร์พูล

2016/17 เชลซี 1-2 อาร์เซน่อล

2017/18 เชลซี 1-0 แมนฯ ยูไนเต็ด

2019/20 เชลซี 1-2 อาร์เซน่อล

2020/21 เชลซี 0-1 เลสเตอร์ ซิตี้

ตัวเลขสำคัญ

         อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ลงเล่นเกมที่ 200 ให้กับทีมในเกมเยือน ลีดส์ โดยเขาคือผู้เล่นคนที่ 4 ในทีมชุดปัจจุบันต่อจาก เซซาร์ อัซปิลิเกวต้า, เอ็นโกโล่ ก็องเต้ และ มาร์กอส อลอนโซ่ และเป็นแข้งนอกสหราชอาณาจักรคนที่ 27 ที่ลงเล่นถึงหลักนี้กับทีม


สถิติ ลิเวอร์พูล

ผลงานที่ดีที่สุดในเอฟเอ คัพ

แชมป์ : 1965, 1974, 1989, 1999, 2001, 2006

รองแชมป์ : 1914, 1950, 1971, 1977, 1988, 1996, 2012

         ลิเวอร์พูล ผ่านเข้าชิงชนะเลิศลีก คัพ และ เอฟเอ คัพ ในฤดูกาลเดียวเป็นครั้งที่ 3 ต่อจากกซีซั่น 2001/02 และ 2011/12

         ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ มีโอกาสคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ที่เวมบลีย์เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ฤดูกาล 1991/92 โดยครั้งนั้นทีมชนะ ซันเดอร์แลนด์ ในยุคของ แกรม ซูเนสส์ เป็นกุนซือ

         ลิเวอร์พูล พังตาข่ายในเอฟเอ คัพไป 13 ลูก ถือว่ามากที่สุดในหนึ่งซีซั่นที่พวกเขาทำได้ นับตั้งแต่ปี 2011/12 (18 ลูก) โดยในปีนั้นพวกเขาแพ้ให้กับ เชลซี ในรอบชิงชนะเลิศ

         ลิเวอร์พูล ทำไปแล้ว 142 ประตูจาก 59 เกมทุกรายการในฤดูกาลนี้ ถือเป็นตัวเลขที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรที่พวกเขาทำได้ในซีซั่นเดียว

         "หงส์แดง" แพ้แค่เกมเดียวจาก 31 เกมทุกรายการในปี 2022 (ชนะ 24 เสมอ 6)

สถิติคุมทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยามเจอ เชลซี : ชนะ 6 เสมอ 8 แพ้ 4


ผู้ตัดสินและวีเออาร์

ผู้ตัดสิน : เคร็ก พอว์สัน

วีเออาร์ : พอล เทียร์นี่ย์

         เคร็ก พอว์สัน จะตัดสินเกมที่ เชลซี ลงเล่นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกมที่พวกเขาแพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อเดือนมกราคม



คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด