ซีซั่นแรกอันยอดเยี่ยมของ เทรโวห์ ชาโลบาห์

         แต่จากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ศึกยูโร 2020 ต้องขยับมาเล่นกลางปี 2021 และนักเตะที่ติดทีมยังไม่พร้อมสำหรับการลงเล่นให้กับทีม ก็เป็นโอกาสของกองหลังชาวอังกฤษที่จะได้พิสูจน์ฝีเท้า

         แน่นอนว่าเขาทุ่มเทเต็มสูบและคว้ามันเอาไว้ด้วยทั้งสองมือและสองเท้าจนสร้างความประทับใจให้กับ โธมัส ทูเคิ่ล รวมถึงแฟนบอลอย่างล้นหลาม

ออกสตาร์ทเหมือนฝัน

         เทรโวห์ ชาโลบาห์ คงไม่ได้คาดหวังว่าการออกสตาร์มฤดูกาลแรกกับทีมชุดใหญ่กับ เชลซี จะเริ่้มต้นได้อย่างยอดเยี่ยม เปิดฉากด้วยการเป็นคนสำคัญในการช่วยทีมคว้าโทรฟี่ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพมาครองด้วยการชนะ บียาร์เรอัล ด้วยการดวลจุดโทษ ซึ่งเจ้าตัวอยู่ในสนามเต็ม 120 นาที

         และในอีก 3 วันให้หลังจากการชูถ้วยแชมป์ แข้งชาวอังกฤษก็ลงเล่นเป็นตัวจริงในพรีเมียร์ลีกครั้งแรกให้กับสโมสรเจอกับ คริสตัล พาเลซ พร้อมกับทำประตูแรกของตัวเองและเป็นประตูที่สามให้ทีมคว้าชัย 3-0 

         ประตูในเกมนี้ทำให้ ชาโลบาห์ เป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์เป็นอันดับ 2 ของ เชลซี ที่ลงเล่นเกมแรกในพรีเมียร์ลีกให้กับทีมและทำประตูได้ในวัย 22 ปีกับ 40 วันต่อจาก พอล ฮิวจ์ส (20 ปี 274 วัน) เมื่อเดือนมกราคม 1997 เลย

         ถือเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำเหลือเกินสำหรับกองหลังรายนี้ แถมประตูที่ทำได้ในเกมนี้ยังถูกส่งเข้าประกวดประตูยอดเยี่ยมของสโมสรอีกด้วย และชัดเจนว่ามันมีความหมายกับเขามากแค่ไหนเมื่อบอลสู่ก้นตาข่ายและเขาคุกเข่าลงทั้งนำตาในขณะที่เพื่อนร่วมทีมเข้ามาแสดงความยินดี

ประตูในบ้าน

         หลังจากเปิดตัวอย่างสวยหรูในสองเกมใหญ่ถัดมาที่ทีมบุกไปเยือน อาร์เซน่อล (ชนะ 2-0) และเยือน ลิเวอร์พูล (เสมอ 1-1) ทาง ชาโลบาห์ ได้ลงเล่นเพียง 2 นาทีจากการลงสนามเป็นตัวสำรองช่วงท้ายที่แอนฟิลด์

         ต่อจากนั้นเจ้าตัวกลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้งและอยู่ในสนามครบ 90 นาทีในเกมเปิดบ้านชนะ แอสตัน วิลล่า 3-0 และก็เป็นแค่สำรองอีกครั้งในสองเกมถัดมาที่ทีมเจอ สเปอร์ส (เยือน, ชนะ 3-0) และ แมนฯ ซิตี้ (เหย้า, แพ้ 0-1)

         ชาโลบาห์ กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้งในเกมพรีเมียร์ลีกที่ทีมเปิดบ้านเจอกับ เซาธ์แฮมป์ตัน หลังจากที่ได้ลงเป็นสำรองในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกที่ทีมบุกไปแพ้ ยูเวนตุส 0-1

         และเกมกับทีม "นักบูญ" เจ้าตัวก็พังประตูแรกในสแตมฟอร์ด บริดจ์ได้สำเร็จ ช่วยให้ทีมคว้าชัย 3-1 และจากนั้นก็อีกหนึ่งประตูในเกมยุโรปกับ ยูเวนตุส ที่คราวนี้ได้ลงเล่นเต็ม 90 นาทีช่วยทีมคว้าชัยสวยงามที่สกอร์ 4-0

         ในขณะที่เพื่อนร่วมทีมเจอกับปัญหาบาดเจ็บรวมถึงโดนเล่นงานจากไวรัสโควิด-19 ทาง ชาโลบาห์ ยังคงอยู่ในทีมเสมอ แม้ว่าในภาพรวมผลงานของทีมจะแผ่วลงไปในช่วงหน้าหนาวจนเสียตำแหน่งจ่าฝูงไป

ครึ่งซีซั่นหลังที่หลากหลาย

         อย่างไรก็ตามอาการบาดเจ็บก็มาเยือนจนได้ในช่วงต้นปี ทำให้ความฟิตไม่เต็มที่นักและในเกมชิงแชมป์สโมสรโลกเจ้าตัวก็ได้แค่นั่งดูเพื่อนเล่นข้างสนาม แต่ก็ยังได้ชูถ้วยแชมป์อยู่

         แต่หลังจากกลับมาจากทัวร์นาเม้นต์ที่อาบู ดาบี, ชาโลบาห์ ก็กลับมาฟิตเต็มที่อีกครั้งแม้ว่าจะลงเล่นบ้าง เป็นสำรองบ้าง แต่ 6 เกมที่ลงเล่นนับตั้งแต่เดือนมีนาคมทีมไม่แพ้เลย โดยชนะ 5 เสมอ 1 และหากนับ 20 เกมที่ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกของ ชาโลบาห์ นั่นทีมไม่แพ้เลย โดยชนะ 13 เสมอ 7 แม้ว่าส่วนใหญ่จะเป็นการเจอกับทีมที่เป็นรองก็ตาม แต่ก็พอมีเกมใหญ่อย่างการเล่นในบ้านเจอกับ แมนฯ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล 

         ในขณะที่ในบอลถ้วยอย่าง คาราบาว คัพ เจ้าตัวคือตัวหลักแม้จะเจอกับอาการบาดเจ็บและไม่ได้ลงเล่นในสองเกมรอบตัดเชือกกับ สเปอร์ส แต่ก่อนหน้านี้ 3 รอบก็อยู่ในสนามเต็ม 90 นาทีตลอด และก็อยู่ในทีมจนจบเกมจนถึงช่วงต่อเวลากับ ลิเวอร์พูล ในรอบชิงชนะเลิศ น่าเสียดายที่ดวลจุดโทษแพ้ไป

         เช่นเดียวกับในเอฟเอ คัพที่ลงเล่นรอบชิงชนะเลิศ 106 นาที และทีมแพ้ในการดวลเป้าไปอีกครั้ง

ฤดูกาลกาลใหม่ที่รออยู่

         กับซีซั่นหน้าเมื่อทีมเสีย อันโตนิโอ รือดิเกอร์ ไป ส่วน อันเดรียส คริสเตนเซ่น ก็คงเก็บกระเป๋าตามไป ส่วน เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ก็อยู่ในความไม่แน่นอน ขณะที่ ติอาโก้ ซิลวา ก็อายุ 37 ปีแล้วคงไม่อาจจะยืนระยะได้ตลอดทั้งซีซั่น

         การขึ้นมาของ เทรโวห์ ชาโลบาห์ ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเพิ่มตัวเลือกให้กับ โธมัส ทูเคิ่ล ได้อย่างไม่ต้องสงสัย และเจ้าตัวก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วจากผลงานในปีที่ผ่านมา

         ด้วยระบบการยืนแบบ 3 เซนเตอร์ เชื่อว่ายังไงปีหน้าด้วยประสบการณ์ที่เพิ่มมากขึ้น กระดูกที่แข็งยิ่งกว่าเดิม ชื่อของ เทรโวห์ ชาโลบาห์ จะเป็นกำลังหลักของทีมอย่างไม่ต้องสงสัย