มาร์ก กูกูเรย่า กับเส้นทางสู่เดอะ บริดจ์

         และด้วยความที่ทีมมี เบน ชิลเวลล์ ที่จองตำแหน่งทางซ้ายอยู่ บวกกับค่าตัวที่สูงถึง 63 ล้านปอนด์ ทำให้เกิดขึ้นสงสัยว่าซื้อมาทำไม รวมถึงค่าตัวแพงเกินไปรึเปล่า แต่อีกมุมนึงมีตัวเจ๋งๆหลายคนในตำแหน่งเดียวกันก็ถือเป็นเรื่องดีๆ

         หลังลงประเดิมเกมในบ้านให้ เชลซี ครั้งแรก เมื่อวันอาทิตย์ ช่วยเติมเต็มคำทำนายที่บอกว่าวันหนึ่งเขาจะเรียกสแตมฟอร์ด บริดจ์ว่าบ้าน

         หลังเป็นตัวสำรองในเกมกับ เอฟเวอร์ตัน แข้งชาวสเปนลงเล่นแรกในรังศึกลอนดอน ดาร์บี้ กับ ท็อตแน่ม ได้น่าประทับใจโดยทำแอสซิสต์ให้ทีมขึ้นนำ และมีส่วนกับเหตุการณ์ดุเดือดในช่วงท้ายเกม

         นี่ไม่ใช่การลงเล่นครั้งแรกของเขาที่ เดอะ บริดจ์ เพราะเมื่อฤดูกาลที่แล้ว เจ้าตัวเคยมาเล่นที่นี่ในฐานะนักเตะ ไบรท์ตัน อย่างไรก็ตามนับเป็นเกมแรกของเจ้าตัวในสีเสื้อ "สิงโตน้ำเงินคราม" ซึ่งความรู้สึกของเขายิ่งพิเศษมากขึ้น จากบทสนทนากับภรรยาที่เคยพูดคุยกันในขณะขับรถอยู่บนถนนที่ฟูแล่มเมื่อปีที่แล้ว

         "ผมจำได้ว่าไปลอนดอนกับครอบครัวและในระหว่างทางกลับไป ไบรท์ตัน ผมขับรถอยู่ด้านหน้าของ สแตมฟอร์ด บริดจ์" มาร์ก เผยถึงเรื่องราวของตัวเอง

         "ผมบอกกับภรรยาไปว่า 'ลองนึกภาพวันหนึ่งลงเล่นที่ในสนามนี้สิ' และในซัมเมอร์นี้โอกาสก็เข้ามา เป็นความฝันของผมเลย ที่ได้ลงเล่นให้สโมสรใหญ่"

         แข้งชาวสเปนบรรลุข้อตกลงในการย้ายจาก "นกนางนวล" เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา โดยที่เจ้าตัวยอมรับว่าในวันแรกๆที่ย้ายมา เชลซี นั้นเจ้าตัวรู้สึกวิตกอยู่เล็กน้อย โดยเฉพาะกับการเดินเข้าไปยังห้องแต่งตัวของทีมที่เต็มไปด้วยนักเตะระดับแชมป์และแข้งชื่อดัง

         อย่างไรก็ตามเขามองว่าความเป็นหนึ่งเดียวของทีมและความเป็นกันเองช่วยทำให้ปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะความช่วยเหลือที่จากเพื่อนร่วมชาติและเป็นกัปตันของสโมสรอย่าง เซซาร์ อัซปิลิเกวต้า

         "แน่นอนอยู่แล้วว่าคุณต้องประหม่าเพราะทุกคนล้วนเป็นแข้งระดับบิ๊กแนมที่เคยได้แชมป์แชมเปี้ยนส์ ลีก รวมถึงแชมป์โลก เป็นนักเตะคนสำคัญ ทีมมีความเป็นหนึ่งเดียวและบรรยากาศดีมาก นักเตะทุกคนล้วนมีความสุขที่นี่"

         "ผมรู้ว่าผมได้ย้ายมาอยู่กับสโมสรใหญ่ แต่พวกเขาก็เป็นคนธรรมดานี่แหละซึ่งมันดีอย่างมาก หลังจากนั้นผมก็ชื่นชอบเลยเพราะคุณภาพของเพื่อนร่วมทีมนั้นสูงมาก การฝึกซ้อมก็ยอดเยี่ยมและในเกมทุกคนก็ช่วยกันวิ่งการแข่งขัน ดังนั้นถ้าผมเล่นพลาดทุกกคนก็พร้อมจะช่วย"

         "นี่เป็นเรื่องดี เพราะเมื่อมีเพื่อนร่วมทีมคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน นี่คือทีมที่จะเป็นแชมป์"

         "อัซปิลิเกวต้า ช่วยผมเยอะมากเพราะเขาพูดภาษาสเปนได้ เขาช่วยทั้งเรื่องบ้าน เรื่องโรงเรียน และเรื่องลูกๆ มันดีกับผมมากเลยที่กัปตันเป็นคนสแปนิชและเขาช่วยเหลือผม เขาเป็นตำนานที่นี่ อยู่ค้าแข้งกับสโมสรยิ่งใหญ่แห่งนี้มายาวนาน ลงเล่นทุกเกม กังนั้นเขาเป็นนักเตะคนสำคัญ"

         นอกจากนี้ กูกูเรย่า ยังรู้สึกถึงการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากเพื่อนร่วมทีมในแนวรับเหมือนกัน นอกจากนี้เจ้าตัวยังรู้สึกทึ่งเมื่อได้เจอกับ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ หลังจากที่ได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับความถ่อมตัวของดาวเตะรายนี้มา

         "ผมชอบสไตล์การเล่นของรีซ เจมส์ มากๆ เขาเป็นนักเตะที่เก่งและลงเล่นในตำแหน่งแบ็กขวาด้วย เป็นตำแหน่งที่คล้ายกันกับผมเพียงแต่อยู่คนละฝั่งเท่านั้น"

         "เรื่องที่ผมสงสัยมากที่สุดก่อนย้ายมาที่นี่ก็คือ ก็องเต้ เพราะผมเห็นข่าวมามากว่าเขาเป็นคนเงียบๆและเติดดินมากๆ ผมคิดว่านี่คือเรื่องจริงและผมแฮปปี้มากที่ได้มาอยู่ทีมเดียวกับเขา"

         หนึ่งในเพื่อนร่วมทีมที่เป็นคู่แข่งแย่งตำแหน่งโดยตรงคือ เบน ชิลเวลล์ ที่ยังอยู่ในช่วงฟื้นฟูสภาพร่างกายหลังบาดเจ็บที่หัวเข่าไปนาน โดยล่าสุดเพิ่งจะลงเต็มเวลา 90 นาทีกับทีมรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมาซึ่ง กูกูเรย่า มีแต่คำพูดดีถึงแข้งทีมชาติอังกฤษและเชื่อมั่นว่าทั้งตัวเขาและ ชิลเวลล์ จะช่วยผลักดันซึ่งกันและกันเพื่อยกระดับฝีเท้าขึ้นมาได้

         "เขาช่วยผมเยอะมากในวันแรก เขาเป็นคนที่ดีมากๆและการแข่งขันมันก็ดี กับสโมสรใหญ่แบบนี้ คุณต้องเจอการแข่งขันอยู่เสมอ และเพื่อนตำแหน่งเดียวกันก็อยู่ในระดับสูง"

         "หากพวกเขาเล่นได้ดี พวกเขาก็จะมั่นใจในการทำงานหนักและฝึกซ้อมหนักมากขึ้น ถ้าเราอยู่แค่ตัวคนเดียว บางทีคุณอาจจะคิดว่าคุณไม่ต้องซ้อมให้ดีก็ได้ มันไม่เป็นปัญหาเลย เพราะยังไงคุณก็ได้เล่นอยู่แล้ว"

         "แต่เมื่อมีการแข่งขันเกิดขึ้น มันดีสำหรับผม สำหรับตัวเขา และทีม เรามีนักเตะสองคนลงเล่นในตำแหน่งเดียวกัน และใครก็ตามที่ทำได้ดีกว่า ก็จะได้เป็นตัวจริง"

         วิงแบ็กถือเป็นตำแหน่งโปรดของ ชิลเวลล์ อาจไม่ใช่บทบาทเดียวที่ กูกูเรย่า ถูกใช้งานโดย โธมัส ทูเคิ่ล เพราะอันที่จริงแล้วการลงสนาม 9 จาก 35 นัดในพรีเมียร์ ลีก ตอนอยู่ ไบรท์ตัน เกิดขึ้นในตำแหน่งเซนเตอร์ทางฝั่งซ้ายในระบบสามกองหลังซึ่งเป็นระบบที่เชลซีใช้อยู่บ่อยๆ

         นี่คือตำแหน่งที่เขาไม่ถนัดมากนักก่อนย้ายมาเล่นที่อังกฤษ แต่เป็นหนึ่งในบทบาทที่เจ้าตัวชื่นชอบหลังได้ลงทำหน้าที่ครั้งแรกโดยเผชิญหน้ากับ “สิงห์บลูส์” ของ ทูเคิ่ล ที่เดอะ บริดจ์เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว

         "ผมไม่เคยนึกภาพการลงเล่นทางฝั่งซ้ายของเซนเตอร์แบ็ก แต่ผมจำได้ว่าเกมแรกที่ลงเล่นตำแหน่งนี้คือการเจอกับ เชลซี ที่สแตมฟอร์ด บริด ผมเห็นรายชื่อและผมก็กลัวมากที่ต้องเจอกับ [โรเมลู] ลูกากู เพราะผมคิดว่านั่นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้สำหรับผม!"

         "ผมไม่รู้ว่าทำไมเหมมือนกันแต่ผมเล่นได้ดีมาก บางทีอาจเป็นเพราะผมชอบสไตล์ของทีมและเพื่อนร่วมทีม ซึ่งมันช่วยผมเยอะมาก มันเป็นครั้งโอกาสใหญ่และเป็นตำแหน่งใหม่สำหรับผม ผมลงเล่นตรงจุดนั้นเยอะมาก ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องที่ดีต่อตัวผมเพราะผมมีโอกาสที่จะได้ลงสนามทุกนัด"

         "คุณต้องมีสมาธิมากขึ้นเมื่อทีมเป็นฝ่ายบุก ต้องคอยสังเกตกองหน้าเพื่อที่จะบีบเกมพวกเขาหรือไม่ปล่อยให้มีการเล่นเกมสวนกลับ ผมชอบมันนะเพราะคุณได้ช่วยทีมในการสร้างเกม และเอาบอลไปให้กับกองหน้า มันเป็นตำแหน่งที่แตกต่าง แต่ผมสนุกกับมัน"