ชัยชนะที่ยากลำบาก
การเสียประตูแรกของเกมไปก่อนหลังผ่านหนึ่งชั่วโมงน่าจะทำให้แฟนบอล "สิงห์บลูส์" ส่ายหัวกันไปตามๆกัน ยังดีที่สองตัวสำรองอย่าง เบน ชิลเวลล์ และ ไค ฮาแวร์ตซ์ มาช่วยทำกันคนละลูกให้ทีมเก็บสามคะแนนแบบฝืดคอ
อย่างที่บอกว่าทีมควรจะเสียประตูให้ลูกยิงของ มักซ์เวล กอร์กเน่ต์ ซึ่งทาง แอนดี้ แมดลี่ย์ ผู้ตัดสินเป่าเป็นประตู แต่มีสัญญาณจากห้องวีเออาร์ สุดท้ายหลังตรวจสอบกลับเป่าว่า จาร์ร็อด โบเว่น ไปทำฟาวล์ใส่ เอดูอาร์ เมนดี้ ซะอย่างนั้น
สุดท้ายก็กลายเป็นประโยชน์ของเจ้าบ้านไป ถือเป็นการกลับมาคว้าชัยชนะอีกครั้งหลังจากที่กลางสัปดาห์ออกไปแพ้พลิกล็อคให้กับ เซาธ์แฮมป์ตัน ชนิดที่ โธมัส ทูเคิ่ล หัวเสียสุดๆ
ถือเป็นการเรียกความมั่นใจก่อนที่จะลงเปิดหัวเกมแรกในเวทียูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกด้วยการบุกไปเยือน ดินาโม ซาเกร็บ ที่โครเอเชีย ไปละกัน
สู้ด้วยสกอร์ที่ตามหลัง
นี่เป็นครั้งที่สองของฤดูกาลที่ เชลซี เสียประตูแรกของเกมไปก่อน แต่ว่ามันจะไม่เหมือนกับการไปเยือน ลีดส์ ยูไนเต็ด ที่เกมนั้นลงเอยด้วยการแพ้ยับ
อันที่จริงแล้วนี่ถือเป็รครั้งแรกในรอบ 13 ปีที่ทีมกลับมาเก็บชัยชนะได้ในบ้านเกมพรีเมียร์ลีกหลังจากที่เสียประตูไปก่อนในครึ่งหลัง ซึ่งหนสุดท้ายต้องย้อนไปในเกมกับ สโต๊ค ซิตี้ เมื่อเดือนมกราคมปี 2009 เลย โดยครั้งนั้น ชูเลียโน่ เบลเล็ตติ กับ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ช่วยกันทำประตูในสองนาทีสุดท้ายให้ทีมแซงชนะไป
ในขณะที่ทีมพอใจกับการคว้าชัยชนะมาครองได้ แน่นอนว่า ทูเคิ่ล เองต้องการให้การปรับปรุงประสิทธิภายของเกมในสัปดาห์ที่กำลังมาถึงทั้งในเวทียูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกและโปรแกรมการแข่งขันที่อัดแน่น นายใหฯ่ชาวเยอรมันต้องการลดความวุ่นวายในแคมป์เพื่อจัดการเกมของทีมให้ดียิ่งขึ้น
ตลอด 6 เกมแรกของซีซั่นนี้ทีมขึ้นนำคู่แข่งแค่เพียง 29 เปอร์เซ็นต์ของเวลาในเกมทั้งหมด (157 จาก 540 นาที) ซึ่งหมายความว่าทีมใช้เวลาส่วนใหญ่ในการสู้เพื่อกลับสู่เกม ในขณะเดียวกับทาง อาร์เซน่อล มีสถิติดีที่สุดที่ 67 เปอร์เซ็นต์ ตามด้วย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีสถิติที่ 52 เปอร์เซ็นต์
พึ่งพาเกมทางขวา
ด้วยการเล่นของ รีซ เจมส์ ทางวิง-แบ็กขวา เชลซี เน้นการบุกทางฝั่งนี้เป็นส่วนใหญ่ในการเจาะเกมรับของ เวสต์แฮม โดยตลอดทั้งเกม 40 เปอร์เซ็นต์ของการโจมตีมาจากด้านนี้โดย คอเนอร์ กัลลาเกอร์ คอยช่วยเพื่อนร่วมอะคาเดมี่
มีเพียงแค่แบ็กทรีของทีมกับ รูเบน ลอฟตัส-ชีค ที่สัมผัสบอลมากกว่า เจมส์ ที่มีตัวเลขที่ 68 ครั้งในเกมนี้ ด้วยความแม่นจำในการผ่านบอลที่ 91 เปอร์เซ็นต์ และเลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งสอง แต่การยิงเข้ารอบในกรอบนี้ของทีมมาจากผู้เล่นที่ลงสนามในฐานะตัวสำรอง นั่นแสดงให้เห็นว่าทีมต้องดิ้นรนอย่างหนักในการเจาะคู่แข่ง
อาร์มานโด้ โบรย่า, ไค ฮาแวร์ตซ์ และ เบน ชิลเวลล์ เป็นสามคนที่ทำให้ ลูคัสซ์ ฟาเบียนกี้ ต้องเจอกับหนัก โดยสองคนหลังสามารถส่งบอลผ่านมือไปได้สำเร็จ
ทั้งสองลูกทีมที่ทำได้เกิดขึ้นหลังจากที่ทั้งสามคนนี้ถูกส่งลงสนามโดยทาง ชิลเวลล์ เป็นกองหลังของ เชลซี คนแรกที่ทั้งทำประตูและแอสซิสนต์จากม้านั่งสำรองในพรีเมียร์ลีก ซึ่งเป็นการบุกทางฝั่งซ้ายของทีม
ในแนวรับเป็นการเปิดตัวที่ไม่เลวเลยสำหรับ เวสลี่ย์ โฟฟาน่า ที่ยืนทางขวาในระแบบสามเซ็นเตอร์ โดยเขาคือคนที่สกัดบอลสำเร็จมากที่สุดในสนาม 3 ครั้ง
ติอาโก้ ซิลวา ทำได้โดดเด่นอีกครั้งด้วยสัมผัสบอล 117 ครั้ง ดวลกลางอากาศชนะ 8 ครั้งและผ่านบอลยาวสำเร็จ 4 ครั้ง และเป็นคนแอสซิสต์ให้ ชิลเวลล์ ทำประตูตีเสมอด้วย
และชัยชนะในเกมนี้ยังทำให้ เดวิด มอยส์ ไม่ชนะในการคุมทีมมาเยือนสแตมฟอร์ด บริดจ์เป็น 18 เกม (เสมอ 7 แพ้ 11) อีกด้วย
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT