:::     :::

หนึ่งแต้มที่ไม่น่าพอใจ

วันศุกร์ที่ 16 กันยายน 2565 คอลัมน์ สิงห์สนามจริง โดย ยักษ์เดนส์
801
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
เชลซี ยังคงต้องรอชัยชนะเกมแรกในเวทียุโรปซีซั่นนี้หลังทำได้แค่เสมอกับ ซัลซ์บวร์ก ในบ้านเกมล่าสุด

         การคุมทีมข้างสนามเกมแรกของ แกรม พ็อตเตอร์ ทำทุกอย่างถูกต้องหมดทั้งเรื่องของการครองบอล โอกาสทำประตู ยิงเข้ากรอบ ทุกอย่างเหนือกว่าหมด เพียงแต่ไม่อาจจะยิงมากกว่าคู่แข่งเท่านั้น

         การครองบอล 72 เปอร์เซ็นต์ และผ่านบอลสำเร็จ 85 เปอร์เซ็นต์จากความพยายาม 679 ครั้ง มากกว่าผู้มาเยือนถึง 3 เท่า 

         สุดสัปดาห์นี้เกมกับ ลิเวอร์พูล ถูกเลื่อนออกไปก่อน น่าจะเป็นโอกาสดีให้ทีมได้ทำความคุ้นเคยกับแนวทางของกุนซือคนใหม่ก่อนทำศึกใหญ่ โดยจะได้พักยาวจนถึงต้นเดือนหน้าเลยเนื่องจากเป็นโปรแกรมทีมชาติพอดีด้วย


ครึ่งแรกที่เหนือกว่าแต่เจาะไม่เข้า

         เกมแรกภายใต้การคุมทีมของ แกรม พ็อตเตอร์ รูปแบบการเล่นอาจจะยังไม่ได้แตกต่างจากสมัยที่ โธมัส ทูเคิ่ล อยู่ในตำแหน่งคือการครองบอล และทีมก็หาโอกาสยิงได้ถึง 4 ครั้งในช่วง 10 นาทีแรก

         รูปแบบของเกมตั้งแต่สิ้นเสียงนกหวีดเริ่มเกม จอร์จินโญ่ ยืนเป็นมิดฟิลด์ตัวต่ำคอยเก็บบอลหน้าแผงหลังโดยมี มาร์ก กูกูเรย่า, ติอาโก้ ซิลวา และ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า อยู่ตรงแผงหลัง

         แม้จะครองบอลได้มากกว่าอย่างชัดเจนแต่ "สิงห์บลูส์" ก็ไม่สามารถยิงเข้ากรอบได้เลยตลอด 45 นาทีแรกของเกม


พังประตูจนได้

         หลังจาก 3 นาทีแรกของครึ่งหลัง เชลซี ก็มามาพังประตูได้จากความพยายามครั้งแรกจากผลงานของ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ที่ยิงลูกแรกในเวทียุโรปให้กับสโมสร จากการทำงานทางขวาของ รีซ เจมส์ และ เมสัน เมาท์ ทางขวา

         ถือเป็นผลตอบแทนอันยอดเยี่ยมหลังที่ทีมสู้กันอย่างหนักในครึ่งแรกแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ ซึ่งประตูนี้ยังนับเป็นการมีส่วนร่วมกับประตูของเจ้าตัวลูกที่ 250 ในอาชีพด้วย (158 ประตูกับ 92 แอสซิสต์)

         อย่างไรก็ตามปฏิกิริยาตอบโต้ของฝั่งทีมเยือนไม่ได้ตื่นตระหนักและเล่นตามเกมของตัวเองแม้ว่าเกมจะยังเป็นของ เชลซี ไม่เปลี่ยน แต่พวกเขาก็ยังเล่นอย่างมีระเบียบ

         และสุดท้ายเมื่อโอกาสที่มากมายแต่ไม่สามารถส่งบอลสู่ก้นตาข่ายได้ก็มาโดนตีเสมอจาก โนอาห์ โอคาฟอร์ 


ราฮีม สเตอร์ลิ่ง กับการเล่นตำแหน่งวิง-แบ็ก

         มีการพูดกันมากมายเกี่ยวกับผู้เล่นตัวจริงของ เชลซี ในเกมแรกภายใต้การคุมทีมของ แกรม พ็อตเตอร์ ก่อนเริ่มเกม และสิ่งที่เซอร์ไพรส์ก็คือการใช้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ยืนเป็นวิง-แบ็กซ้าย

         ด้วยความเร็วของสตาร์ทีมชาติอังกฤษก็เล่นงาน อามาร์ เดดิช ได้เป็นอย่างดี โดยได้โอกาสเปิดบอล 3 ครั้ง มีแค่ รีซ เจมส์ (7) แบะ เมสัน เมาท์ (6) ที่มากกว่า

         จนถึงตอนนี้เขาคือคนเดียวที่ยิงได้มากกกว่าหนึ่งลูกให้กับสโมสรในซีซั่นนี้ โดยทำไปแล้ว 4 ลูกทุกรายการ และคว้าตำแหน่ง แมน ออฟ เดอะ แม็ตช์ ในเกมนี้ไปครอง


มาร์ก กูกูเรย่า กับบทบาทใหม่

         แข้งทีมชาติสเปนถูกดึงมาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาซึ่งก็รู้กันดีอยู่แล้วว่าตำแหน่งถนัดคือแบ็กซ้าย และที่ผ่านมา โธมัส ทูเคิ่ล ก็ให้เล่นทางซ้ายตลอด

         แต่เกมนี้เราได้เห็น มาร์ก กูกูเรย่า ยืนในสามเซนเตอร์โดยอยู่ทางฝั่งซ้ายร่วมกับ ติอาโก้ ซิลวา และ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า โดยที่ผ่านมาเราเคยเห็นเจ้าตัวเล่นในตำแหน่งนี้อยู่บ้างสมัยอยูท ไบรท์ตัน

         และแน่นอนว่าภายใต้การคุมทีมของ แกรม พ็อตเตอร์ ที่รู้จักเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ในขณะที่ในยามไม่ได้ครองบอลรูปแบบของทีมจะขยับมาเป็น 4-4-2 ซึ่งถือเป็นความยืดหยุ่นในการเล่นของทีมภายใต้การนำของ แกรม พ็อตเตอร์



คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})