:::     :::

ผลการแข่งขันที่ยุติธรรม

วันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม 2565 คอลัมน์ สิงห์สนามจริง โดย ยักษ์เดนส์
651
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
สถิติการไม่ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงดำเนินต่อไปหลังจากเปิดบ้านเสมอกัน 1-1 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ถึงตอนนี้ก็ 5 ปีเข้าไปแล้ว

         จะว่าไปเกมนี้ก็น่าเสียดาย แต่มองในภาพรวมแล้วก็ถือเป็นผลการแข่งขันที่ยุติธรรมแล้วที่ต้องลงเอยด้วยการแบ่งแต้มกันไป ถือเป็นการเสมอกัน 7 จาก 9 เกมหลังที่เจอกัน 

         ผลจากเกมนี้ทำให้ทีมไม่ชนะในลีกกับการเจอ "ปีศาจแดง" เป็นเกมที่ 10 ติดต่อกันแล้ว โดยสถิตินานที่สุดคือ อาร์เซน่อล ที่ 19 เกมในช่วงปี 1995-2005 และ แบล็คเบิร์น 12 เกมในช่วงปี 1992-1998

         อย่างน้อยทีมก็ยืดสถิติไม่แพ้ใครเป็นเกมที่ 8 ติดต่อกันภายใต้การคุมทีมของ แกรม พ็อตเตอร์


การแก้ปัญหาเชิงรุก

         เกมในครึ่งแรกของ เชลซี แสดงให้เห็นว่าพวกเขาเป็นรองผู้มาเยือน โดยเฉพาะเกมแดนกลางที่ไม่อาจจะควบคุมจังหวะเกมได้เลย 

         นั่นเป็นทำให้ แกรม พ็อตเตอร์ ต้องมีการขยับเปลี่ยนเอา มาเตโอ โควาซิช ลงมาแทน มาร์ก กูกูเรย่า เพื่อมาช่วยพร้อมกับเปลี่ยนมาเล่นแบบแบ็กโฟร์ โดยที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ครองบอลมากกว่าที่ 75 เปอร์เซ็นต์ และผ่านบอลมากกว่าที่ 178 ครั้งต่อ 129 ครั้ง

         โอกาสทำประตูของ "ปีศาจแดง" ก็เหนือกว่า แต่การลงสนามมาของ โควาซิช ช่วยให้ทีมมีความนิ่งมากขึ้น และประชันกันในแผงกองกลางได้ดีมากขึ้น

         ในขณะเดียวกับนั่นก็ช่วยให้แบ็กทั้งสองฝั่งทั้ง เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า และ เบน ชิลเวลล์ สามารถเติมเกมรุกได้มากขึ้นอีกด้วย


เทรโวห์ ที่ยอดเยี่ยม

         เริ่มต้นด้วยการเป็นเซนเตอร์ทางฝั่งขวาก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นคู่หูกับ ติอาโก้ ซิลวา ในเกมรับ ซึ่งแข้งวัย 23 ปีก็ทำหน้าที่ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่องในการหยุดเกมรุกของยูไนเต็ด

         ความเร็วและการพุ่งไปข้างหน้าที่คุณลักษณะที่สำคัญในแนวรุกของ "ปีศาจแดง" ทั้ง เจดอน ซานโช่, มาร์คัส แรชฟอร์ด และ อันโตนี่ โดยทาง ชาโลบาห์ ตัดบอล 2 ครั้ง, สกัดบอล 3 ครั้งและดวลกลางอากาศ 3 ครั้ง

         ในการเล่นกับบอล ชาโลบาห์ ก็ทำได้อย่างโดดเด่นโดยจบเกมนี้เจ้าคือคนที่สัมผัสบอลและจ่ายบอลมากกว่าเพื่อนร่วมทีมทุกคน และเกือบพังประตูได้จากลูกเตะมุมที่ไปชนคานด้วย

         กับการลงเล่นเกมพรีเมียร์ลีกให้กับสโมสรเป็นนักที่ 25 กับสโมสร ชาโลบาห์ ยังถือสถิติไร้พ่ายด้วยการชนะ 16 เสมอ 9 ด้วย


จุดโทษของ จอร์จินโญ่

         แม้จะมาช้าและดราม่าไปบ้างแต่ จอร์จินโญ่ ยังคงไว้ใจได้เมื่อต้องทำหน้าที่สังหารจุดโทษ นับเป็นประตูที่ 19 ในการยิงจุดโทษนับตั้งแต่มาค้าแข้งในพรีเมียร์ลีก มากกว่าผู้เล่นทุกคนนับตั้งแต่มาอยู่อังกฤษ

         เท่ากับว่าประตูทั้งหมดที่มิดฟิลด์ทีมชาติอิตาลีทำได้ 90 เปอร์เซ็นต์มาจากยิงจุดโทษ นอกจากนี้เจ้าตัวยังเข้าสกัดถึง 5 ครั้งมากที่สุดในสนามบวกกับการสัมผัสบอลมากเป็นอันดับต้นๆในเกมนี้


โดนตีเสมออย่างน่าเจ็บใจ

         ในช่วงทดเวลาบาดเจ็ยที่ยาวนาน 6 นาที เชลซี กลับต้องมาเสียประตูจีเสมออย่างน่าเจ็บใจจังหวะเปิดของ ลุค ชอว์ เข้าเขตโทษและ กาเซมีโร่ ที่ขึ้นได้สูงกว่า เบน ชิลเวลล์ ก็โหม่งเข้าไป

         การเสียประตูแบบที่ทีมน่าจะได้สามคะแนนเต็มถือว่าน่าเสียดาย แต่ถ้ามองจากรูปเกมตลอดทั้ง 90 นาทีต้องบอกว่าทาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีโอกาสมากกว่า

         แต่ก็อย่างที่ว่าไว้ว่าอย่างน้อยผลเสมอในเกมนี้ก็ทำให้ทีมไม่แพ้ใครเป็นนัดที่ 8 ติดต่อกันภายใต้การคุมทีมของ แกรม พ็อตเตอร์ ถือเป็นสถิติดีที่สุดรับตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม ถึง มีนาคม ที่ตอนนั้นทีมไม่แพ้นาน 14 เกมด้วย



คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด