ภารกิจลุล่วง
ถือเป็นการกลับมาที่ยอดเยี่ยมหลังจากที่ 2 เกมแรกของรอบแบ่งกลุ่มทีมได้มาเพียงแค่ 1 คะแนนเท่านั้น นั่นทำให้เกมนัดสุดท้ายทีมสามารถ "โรเตชั่น" ทีมได้ในช่วงเวลาที่โปรแกรมการแข่งขันอัดแน่นเหลือเกิน
สองประตูอันยอดเยี่ยมของ มาเตโอ โควาซิช และ ไค ฮาแวร์ตซ์ ทำให้ แกรม พ็อตเตอร์ ยังรักษาสถิติไม่แพ้ใครต่อไปในการคุม "สิงห์บลูส์"
การจัดทีมอย่างกล้าหาญ
การวางหมากของกุนญือชาวอังกฤษถือว่าสร้างเซอร์ไพรส์เหมือนกันในเกมนี้เมื่อเจ้าตัวเลือกส่ง คริสเตียน พูลิซิช กับ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง สองตัวรุกธรรมชาติเล่นในตำแหน่งวิง-แบ็ก
แน่นอนว่าเป้าหมายคือต้องการความคล่องตัวในการหยุดเกมริมเส้นของ ซัลซ์บวร์ก แต่การเล่นเกมรับของทั้งคู่ยังเป็นเครื่องหมายคำถามอยู่ว่าจะทำได้ดีสักแค่ไหน
ถือเป็นการเดิมพันของ แกรม พ็อตเตอร์ ซึ่งความให้ความเร็วของทั้งคู่เล่นงานเจ้าบ้านในจังหวะเปลี่ยนจากรับเป็นรุก ในขณะที่กองหน้าส่งทั้ง ไค ฮาแวร์ตซ์ และ ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมย็อง
การจัดทีมครั้งนี้ส่งผลอย่างดีเยี่ยมโดยเฉพาะในครึ่งแรกที่ทีมครองบอลถึง 75 เปอร์เซ็นต์ ผ่านบอลมากกว่าเจ้าบ้านถึง 323 ครั้งต่อ 58 ครั้ง ในขณะที่ ฟิลลิป์ เคิห์น นายทวาน ซัลซ์บวร์ก ต้องออกแรงเซฟถึง 5 ครั้ง
ไค ฮาแวร์ตซ์ สังหารประตูเสียบตาข่ายอย่างงดงามให้ทีมนำในครึ่งแรก ในขณะที่ทาง ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมย็อง ก็ได้โอกาสทำประตูถึง 4 จาก 6 ครั้งที่ทีมทำได้ด้วย
วินัยที่ยอดเยี่ยมของ จอร์จินโญ่
ราฮีม สเตอร์ลิ่ง และ คริสเตียน พูลิซิช ใช้เวลาส่วนใหญ่ในครึ่งหลังกับการทำลายแนวรับของ ซัลซ์บวร์ก นั่นหมายความว่า จอร์จินโญ่ จะต้องมีสมาธิกับเกมอย่างมากในการปกป้องอยู่หน้าแผงหลังอย่างมาก
ตำแหน่งโดยเฉลี่ยของมิดฟิลด์ทีมชาติอิตาลีตลอด 90 นาทีอยู่ใกล้กับ ติอาโก้ ซิลวา อย่างมาก ซึ่งเจ้าตัวก็มีบทบาทสำคัญอย่างมากกับการสกัดบอล 3 หนและตัดบอลอีก 3 หน (มากกว่าทุกคนในทีม) นอกจากนี้ยังผ่านบอลสำเร็จ 51 ครั้งและจบด้วยการผ่านบอลเข้าเป้าถึง 60 เปอร์เซ็นต์
วินัยของ จอร์จินโญ่ ทำให้ มาเตโอ โควาซิช กับ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ สามารถเดินเกมบุกไปข้างหน้าได้อย่างสบายใจ โดยในการเล่นเกมรุกเจ้าตัวก็มีการจ่ายบอลสำคัญถึง 3 หนด้วย
ประตูอันยอดเยี่ยมของ ไค
ประตูสุดสวยของ ไค ฮาแวร์ตซ์ ที่ปั่นโค้งเสียบตาข่ายอย่างสวยงามสามารถส่งเข้าประกวดลูกยิงสุดสวยประจำสัปดาห์ หรือแม้แต่สวยที่สุดประจำทัวร์นาเม้นต์ได้เลย
ลูกนี้นอกจากนี้เป็นการยิงในแชมเปี้ยนส์ ลีกนอกบ้านให้กับทีมเป็นครั้งแรกในรอบ 18 เกม (ไม่นับประตูในเกมชิงชนะเลิศกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้) และยังเป็นการยิงนอกกรอบครั้งแรกกับสโมสรด้วย
นอกจากประตูเจ้าตัวก็มีผลงานด้านอื่นทั้งการผ่านบอลสำเร็จในพื้นที่สุดท้าย 3 หน, ดวลกลางอากาศชนะ 4 ครั้ง เป็นค่าเฉลี่ยสูงถึง 1 ใน 4 ที่ทีมทำได้เลย
ขณะเดียวกันเจ้าตัวยังสัมผัสบอลถึง 68 ครั้ง สูงเป็นอันดับ 5 ของสนาม และเลี้ยงบอลผ่านคู่แข่ง 3 ครั้ง นั่นแสดงให้เห็นว่าเขามีส่วนร่วมกับเกมมากแค่ไหน
ปรบมือให้ แกรม พ็อตเตอร์
ผลงานในเกมนี้ยังทำให้ทีมไม่แพ้ 9 เกมติดภายใต้การคุมทีมของ แกรม พ็อตเตอร์ ซึ่งเป็นกุนซือชาวอังกฤษคนแรกที่ทำได้ในรอบ 115 ปีเลย
ปัจจุบันเจ้าตัวคุมทีมมาแล้ว 9 เกม ชนะ 6 เสมอ 3 โดยทำได้ 16 ประตู เสีย 4 ลูก เก็บคลีนชีตไป 5 เกม นอกจากนี้ยังเป็นกุนซือ เชลซี คนแรกที่ไม่แพ้ในการคุมทีม 4 เกมแรกในแชมเปี้ยนส์ ลีกนับตั้งแต่ที่ โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ ทำให้ย้อนกลับไปเมื่อเดือนเมษายน 2012
และถ้ามองถึงอดีตกุนซือชาวอิตาลี แฟนสิงห์คนจินตนาการออกว่าสุดท้ายแล้วเข้าพาทีมไปถึงจุดไหน
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT