:::     :::

เรียกความมั่นใจ

วันอาทิตย์ที่ 11 มีนาคม 2561 คอลัมน์ สิงห์สนามจริง โดย ยักษ์เดนส์
3,339
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ชัยชนะเหนือ คริสตัล พาเลซ น่าจะพอเรียกความมั่นใจให้กับ พลพรรค เชลซี ได้ไม่มากก็น้อยหลังจากที่อยู่ภายใต้ความกดดันอย่างหนักจากความพ่ายแพ้ให้กับสองทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์
สามคะแนนที่ได้สำคัญเหลือเกินกับการไล่ล่าโควต้ายูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทาง ลิเวอร์พูล ออกไปพ่ายในศึก "แดงเดือด" ให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำให้โอกาสกลับมาเปิดกว้างอีกครั้ง
คงไม่มีใครคิดว่าการคว้าชัยเหนือ "เดอะ อีเกิ้ลส์" จะเรียกเสียงเฮให้แฟนบอลสิงห์บลูส์อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว
ด้วยโอกาสยิงที่บานเบอะน่าเสียดายที่สกอร์บอร์ดฝั่งสีน้ำเงินทำงานเพียงสองหนเท่านั้น
การจัดทีมในเกมนี้ของ อันโตนิโอ คอนเต้ ไม่มีอะไรซับซ้อนเหมือนที่ผ่านมา นักเตะเล่นในตำแหน่งที่ตัวเองถนัด
เอแด็น อาซาร์ ไม่ต้องไปยืนในตำแหน่ง "ฟอลส์ ไนน์" หลังจากที่หงุดหงิดกับการยืนเป็นกองหน้าแต่บอลมาไม่มี ได้ไปเล่นเกมรุกทางซ้ายอย่างที่ถนัดเมื่อตำแหน่งหน้าเป้าเป็น โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ที่ได้ทำหน้าที่ในเกมนี้ โดยประสานงานกับ วิลเลี่ยน อีกคน
สองตัวหลักอย่าง อันโตนิโอ รือดิเกอร์ เซนเตอร์และ วิคเตอร์ โมสส ได้พัก แต่คนอื่นยังจัดชุดใหญ่แสดงให้เห็นว่ากุนซือชาวอิตาเลี่ยนเลือกที่จะเน้นเกมนี้ก่อนที่จะเดินทางไปเยือน บาร์เซโลน่า ที่สเปนในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกรอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดที่สอง
แกรี่ เคฮิลล์ คืนตำแหน่งตัวจริงอีกครั้งพร้อมปลอกแขนกัปตันทีม ส่วนทางขวา ดาวิเด้ ซัปปาคอสต้า ทำหน้าที่ เช่นเดียวกับ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ที่กลับมาประจำการในแดนกลางอีกครั้งหลังจากที่วูบตอนซ้อมจนชวดบู๊กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
กองกลางชาวฝรั่งเศสคือหัวใจสำคัญของทีมไม่ใช่แค่ในเกมรับ แต่เกมรุกก็ถือว่าดันเกมขึ้นไปช่วยเพื่อนได้ดีไม่แพ้กัน กองกลางของ เชลซี แน่นขึ้นอย่างชัดเจน หากเป็นผู้หญิงก็ต้องบอกว่า "เป๊ะ" ทีเดียว 
                
                               เอ็นโกโล่ ก็องเต้ กลับมาทำให้แดนกลางของทีมแกร่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
แน่นอนว่าการที่คูแข่งเป็น "พาเลซ" ทำให้ ก็องเต้ ไม่ต้องพะวงกับเกมรับมากนัก สามารถดันเกมสูงได้ตลอดอย่างที่เห็นตั้งแต่ช่วงออกสตาร์ท เพราะทีมเองก็ต้องเน้นเกมบุกเพื่อสามคะแนนเช่นกัน
ความผิดพลาดของผู้มาเยือนคือปล่อยให้ "สิงห์บลูส์" เล่นง่ายเกินไป เจ้าถิ่นสามารถต่อบอลตั้งแต่แดนหลังโดยไม่มีใครเข้ามากดดัน 
เกมริมเส้นกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งหลังจากที่เป็นอัมพาตมาในช่วงหลังโดยเฉพาะทางฝั่งขวาอย่าง ดาวิเด้ ซัปปาคอสต้า ที่ไปถึงสุดเส้นหลังเกือบตลอดและมีโอกาสเปิดบอลให้ทีมได้ลุ้นหลายต่อหลายครั้ง เช่นเดียวกับ มาร์กอส อลอนโซ่ ที่ได้บุกตามสไตล์ที่ถนัดหลังจากที่สองเกมหลังแค่เล่นเกมรับยังเหนื่อย
เชส ฟาเบรกาส เล่นง่ายขึ้นเมื่อมี ก็องเต้ มาช่วย มีจังหวะจ่ายบอลสวยๆหลายหนในแบบฉบับที่ควรจะเป็น
กองหน้าเมื่อมี โอลิวิเยร์ ชิรูด์ มายืนค้ำก็เป็นหน้าที่ของ เอแด็น อาซาร์ ที่ได้ลากเลื้อยอีกครั้ง แม้เกมนี้อาจจะไม่ได้แสดงพิษสงอะไรมากมายนักแต่การได้กลับไปเล่นในแบบที่ตัวเองถนัดอีกครั้งมันก็ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจได้เป็นอย่างดี
วิลเลี่ยน ที่ยืนทางขวาได้โอกาสลากตัดเข้ากลางแล้วยิงสองหน แต่พอเป็นการสับไกด้วยขาซ้ายประสิทธิภาพอาจจะลดลงไปบ้าง
แต่เพียงแค่ครั้งแรกที่ได้ลากจากทางซ้ายตัดเข้ากลางก็ได้เรื่องทันทีบอลพุ่งเรียดชนเสาในเข้าไปชนิดที่ เวย์น เฮนเนสซี่ ที่ทำดีมาตลอดพุ่งสุดตัวแล้วแต่ก็ไปไม่ถึง
                  
                                               วิลเลี่ยน กดท่าไม้ตายติดอีกครั้งในเกมนี้
ประตูปลดล็อคมาทุกอย่างก็เป็นใจ รูปเกมที่เหนือกว่ายิ่งทำให้ทุกอย่างเข้าทางและสกอร์ก็ไหลเป็น 2-0 ในจังหวะสวนกลับ เชส ฟาเบรกาส ใช้สายตาที่แหลมคมบวกการจ่ายบอลที่เด็ดขาดเปิดบอลจากแดนตัวเองให้ มาร์กอส อลอนโซ่ หลุดเดี่ยวมาทางซ้ายก่อนเปิดเข้ากลาง วิลเลี่ยน ข้ามหลอกให้ เอแด็น อาซาร์ ดึงจังหวะก่อนใจกว้างเป็นแม่น้ำไหลเข้าเขตโทษด้านขวา ดาวิเด้ ซัปปาคอสต้า กดเต็มข้อบอลพุ่งเข้ากรอบ มาร์ติน เคลลี่ พยายามสกัดแต่โชคไม่เข้าข้างบอลไปโดน เวย์น เฮนเนสซี่ ที่พยายามพุ่งเซฟเด้งกลับมาโดน เคลลี่ เข้าประตูตัวเองไปอย่างโชคร้าย 
ทุกอย่างไปยืนอยู่ฝั่งเจ้าถิ่นอย่างชัดเจน คริสตัล พาเลซ พยายามฉกฉวยโอกาสในจังหวะตัดบอลด้วยการวางบอลยาวให้สองกองหน้าอย่าง คริสติย็อง เบนเตเก้ และ อเล็กซานเดอร์ ซอร์ลอธ แต่บอลก็มาแทบไม่ตรงเลย
ท้ายครึ่งแรกสกอร์ของเจ้าถิ่นน่าขยับเพิ่มจังหวะที่ เอแด็น อาซาร์ ถวายพานให้ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ กดเน้นๆบอลผ่าน เวย์น เฮนเนสซี่ ไปแล้วแต่ เจมส์ ทอมกิ้นส์ มาสกัดจากเส้นได้อย่างเหลือเชื่อ
             
                                                       โอลิวิเยร์ ชิรูด์ น่ามีสกอร์มาฝากในเกมนี้
นกหวีดครึ่งแรกถูกเป่าพร้อมกับรอยยิ้มของแฟนสิงห์ที่ทีมทำผลงานได้ดีจริงๆ ทั้งรูปเกมและสกอร์ที่เหนือกว่าช่วยเติมความมั่นใจได้เยอะทีเดียว
รอย ฮ็อดจ์สัน แก้เกมในครึ่งหลังด้วยการส่ง วิลฟรีด ซาฮา ลงมาแทน คริสติย็อง เบนเตเก้ พร้อมปรับให้ลูกทีมบีบเกมสูงตั้งแต่เริ่มและก็เกือบได้ผลจังหวะที่ อเล็กซานเดอร์ ซอร์ลอธ ได้กดเน้นๆในเขตโทษด้านซ้ายบอลผ่าน ติโบ กูร์กตัวส์ ไปแล้วแต่ชนเสาแรกเต็มๆ
แต่พอเล่นไปเล่นมาด้วยความเหนือกว่าทั้งเรื่องของศักยภาพและความสามารถเฉพาะตัวบอลก็กลับไปอยู่ในการครอบครองของ เชลซี เหมือนเดิม
และก็เป็นอีกครั้งที่สกอร์บอร์ดฝั่งเจ้าถิ่นควรจะได้ทำงาน มาร์กอส อลอนโซ่ หลุดมาทางซ้ายเปิดบอลเข้ากลาง โอลิวิเยร์ ชิรูด์ อยู่คนเดียวยิงด้วยขวาบอลพุ่งชนเสาเด้งกลับมาเข้าทางหัวหอกฝรั่งเศสยิงด้วยขวาอีกทีแต่โดนไม่ถนัดบอลหลุดกรอบออกไปอีก
ต้องบอกว่าวันนี้ไม่ใช่วันของอดีตกองหน้าอาร์เซน่อลจริงๆ ทั้งจังหวะยิงและโหม่งมันพลาดไปหมด 
แต่อย่างน้อยก็เป็นสัญญาณอันนี้ว่าการปรับมาใช้กองหน้า "ธรรมชาติ" จริงๆนั้นทำให้เกมรุกดูมีมิติ มีสีสันมากขึ้น แม้ว่าคู่ต่อสู้จะเป็นเพียงแค่ คริสตัล พาเลซ ก็ตาม
                  
                                             เอแด็น อาซาร์ กลับมาเล่นแบบมีชีวิตชีวาอีกครั้ง
เมื่อเทียบกับ อัลบาโร่ โมราต้า ที่ลงมาแทนนั้นต้องบอกว่า ชิรูด์ ดูดีกว่าอย่างเห็นได้ชัดหาก อันโตนิโอ คอนเต้ จะเลือกเล่นแบบมีกองหน้าตัวเป้า
ท้ายเกมมีเสียวเล็กๆเมื่อนาทีสุดท้ายพาเลซมาตีไข่แตกได้จาก พาทริค ฟาน อานโฮลท์ แต่สุดท้ายก็อดตัวคว้าสามแต้มมาครองได้สำเร็จ
เกมวันนี้บรรดาแฟนสิงห์ได้เห็นทีมรักเล่นในแบบที่ควรจะเป็น เกมรุกวูบวาบมีการขึ้นเกมริมเส้นอย่างที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยมเมื่อฤดูกาลที่แล้วโดยเฉพาะในตำแหน่งวิงแบ็คที่เติมเกมรุกถึงสุดเส้นและได้เปิดเข้ากลางบ่อยครั้ง
เอแด็น อาซาร์ ได้กลับมาอยู่ในพื้นที่ที่โชว์ผลงานได้ดีมาตลอด แม้เกมนี้จะไม่มีประตูมาฝากแต่การได้เล่นกับบอล ได้ไปกับบอลน่าจะเรียกความมั่นใจกลับมาได้ไม่มากก็น้อย 
วิลเลี่ยน ยังคงมีทีเด็ดกับลูกตัดเข้ากลางแล้วสับไกหลังโดนลักพาตัวหายไปในเกมที่เอติฮัด สเตเดี้ยม 
โอลิวิเยร์ ชิรูด์ พร้อมกับการรับบทเป็นกองหน้าตัวเป้า แม้อาจจะต้องจูนในเรื่องของการจบสกอร์อีกสักหน่อย
                   
                             รอดูว่า อันโตนิโอ คอนเต้ จะเลือกจัดแนวรุกยังไงในเกมกับ บาร์เซโลน่า
ถือเป็นเรื่องดีๆหลายอย่างที่เกิดขึ้นในเกมนี้ก่อนที่จะต้องทำศึกใหญ่กับ บาร์เซโลน่า ในวันพุธนี้
อยู่ที่ใจของ อันโตนิโอ คอนเต้ แล้วว่าจะจัดทีมยังไง ตั้งแต่ผู้รักษาประตูไล่มาถึงกองกลางอาจจะไม่น่าหนักใจเท่าไร แต่เกมรุกไม่รู้ว่าจะยังยัดเยียดให้ เอแด็น อาซาร์ ไปยืนกองหน้าอย่างที่เจ้าตัวเคยบอกหรือไม่ว่าหากเห็นว่าเป็นประโยชน์กับทีมก็จะทำแบบนั้นอีก
จัดตัวขัดใจยังไงไม่สำคัญขอให้ผลการแข่งขันมันออกมาดีก็ละกันนะเต้


คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด