:::     :::

เหลือทางให้ได้เดินบ้าง

วันศุกร์ที่ 05 พฤษภาคม 2566 คอลัมน์ สิงห์สนามจริง โดย ยักษ์เดนส์
785
ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ช่วงเวลานี้แฟนบอลของ เชลซี น่าจะเหนื่อยใจมากกว่าใครในโลกฟุตบอล

การมาของ ท็อดด์ โบห์ลี่ ดูจะเป็นแสงสว่างสำหรับพลพรรคสิงโตน้ำเงินแห่งกรุงลอนดอน ด้วยเม็ดเงินจำนวนมหาศาลที่ทุ่มลงไป

สาวก สิงห์บลูส์ สามารถจินตนาการถึงการแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีกและกลับมาอยู่ในระดับหัวแถวอีกครั้งหลังช่วงหลายปีที่ผ่านมาทำได้แค่เกาะอยู่ในพื้นที่แชมเปี้ยนส์ ลีก

แต่เริ่มต้นซีซั่นไปไม่เท่าไรสโมสรก็จัดการปลด โธมัส ทูเคิ่ล ออกจากตำแหน่งหลังผลงานน่าผิดผวังเมื่อเทียบกับการเสริมทีม


ทว่าคนที่เจ้ามาแทนกลับเป็น แกรม พ็อตเตอร์ จาก ไบรท์ตัน ที่ชื่อชั้นต้องบอกว่าอยู่ในระดับที่ธรรมดามาก

ไม่ใช่ว่าดูถูก พ็อตเตอร์ เพราะผลงานกับ ไบรท์ตัน ต้องบอกว่ายอดเยี่ยมและต้องลุกขึ้นปรบมือให้อย่างไร้ข้อกังขา

แต่บางครั้งชื่อชั้นของผู้จัดการทีมในการรับงานคุมสโมสรใหญ่บางครั้งก็ต้องมีดีกรีไม่ธรรมดาด้วย ไม่อย่างนั้นมันก็อาจจะคุมพวกซูเปอร์สตาร์ทั้งหลายไม่อยู่

นั่นอาจจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับ เชลซี ยังไม่รวมถึงแนวทางการฝึกซ้อมและการเล่นซึ่งพวก บิ๊กเนม ทั้งหลายที่เรยเล่นกับกุนซือระดับท็อปอาจจะตั้งข้อสงสัย


ไม่อย่างงั้นมันก็ต้องมีคนที่คอยพยุงทีมในยามย่ำแย่ได้บ้าง แต่กลับกลายเป็นมาพากันแย่ทั้งทีม

ทั้งหมดทั้งปวงนั้นนำมาซึ่งฟอร์มการเล่นที่เข้าขั้นห่วยแตกพร้อมกับการตกเก้าอี้ของ แกรม พ็อตเตอร์

และความหวังอันริบหรี่ของทีมที่จะประสบความสำเร็จได้ในซีซั่นนี้ถูกนำไปฝากไว้ในมือของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ที่เคยล้มเหลวในฐานะกุนซือของทีมมาก่อน และไปไม่รอดกับการคุม เอฟเวอร์ตัน

ไม่รู้ว่าบอร์ดบริหารคิดอะไรอยู่ อาจจะมีความเขื่อว่าในฐานะตำนานคงปลุกเร้านักเตะในทีมได้


แต่ว่าสุดท้ายยิ่งซ้ำร้ายกว่าเก่า ทีมโดน เรอัล มาดริด อัดร่วงตกรอบยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เท่านั้นไม่พอในลีกก็ย่ำแย่อย่างหนัก หมดงุ้นไปเล่นฟุตบอลยุโรปไปเรียบร้อย

6 เกมภายใต้การคุมทีมของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด นั้น เชลซี แพ้รวด ชนิดที่ผลงานแย่ยิ่งกว่าแย่

พอล เมอร์สัน ถึงขนาดยกว่านี่คือผลงานที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลกันไปเลย

ถึงตอนนี้เหลือ 5 เกมสุดท้ายของฤดูกาล ไม่รู้ว่าแฟนบอลสิงโตน้ำเงินคิดอะไรกันอยู่


โปรแกรมที่เหลือมีเจอ บอร์นมัธ (เยือน), น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (เหย้า), แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (เยือน), แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (เยิอน) และ นิวคาสเซิ่ล (เหย้า)

ต้องบอกว่าสองเกมถัดไปคือความหวังในการคว้าชัยชนะของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ส่วนสามเกมสุดท้ายไม่อยากจะบอกว่าคงแพ้แน่ แต่ทฝมองจากสภาพแล้วก็รอกยาก

ก็หวังว่าคงไม่เลวร้ายถึงขนาดแพ้ทั้งหมดที่เหลือ แค่ไม่ชนะบ้างก็แย่แล้ว

ยังไงก็เหลือทางให้ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ได้เดินในเส้นทางอาชีพนี้กันบ้างนะ



คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT

ถ้าไม่อยากพลาดทุกข่าวสารของวงการกีฬา โปรดติดตามเรา :
เพิ่มเพื่อน
Share
Twitter
Share
ระดับ : {{val.member.level}}
{{val.member.post|number}}
ระดับ : {{v.member.level}}
{{v.member.post|number}}
ระดับ :
ดูความเห็นย่อย ({{val.reply}})

ข่าวใหม่วันนี้

ดูทั้งหมด