ทีมแห่งอนาคต

ด้วยวัยเพียง 18 ปี พร้อมสัญญายาว 7+1 ปี ถือเป็นเรื่องปกติกับการดึงนักเตะะวัยกระเตาะสมัยนี้ที่ต้องเซ็นกันยาวๆ ไว้ก่อน ซึ่งมันคือการเซ็นสัญญาเพื่ออนาคตในระยะยาว

เมื่อมองจากนักเตะที่ทีมดึงมาเสริมทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ทั้ง มอยเซส ไกเซโด้ (21), โรเมโอ ลาเวีย (19), คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู (25), อักเซล ดิซาซี่ (25) นิโกล่าส์ แจ็คสัน (22), เลสลี่ย์ อูโกชุควู (19) โรเบิร์ต ซานเชซ (25) และ อังเจโล่ เรียกได้ว่าเป็นการเสริมทีมด้วยแข้งอายุน้อยทั้งสิ้น

แต่ละคนที่เข้ามาพร้อมความกระหายในความสำเร็จเป็นอย่างสูง เพราะแทบยังไม่เคยมีใครสัมผัสแชมป์ จะมีโอแค่ คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู ที่ประสบความสำเร็จมาก่อนสมัยอยู่กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ ไลป์ซิก

ความรู้สึกถึงพลังใหม่ๆ และความกระตือรือร้นเป็นสิ่งที่สามารถมองเห็นได้ บวกกับนักเตะเก่าที่มาอยู่กับทีมก่อนหน้านี้ หลายคนค่าตัวไม่น้อยเช่นกัน และอายุก็ไม่มากด้วย

แต่ยังมีความคาดเดาที่ยากและการขาดประสบการณ์ที่ถูกพูดถึงสำหรับ เชลซี ชุดนี้ กับการไล่ล่าความสำเร็จภายใต้การคุมทีมของ เมาริศิโอ โปเช็ตติโน่ 

จริงอยู่ที่นายใหญ่ชาวอาร์เจนติน่า มีฝีมือที่ได้รับการยอมรับในวงกว้าง แต่ก็รู้ว่า "สิงห์บลูส์" มีปัญหาที่ค้างคามาตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว และภายในปีเดียวคงไม่สามารถพาทีมพุ่งทะยานกลับมาโดยง่าย

และก็อย่างที่บอกไป ในทีมที่เต็มไปด้วยนักเตะอายุน้อย แม้ความห้าวจะมีเปี่ยมล้น แต่ขาดความเก๋าไปบางครั้งไม่ใช่เรื่องง่าย

ในเกมที่ทีมแพ้ เวสต์แฮม เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีผู้เล่นอายุเกิน 26 ปี อยู่ในสนามเพียง 3 คนคือติอาโก้ ซิลวา, เบน ชิลเวลล์ และ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง โดยทีมมีนักเตะออกสตาร์ทตัวจริงด้วยอายุเฉลี่ยน้อยที่สุดเป็นอันดับ 2 ของลีกในเกมนัดที่ 2 ของฤดูกาล เป็นรองเพียง อาร์เซน่อล ด้วยตัวเลข 24 ปี 342 วัน ส่วน "ปืนใหญ่" อยู่ที่ 24 ปี 211 วัน

แน่นอนว่าการมีทีมอายุน้อยเป็นเรื่องที่ดีแต่ก็น่ากังวลเช่นกัน จากที่ได้เห็นในสองเกมแรก พวกเขามีความมุ่งมั่น แต่ขาดความโหดเหี้ยมนำไปสู่ข้อผิดพลาดราคาแพงที่ต้องจ่าย

"มีสิ่งดีๆ มากมาย (เกี่ยวกับแนวทางของ เชลซี) แต่อีกครั้งหนึ่งคือเราต้องให้เวลาพวกเขาแสดงผลงาน วันนี้เรามีสมดุลที่ดี เพราะแมแต่นักเตะอายุน้อยก็มีประสบการณ์อย่าง เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ที่ได้แชมป์โลก แต่แน่นอนว่า พรีเมียร์ลีก เป็นอะไรทึ่แตกต่าง" เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กล่าว

"ขั้นตอนแรกคือการเล่นให้ดีหรือซื้อแนวคิดทางปรัชญา แต่ในขั้นที่สองคือสิ่งที่ยากที่สุด - เล่นให้ดีและแข่งขันไปพร้อมๆ กัน นี่คือฟุตบอลอีกรูปแบบ ลูกตั้งเตะหรืออะไรแบบนั้น ในฟุตบอลนั้นคุณต้องการนักเตะที่มีประสบการณ์บ้าง แต่ผมคิดว่าเรามีสมดุลที่ดีและมันแค่เพียงการปรับปรุงสิ่งนี้ และแน่นอนว่าเราจะพัฒนาในแนวทางนี้"

"ผมคิดว่าเราสามารถชนะได้ ผมเชื่อมั่นในทีมและคุณภาพของทีมอย่างเต็มที่ และตอนนี้มันอยู่ในกระบวนการและเราต้องรอสำหรับการพัฒนา เราอยู่ในทิศทางที่ดี แน่นอนว่าถ้าวันนี้เรามี 4 หรือ 6 แต้ม มันคงช่วยให้คิดบวกได้ แต่เราต้องคิดบวกเพราะมันแค่เริ่มต้น"

"เรากำลังจะชนะเกม และแน่นอน คุณภาพอยู่ที่นั่น มันเป็นเรื่องของเวลาเท่านั้น"

กับการเสริมทีมใหม่ทาง โปเช็ตติโน่ พูดถึงเรื่องนี้ว่า "เราคาดหวังสิ่งที่ดีที่สุดจากพวกเขา เราควรจะชนะทุกเกม แนวทางการเล่นของเราและรูปแบบการเล่นของทีมทำให้เห็นว่าเรากำลังอยู่ในทิศทางที่ดี มันเป็นเพียงเรื่องของเวลาก่อนที่เราจะรวมมันเข้าด้วยกัน"

เกมคืนวันศุกร์กับ ลูตัน ชัยชนะเป็นสิ่งเดียวเท่านั้น ผลจะออกมาเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ไม่อย่างนั้นมันคงจะดูไม่จืดเลย

เพราะถึงแม้ในมุมมองของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ นักเตะใหม่รวมถึงแข้งเก่ากับการผสมผสานกันภายใต้ปรัชญาของเขาอาจจะต้องใช้เวลาเพื่อจูนทุกอย่างให้เข้ากัน แต่กับฟุตบอลสมัยนี้ก็อย่างที่รู้กันอยู่ว่ามัน "รอ" ไม่ได้

กับการทุ่มเงินมหาศาลขนาดนี้แฟนบอลย่อมคาดหวังอย่างสูง แม้อาจจะไม่ถึงจนาดว่าต้องได้แชมป์ในปีนี้เลย แต่พื้นที่ฟุตบอลยุโรปถ้วยใหญ่อย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกนั้นไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

ไม่อย่างนั้นต่อให้เป็น โปเช็ตติโน่ ก็คงไม่รอด เพราะขนาด โธมัส ทูเคิ่ล ที่ชูถ้วยแชมป์ยุโรปยังกระเด็นตกเก้าอี้มาแล้ว