ผลตอบแทนเริ่มคุ้มค่า

    เงิน 115 ล้านปอนด์ที่ "สิงห์บลูส์" จ่ายให้กับ ไบรท์ตัน แข้งทีมชาติเอกวาดอร์ กลายเป็นผู้เล่นที่ค่าตัวแพงที่สุดของการย้ายทีมใน สหราชอาณาจักร ในทันที แซงหน้าเพื่อนร่วมทีมอย่าง เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ เพื่อนร่วมทีมที่ย้ายมาสู่ถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ก่อนหน้าตัวเอง

    นั่นคือความกดดันมหาศาลที่ ไกเซโด้ ต้องบอกรับทันทีในวันที่ชุดเสื้อสีน้ำเงินแห่งกรุงลอนดอน และนั่นนำมาซึ่งอาการ "เกร็ง" ทุกครั้งยามที่ลงเล่น มันดูไม่เป็นธรรมชาติ มันไม่ไหลลื่น มันดูติดๆ ขัดๆ ไปหมด

    นอกจากนี้ผลงานในภาพรวมของสโมสรก็เข้าขั้นย่ำแย่อยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลงไม่หยุดหย่อน ทำให้ตัว ไกเซโด้ รวมถึงเพื่อนร่วมทีมคนอื่นฟอร์มแน่ตามกันไปหมด แต่ในกรณีนี้ขอยกเว้น โคล พาลเมอร์ ที่เฉิดฉายและแบกทีมจนหลังแอ่น

    และเมื่อฟอร์มไม่ดี เรื่องค่าตัวก็ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงจากบรรดาสื่อ อังกฤษ ทั้งหลายที่ขึ้นชื่ออยู่แล้วในเรื่องของการซ้ำเติมให้จมดินเพื่อขายข่าว ในขณะที่แฟนบอลทีมอื่นก็ร่วมผสมโรงกันอย่างสนุกสนาน เอาจริงๆ ไม่เว้นแม้แต่แฟนตัวเองบางคนที่ส่ายหัวเหมือนกัน

    และในเมื่อทุกอย่างมันเป็นแบบนั้นมีหรือที่ตัว ไกเซโด้ เองจะรับรู้ถึงเรื่องนี้ไม่ได้

    "ในช่วงแรกของเมื่อฤดูกาลที่แล้วมันเป็นอะไรที่ค่อนข้างยากสำหรับผม นี่คือสโมสรที่ยิ่งใหญ่มากและคุณต้องทำความคุ้นเคนกัยมัน ผมเรียนรู้อะไรมากมาย" ไกเซโด้ ให้สัมภาษณ์ผ่านเว็บไซด์สโมสร

    "เมื่อมีคนใหม่ที่ย้ายเข้ามาพร้อมด้วยวิธีการใหม่ คุณต้องปรับตัวให้เข้ากับสโมสรใหม่และลงสนามด้วยความรู้สึกที่ต้องคว้าชัยชนะให้ได้ทุกเกม"

    "ตอนนี้ผมปรับตัวเข้ากับสโมสรได้ดีขึ้นแล้ว กับทีมโค้ชใหม่ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี ผมมีความมั่นใจมากขึ้นและผมกำลังเล่นฟุตบอลที่ดี เพื่อนร่วมทีมก็ช่วยผมอย่างมากทั้งในและนอกสนาม ผมสนุกกับมันจริงๆ"

    "อย่างที่ผมบอกไปตอนย้ายร่วมทีม ผมอยากเป็นตำนานของที่นี่และนั่นคือเหตุผลที่ผมทำงานหนักในทุกวัน นั่นคือเป้าหมาย"

    หลังจากที่มี่วงปรี-ซีซั่นที่น่าผิดหวัง เชลซี ทำผลงานได้ดีขึ้นและ ไกเซโด้ เองก็มีความสุขกับการทำงานร่วมกับเจ้านายคนปัจจุบันอย่าง เอ็นโซ่ มาเรสก้า

    "นักเตะทุกคนต่างสนุกกับมันเพราะเขาเป็นผู้จัดการทีมที่ดี เขามอบความรับผิดชอบให้กับผม มันเป็นเรื่องดีที่ผู้จัดการทีมทำแบบนั้นเพราะเขารู้ว่าคุณสามารถทำได้ดี เขามีกบอกให้ผมช่วยทีมในการโจมตีและป้องกัน นั่นคือสิ่งที่ผมทำในสนาม"

    "เขาชอบเมื่อเรามีบอล ผมพยายามเก็บบอลให้ได้ ในทุกเกมผมพยายามแอสซิสต์หรือผ่านบอลสวยๆ เพื่อสร้างโอกาสทำประตู ผมทำงานทั้งสองด้านเพื่อช่วยทั้งกองหน้าและกองหลังซึ่งผมมีความสุขมากเมื่อช่วยทีมคว้าชัยชนะในเกมได้"

    ส่วนเรื่องที่ตัวเองได้รับความไว้วางใจให้เป็นกัปตันทีมมาแล้ว 2-3 เกมในฤดูกาลนี้ ไกเซโด้ กล่าวว่า "มันความหมายมากสำหรับผม ผมภูมิใจอย่างมาก มันเป็นความฝันที่จะได้เป็นกัปตันของหนึ่งในทีมที่ดีที่สุดในโลก ผมขอบคุณเขาอย่างมากสำหรับเรื่องนั้นหากไม่มีเขามันก็คงไม่เกิดขึ้น"

    "มันคือฝันที่เป็นจริง ผมเติบโตมากับการเชียร์ เชลซี, การได้เป็นนักเตะของสโมสรแบะได้เป็นกัปตันทีมในบางนัดถือเป็นเรื่องที่ดีมากสำหรับผมมากๆ"

    กับเรื่องการคว้าถ้วยรางวัล ไกเซโด้ กล่าวว่า "เชลซี เป็นทีมที่ต้องการแชมป์ นักเตะทุกคนต้องการแชมป์ เราสามารถทำสิ่งที่พิเศษได้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เรามีทีมที่ดีมาก ทั้งทีม ทั้งผู้จัดการ และทีมสตาฟฟ์"

    "เราต้องการช่วยทีมในทุกทางที่ทำได้ ผมมีความสุขมากเมื่อได้ช่วยทีมคว้าชัยชนะ ผมอยากได้แชมป์ในซีซั่นนี้เช่นกัน นั่นคือสิ่งที่อยู่ในใจผมเสมอ เป้าหมายของเราคือการคว้าถ้วยรางวัลที่นี่"