ไปต่อหรือพอแค่นี้

    กลับสถานะตัวสำรองในทีมของ  เอ็นโซ่ มาเรสก้า ที่ใช้บริการเกมบอลถ้วยเป็นหลัก ทำให้เกิดการเชื่อมโยงเรื่องย้ายทีมอย่างต่อเนื่อง

    บาเยิร์น มิวนิค แสดงความสนใจที่จะดึงกลับมาเล่นใน บุนเดสลีกา เยอรมัน อีกครั้ง จากสถิติ 70 ประตู จาก 172 เกม กับ ไลป์ซิก ต้องบอกว่าไม่ธรรมดา

    แต่การเจรจานั้นไม่ง่ายเมื่อทาง  เชลซี ยืนกรานจะเจรจาด้วย ต้องยื่นข้อเสนอเข้ามาไม่ต่ำกว่า 60 ล้านปอนด์

    นับตั้งแต่ย้ายมาค้าแข้งในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อซัมเมอร์ปี 2023 - เอ็นกุนกู เผชิญกับความยากลำบากมาตลอด โดยเฉพาะการเปิดตัวช่วงปรี-ซีซั่น พร้อมอาการบาดเจ็บหนัก ทำให้เจ้าตัวได้ออกสตาร์ทตัวจริงแค่ 2 เกมในพรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว

    มาถึงซีซั่นนี้เส้นทางของกองหน้าวัย 27 ปีก็ยังเต็มไปด้วยขวากหนามเมื่อ เอ็นโซ่ มาเรสก้า วางใจ นิโกล่าส์ แจ็คสัน เป็นกองหน้าตัวหลัก

    ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าของ “สิงห์บลูส์” เหมือนต้องคำสาป แต่ละคนที่เข้ามาล้วนทำผลงานไม่ดีเอาซะเลย

    เอ็นกุนกู เข้ามาในช่วงที่ทีมกำลังดิ้นรนเพื่อกลับมาสู่เส้นทางการเป็นแชมป์อีกครั้ง และถึงแม้ว่าเขาดูจะเข้ากับระบบการเล่นของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า แต่กลับกลายเป็นว่า นิโกล่าส์ แจ็คสัน สร้างความประทับใจให้นายใหญ่ชาวอิตาเลี่ยนมากกว่าจนได้รับความไว้วางใจให้เป็นเบอร์ 1

    และตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะถูกจัดเข้าไปอยู่ในทำเนียบกองหน้าแห่งความผิดหวังของ เชลซี เป็นที่เรียบร้อย

    โรเมลู ลูกากู, ราดาเมล ฟัลเกา, อังเดร เชฟเชนโก้, อัลบาโร่ โมราต้า และ เฟร์นานโด ตอร์เรส คือกลุ่มหัวข้อค่าตัวแพงที่ถูกมองว่าผลงานน่าผิดหวังเมื่อเล่นให้กับ เชลซี แม้ว่าฤดูกาลนี้ เอ็นกุนกู จะทำได้ถึง 13 ประตู แต่มีเพียงแค่ 2 ลูกเท่านั้นที่เกิดขึ้นใน พรีเมียร์ลีก

    การยิงประตูอย่างสม่ำเสมอในเวที ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก ไม่สามารถแปรเปลี่ยนเป็นความยอดเยี่ยมในบอลลีกได้

    ในซีซั่นนี้เค้าได้ลงเล่นเป็นตัวจริงเพียงแค่ 3 เกมเท่านั้นและอยู่ในสนามเต็ม 90 นาทีแค่นัดเดียว ซึ่งเป็นเกมที่ทีมเจอกับสโมสรน้องใหม่อย่าง เซาธ์แฮมป์ตัน ซึ่งเขาทำ 1 ประตูกับ 1 แอสซิสต์

    แม้ภาพรวมของผลงานในแง่ของตัวเลข เอ็นกุนกู จะดูดีกว่า แจ็คสัน แต่หากมองที่ พรีเมียร์ลีก เน้นๆ เขาเป็นรองอย่างชัดเจน ซึ่งถือเป็นสิ่งที่สำคัญ

    แม้แต่การขยับไปเล่นทางริมเส้นเขาก็ยังเป็นรองทั้ง โนนี่ มาดูเอเก้, เจดอน ซานโช่ และ เปโดร เนโต้

    เมื่อมีฟุตบอลโลก 2026 รออยู่ นั่นหมายความว่า เอ็นกุนกู ต้องเร่งสร้างผลงานเพื่อหวังติดทีมชาติฝรั่งเศส โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการลงสนามอย่างสม่ำเสมอเป็นอย่างน้อย

    นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไม เอ็นกุนกู ต้องคิดเรื่องย้ายทีมอย่างจริงจังในช่วงตลาดเดือนมกราคมนี้ แต่ก็ติดตรงที่ เชลซี ดูจะไม่ยอมลดาสอบในเรื่องของค่าตัว

    ไม่ต้องสงสัยว่า เอ็นกุนกู มีศักยภาพอยู่ในตัว และการที่ เชลซี มีเขาอยู่ในทีมย่อมดีกว่าแม้จะไม่ได้ใช้งานในลีกเป็นหลัก เข้ากับคำพูดที่ว่า “มีแล้วไม่ได้ใช้ ดีกว่าใช้แล้วไม่มี”

    ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับตัว เอ็นกุนกู เองแล้วว่าจะสามาแสดงผลงานเอาชนะใจเจ้านายเพื่อแย่งตำแหน่งในทีมได้หรือไม่

    ไม่ว่าจะเป็น ซานโช่ และ เนโต้ ก็ไม่ได้เป็นตัวจริงในช่วงแรกแต่ทั้งคู่ก็พัฒนาขึ้นมา ส่วนในรายของ มาดูเอเก้ แหมจะโดน มาเรสก้า ตำหนิเรื่องของทัศนคติ แต่เขาก็ยังแสดงผลงานออกมายามได้รับโอกาสอยู่เสมอ

    นั่นคือสิ่งที่ เอ็นกุนกู ต้องทำมันเช่นกันหากหวังจะกลับมายึดตำแหน่งตัวจริงของทีมให้ได้ ไม่อย่างนั้นก็เก็บข้าวของและบอกลากันไป