การเดินทางของสองสิงห์

เชลซี มีประวัติศาสตร์อันน่าภาคภูมิใจในการพัฒนาแข้งเยาวชน ดังนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีคู่หูหลายคนก้าวขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่พร้อมกัน ซึ่ง จอช และ ไทริก เป็นรายล่าสุด
ทั้งคู่นั่งข้างกันที่ ค็อบแฮม ในการให้สัมภาษณ์ ถึงช่วงเวลาที่พบกัน และค่อยๆ พัฒนาตัวเองจนได้อยู่ในทีมชาติอังกฤษ ชุดเยาวชนที่เดินทางไปแข่งขันหลายที่ในโลก
"จอช เป็นคนตลกมากและเป็นผู้เล่นระดับท็อป" ไทริก กล่าว "เรารู้จักกันมา 8 ปีแล้ว และ จอช ก็เป็นเพื่อนที่ดีเสมอมาแม้แต่ตอนที่เรายังอายุน้อยเขาก็เป็นคนที่ดีที่จะพูดด้วยนอกเหนือจากเรื่องฟุตบอลเราคุยกันอยู่ทุกวัน"
"ในช่วงที่เติบโตขึ้นมาเราจะไปซ้อมด้วยกันไปยิมด้วยกัน ทำสิ่งต่างๆร่วมกันอย่างการเล่นที่พาวเวอร์ลีก เราทำงานด้วยกันมาตลอด วันนี้เราถึงมานั่งอยู่ด้วยกันที่นี่"
จอช กล่าวเสริมว่า "ไทริก มีส่วนสำคัญอย่างมากในการเดินทางของผมเพราะเราผ่านทุกช่วงวัยมาด้วยกันรวมถึงก้าวขึ้นไปติดทีมชาติอังกฤษด้วย เราอยู่เคียงข้างกันเสมอ"
ด้วยการเดินทางพร้อมกันตั้งแต่เริ่มต้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่พวกเขาจะมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นร่วมกันที่ เชลซี
พวกเขาทั้งคู่อยู่บนมานั่งสำรองเมื่ออีกคนลงเล่นให้กับ "สิงห์บลูส" ครั้งแรก - ในเดือนพฤษภาคม ที่ทีมเจอกับ สเปอร์ส สำหรับ จอช และเกมเยือน เซอร์เว็ตต์ ในเดือนสิงหาคม สำหรับ ไทริก และในช่วงซัมเมอร์สทั้งคู่ก็อยู่ในทีมชุดทัวร์ปรี-ซัซั่นที่ สหรัฐฯ เป็นครั้งแรก และก่อนคริสต์มาสไม่นาน พวกเขาก็ได้เข้ามาอยู่ชุดใหญ่อย่างเป็นทางการพร้อมกัน
จอช เล่าว่า "พวกเราอยู่ในห้องแต่งตัวและพวกเขาก็บอกว่าจะมีการประชุมซึ่งเราไม่รู้ว่ามันจะเป็นเรื่องอะไร จากนั้นพวกเขาก็เรียกเราออกไปด้านหน้าเพื่อบอกว่าตอนนี้เราเป็นส่วนหนึ่งของทีมชุดใหญ่แล้ว!"
"มันเป็นช่วงเวลาที่ดีและผมไม่ได้คาดคิดจริงๆ ผมไม่เคยอยู่ในห้องแต่งตัวของทีมชุดใหญ่มาก่อน ดังนั้นการได้อยู่ในห้องนั้นจึงเป็นเรื่องที่ดีและการได้ร่วมกับทีมชุดใหญ่พร้อมกับ ไทริก ก็เป็นเรื่องที่พิเศษมากๆ"
"ครอบครัวของผมภูมิใจในตัวผมมากและมีความสุขมากๆ ด้วย"
ส่วน ไทริก กล่าวว่า "มันเป็นช่วงเวลาแห่งความภาคภูมิใจ ผมไม่คาดคิดว่ามันจะเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้ ผมมีมีความสุขจริงๆ แม่ผมตกใจมากเมื่อผมบอกเธอเรื่องนี้ และครอบครัวของผมก็มีความสุขไปกับผมด้วย"
เดือนธันวาคม เป็นเดือนที่พิเศษสำหรับทั้งสองคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ จอช เนื่องจากเขาได้สัญญาฉบับใหม่กับสโมสร ลงเล่นตัวจริงชุดใหญ่ครั้งแรกในเกมเยือน อัสตาน่า และจากนั้นก็ได้เล่นในลังอีกครั้งเกมเจอ แชทร็อก โรเวอร์ส
ข่าวดียังคงตามมาเมื่อเข้าสู่ปี 2025 เมื่อ จอช ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจในการลงเล่นตัวจริงศึก พรีเมียร์ลีก ครั้งแรกกับ คริสตัล พาเลซ
"ผมค่อนข้างประหม่าก่อนลงสนามเจอ พาเลซ แต่หลังจากผ่านไป 5 นาที มันก็เหมือนกับเกมอื่นทั่วไปซึ่งมันก็สนุกดี"
เมื่อถูกถามว่าในช่วงเวลาที่ฝันกลายเป็นเป็นจริงแบบนั้น เค้าคงอดใจไม่ไหวที่จะบอกข่าวสำคัญนี้กับ ไท ใช่ไหม จอช พูดพร้อมกับหัวเราะไปด้วยว่า "เปล่า ผมไม่ได้บอก! ไท ส่งข้อความมาหาผมก่อน แต่ผมไม่อยากบอกใคร ดังนั้นผมเลยบอกเขาและส่งข้อความหาเขาหลังจากนั้น"
จอช ได้รับคำชื่นชมมากมายสำหรับแนวทางการเล่นเกมรับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาว่าเขาเพิ่งอายุ 18 ปีเท่านั้น
ไทริก ก็ทำผลงานได้ดีในฤดูกาล 2024/25 เช่นกัน โดยเกมแรกของเขาในการพบ เซอร์เว็ตต์ ตามด้วยการเปิดตัวใน พรีเมียร์ลีก กับ วูล์ฟส์ และปีกวัย 19 ปี ก็ทำ 2 แอสซิสต์ ให้ทีมชุดใหญ่ในเกมที่ชนะ มอร์แคมบ์ 5-0 ในศึก เอฟเอ คัพ
ไทริก อธิบายถึงการลงเล่นตัวสำรองร่วมกับ จอช ในเกมเจอ บาร์โรว์ ว่าเป็นช่วงเวลาที่ "พิเศษ" และรู้สึกขอบคุณที่ได้รับโอกาสมากมายตั้งแต่เริ่มต้นอาชีพค้าแข้ง เช่นเดียวกับ จอช ที่มองว่าตัวเองโชคดีกับการได้รับแรงสนับสนุนจากเพื่อนร่วมทีมรุ่นพี่
จอช กล่าวว่า "ผู้เล่นหลายคนในทีมช่วยผมอย่าง รีซ (เจมส์), ลีวาย (โคลวิลล์) และ โทซิน (อดาราบิโอโย่) น่าจะเป็นกลุ่มคนที่ช่วยผมมากที่สุด"
"ในสนามพวกเขาช่วยผมมากมายรวมถึงนอกสนามด้วย พวกเขาเตือนผมเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ เช่น การไปยิม กันเสริมความแข็งแกร่ง และการรักษามาตรฐานในระดับสูงเอาไว้"
ส่วนของ ไทริก เขาพูดถึงการ สนับสนุนที่ได้รับจาก โนนี่ มาดูเอเก้ โดยเน้นย้ำคำแนะนำของเขาและพูดถึงปีกรุ่นพี่คนนี้ว่าเป็น “แบบอย่างที่ดี”
จอช ยังได้รับประโยชน์จากการสนับสนุนจากแบบอย่างของเขา - ตำนานของ เชลซี อย่าง จอห์น เทอร์รี่ ซึ่งทำงานร่วมกันในอะคาเดมี่ของสโมสร
"เป็นเรื่องที่ดีที่มีแข้งประสบการณ์ระดับนั้นช่วยเหลือเรา - เจที มีคำแนะนำมากมายให้กับเราทั้งในและนอกสนาม"
ประโยชน์จากการซ้อมในทุกวันร่วมกับนักเตะที่ประสบความสำเร็จจากอะคาเดมี่ของสโมสรอย่าง รีซ เจมส์ และ เทรโวห์ ชาโลบาห์ ถือเป็นส่วนสำคัญอย่างมาก
"เป็นเรื่องดีที่พวกเขาอยู่ในทีมและสามารถให้คำแนะนำกับเราได้ เพราะคุณสามารถเห็นได้ว่าพวกเขาเติบโตขึ้นมากแค่ไหนในฐานะผู้เล่น และมันจะเป็นยังไงสำหรับเรา" จอช กล่าว
ไทริก ก็เห็นด้วยโดยเสริมว่า "เป็นเรื่องดีมากที่ได้เห็นพวกเขาอยู่ในทีมชุดใหญ่เมื่อคุณก้าวขึ้นมาจากอะคาเดมี่ เพราะมันแสดงให้เห็นว่าอะไรก็เป็น"
ขณะเดียวกันแรงสนับสนุนจาก เอ็นโซ่ มาเรสก้า ถือเป็นปัจจัยสำคัญต่อความก้าวหน้าของนักเตะทั้งคู่
"เอ็นโซ่ ยอดเยี่ยมมาก เขา พยายามรักษามาตรฐานให้สูงเอาไว้ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นของเราในสนามได้มากเลยทีเดียว" จอช กล่าว
"การมีความสัมพันธ์ที่ดีกับหัวหน้าโค้ชและสมาชิกคนอื่นในทีมสตาฟฟ์ มีส่วนช่วยอย่างมาก ทุกคนล้วนยอดเยี่ยมและถ้าคุณมีคำถามพวกเขาก็พร้อมที่จะตอบและช่วยเหลือคุณ"
ไทริก เสริมว่า “ใช่แล้ว เอ็นโซ่ เป็นผู้จัดการทีมที่ดีมาก เค้าคุยกับผม ให้คำแนะนำและสนับสนุนให้ผมทำงานหนักทุกวันเพื่อคว้าโอกาสเอาไว้ให้ได้"
"นอกสนามซ้อมเขาก็เป็นคนที่ยอดเยี่ยมและคุณสามารถคุยกับเขาได้ทุกเรื่อง"
นักเตะทั้งสองคนอธิบายถึงความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในการก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในวัยเพียง 18 ปีว่าเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อ แต่นั่นไม่ได้ทำให้พวกเขาหยุดที่จะพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นกว่านี้อีก
"ผมแค่ต้องการเดือนหน้าทำงานหนักต่อไปในการซ้อมเพื่อที่จะสร้างความประทับใจให้กับโค้ชและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับโอกาสแสดงสิ่งที่ผมสามารถทำได้ออกมา" ไทริก ตอบเมื่อถูกถามถึงความคาดหวังสำหรับช่วงที่เหลือของฤดูกาลนี้
ขณะที่ จอช กล่าวว่า ”ใช่ ผมเองก็เช่นกัน นั่นคือเป้าหมาย ยังมีอะไรให้ทำอีกมากมายในทุกวัน ดังนั้นหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผมจะได้ลงเล่นมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้และได้โอกาสมากกว่านี้“
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT