จะรุ่งหรือจะร่วง

    ทุกสายตาจับจ้องว่าเขาจะทำผลงานได้ดีแค่ไหน อันที่จริงแล้วมันเป็นเรื่องของ ยูไนเต็ด กับ แรชฟอร์ด มากกว่าที่คนจะโฟกัสที่ วิลล่า เพราะในตอนนี้ผลงานของ "ปีศาจแดง" ก็ยังไม่ได้กลับมาอยู่ในเส้นทางที่ดีแต่อย่างใด

    ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเราได้เห็นนักเตะอย่าง โรเมลู ลูกากู, อังเคล ดิ มาเรีย, เมมฟิส เดอปาย และอีกมากมายที่ย้ายออกจากทีมและไปโชว์ฟอร์มอย่างโดดเด่นกับสโมสรอื่น

    วันนี้ลองไปดูอดีตดาวเด่นของทีมที่เพิ่งแยกทางกับสโมสร และกำลังไปได้สวยอยู่ในเวลานี้ โดยเน้นที่นักเตะที่อยู่กับทีมมายาวนานหรือเป็นเด็กในอะคาเดมี่แบบเดียวกันกับ มาร์คัส แรชฟอร์ด

ดาบิด เด เคอา - ฟิออเรนติน่า

    หนึ่งในนักเตะชุดคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก หนล่าสุดของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2013 สมัยที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คุมทีม เจ้าของรางวัลถุงมือทองคำ 2 สมัย, นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสร 5 สมัย และติดทีมยอดเยี่ยมแห่งปี พรีเมียร์ลีก 5 สมัย

    ความดีที่สะสมมานั้นกลับถูก เอริก เทน ฮาก หมางเมิน พร้อมกับหันไปสร้างขุมกำลังใหม่ของตัวเองด้วยการดึง อองเดร โอนาน่า เข้ามา ซึ่งเหตุผลก็คือการเล่นบอลกับเท้าได้ดีกว่า แต่ก็อยากที่เห็น เรื่องของการใช้มือก็ห่วยกว่าเช่นกัน

    มือกาสชาวสเปน จำต้องเก็บข้าวของออกจากสโมสรหลังหมดสัญญาเมื่อซัมเมอร์ 2023 และไร้สโมสรนาน 1 ฤดูกาลเต็ม และในที่สุดก็ได้ ฟิออเรนติน่า ที่คว้าไปร่วมทีม ซึ่งหลังจากที่ช่วงเริ่มต้นยังสลับลงสนามกับ ปิเอโตร แตร์ราชชาโน่ แต่ตอนนี้ยึดมือหนึ่งไปเรียบร้อยด้วยผลงานที่น่าประทับใจ

    เชื่อว่าตอนนี้แฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่น้อยยังคงคิดถึงและเฝ้าติดตามผลงานอยู่เสมอ

คริส สมอลลิ่ง - โรม่า, อัล ฟายฮา

    อีกหนึ่งขุนพลที่ได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก ครั้งล่าสุดกับสโมสร ค้าแข้งกับทีมนานถึง 1 ทศวรรษ ลงเล่นไปมากกว่า 300 เกม ได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก 2 สมัย, เอฟเอ คัพ และ ยูโรปา ลีก

    หลังกลายเป็นแค่ตัวสำรองในยุคของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เจ้าตัวไปเล่นกับ โรม่า ด้วยสัญญายืมตัว และเป็นกำลังสัญคัญให้กับทัพ "หมาป่า" ในทันที จนทีมดังแห่ง อิตาลี จ่ายเงินซื้อขาดที่ 15 ล้านยูโร ในปีถัดมา

    น่าเสียดายที่ผลงานอันน่าประทับใจในถิ่น สตาดิโอ โอลิมปิโก กลับไม่ทำให้เจ้าตัวได้โอกาสกลับไปติดทีมชาติอังกฤษ อีกครั้ง โดยปัจจุบันในวัย 35 ปี เจ้าตัวไปโลดแล่นที่ ซาอุดิอาระเบีย กับ อัล ฟายฮา

สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ - นาโปลี

    น่าจะเป็นผู้เล่นที่แฟนบอลเสียดายมากที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมาเลยที่ต้องเสียเขาออกจากทีมไปให้กับ นาโปลี ในราคาเพียง 25 ล้านปอนด์เท่านั้น

    เมื่อดูผลงานกับต้นสังกัดที่กดไปแล้วถึง 6 ประตูกับ 4 แอสซิสต์จากการลงเล่ง 21 เกม ใน กัลโช่ เซเรีย อา ช่วยทีมนำเป็นจ่าฝูงของตารางมีโอกาสก้าวไปคว้าแชมป์ได้เพราะไม่มีบอลยุโรปมารบกวน

    ยิ่งเมื่อย้อนกลับไปดูว่า สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ อยู่กับสโมสรมาตั้งแต่ 5 ขวบ แต่กลับโดนปล่อยออกไปทั้งที่ผลงานส่วนตัวก็ยังทำได้ดีด้วย เรื่องนี้ต้องโยนความผิดให้ เอริก เทน ฮาก ไปเต็มๆ

แองเจล โกเมส - ลีลล์

    หนุ่มน้อยจาก ลอนดอนมาอยู่ในรั้ว แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตั้งแต่อายุเพียง 6 ปี เท่านั้น และผลงานสมัยอยู่ในทีมเยาวชน จนก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ เจ้าตัวติดทีมชาติอังกฤษ มาทุกชุดทุกปีเตั้งแต่ยู-16, 17, 18, 19, 20, 21

    แต่น่าเสียดายที่ช่วงเวลากับ "ปีศาจแดง" เขากลับไปลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก แค่ 5 เกมเท่านั้นนับตั้งแต่ขึ้นมาทีมชุดใหญ่ในปี 2017 และอยู่กับทีมจนถึงปี 2020 กระทั้งตัดสินใจย้ายไป ลีลล์ ใน ฝรั่งเศส

    ที่ ลีก เอิง เขาทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจในการสร้างสรรค์เกมให้กับสโมสร จนได้มาติดทีมชาติอังกฤษ ชุดใหญ่และเปิดตัวพร้อมคำชื่นชมอย่างมากในเวที ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ที่มี ลี คาร์สลี่ย์ คุมทีมชั่วคราว

แอนโธนี่ เอลังก้า - น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์

    แฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แทบรอไม่ไหวที่จะได้เห็น แอนโธนี่ เอลังก้า ขึ้นมาโชว์ฟอร์มในทีมชุดใหญ่ หลังได้เห็นเจ้าหนูรายนี้อยู่กับทีมมาตั้งแต่อายุ 11 ปี

    แอนโธนี่ เอลังก้า ได้ลงเล่นในช่วงท้ายฤดูกาล 2020/21 แต่เมื่อเข้าสู่ฤดูกาลใหม่เจ้าตัวก็ถูกจำกัดบทบาทที่ตัวสำรองเป็นส่วนใหญ่เท่านั้น และหลังผ่าน 2 ฤดูกาลเต็มกับสโมสร เจ้าตัวย้ายไปอยู่กับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ด้วยค่าตัว 15 ล้านปอนด์

    แข้งวัย 22 ปี พลาดแค่ 2 เกมใน พรีเมียร์ลีก เมื่อฤดูกาลที่แล้ว และลงสนามครบทุกเกมในซีซั่นนี้ ช่วยทีมรั้งอันดับที่ 3 ในตารางคะแนนเวลานี้อย่างยอดเยี่ยม ลุ้นพื้นที่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เต็มตัว

    ถ้าจะบอกว่าเขาคือผู้เล่นที่ทำผลงานได้ดีกว่าแนวรุกของ แมนฯ ยูไนเต็ด ทุกคนก็คงไม่เกินเลย

คริสเตียโน่ โรนัลโด้

    หลังประสบความสพเร็จอย่างยิ่งใหญ่กับสโมสรพร้อมกับก้าวขึ้นมาเป็นแข้งเบอร์ต้นๆ ของโลก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็ย้ายไป เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัวแพงสุดในโลกเมื่อปี 2009 เพื่อก้าวไปอีกขั้น และอยู่กับ "ราชันชุดขาว" 9 ปีก่อนไปอยู่ ยูเวนตุส อีก 3 ปี

    และในปี 2021 เจ้าตัวก็กลับมาอยู่กับ "ปีศาจแดง" อีกครั้ง แทนที่จะไปอยู่กับคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งเอาจริงๆ ผลงานในภาพรวมปีแรกไม่ขี้เหร่เลยกัย 24 ประตูจาก 38 เกม

    แต่การมาของ เอริก เทน ฮาก (อีกแล้ว) ก็ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไป กระทั่งฟางเส้นสุดท้ายมาขาดลงเมื่อเข้าตัวให้สัมภาษณ์กับ เพียร์ซ มอร์แกน ที่โจมตีนายใหญ่ชาวเนเธอร์แลนด์ อย่างรุนแรงจนสุดท้ายย้ายไป อัล นาสเซอร์ ใน ซาอุดิอาระเบีย

    การย้ายไปเล่นที่ ซาอุดิ โปรลีก ถือเป็นการปฏิวัติฟุตบอลแดนเศรษฐีน้ำทันให้เป็นที่สนใจไปทั่วโลก บวกกับพลังเงินที่ดึงดูดสตาร์จากยุโรปไปค้าแข้งตามกันอีกมากมาย

โบนัส : อันโตนี่ - เรอัล เบติส

    แม้จะเพิ่งผ่านไปแค่ 2 เกมกับสโมสรใหม่แต่ อันโตนี่ ก็กลายเป็นขวัญใจของแฟนๆ ไปเป็นที่เรียบร้อย หลังเปิดตัวเกมแรกที่ทีมเสมอ แอธเลติก บิลเบา 2-2 ด้วยการเป็น "แมน ออฟ เดอะ แม็ตช์" ตามด้วยถัดมาที่ทำประตูได้ในเกมกับ เซลต้า บีโก้ และอรกหนึ่งเม็ดใน ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก รวมลงเล่น 3 เกมทำไปแลว้ 2 ประตู

    ตลอดเวลา 2 ปีครึ่งในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด การเซ็นสัญญามูลค่า 85 ล้านปอนด์ เป็นหนึ่งในการย้ายทีมที่โดนวิจารณ์มากที่สุดของสโมสร จากผลงานอันน่าผิดหวังทำได้แค่ 5 ประตูจาก 62 เกมใน พรีเมียร์ลีก

    ด้วยผลงานการเปิดตัวกับ เรอัล เบติส แฟนบอล ยูไนเต็ด บางคนถึงกับโพสต์ข้อความผ่านทาง X ว่า "บางที ยูไนเต็ด นี่แหละที่มีปัญหา" ซึ่งมันก็คงจะจริงนั่นแหละ