มาเคด้า ผู้เป็นได้แค่ฮีโร่ไม่ใช่ตำนาน

    ชื่อของเจ้าหนูวัย 17 ปี กลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก และเขาก็ยังทำประตูใส่ ซันเดอร์แลนด์ ได้อีกในสัปดาห์ถัดมา ขณะที่ "ปีศาจแดง" จบซีซั่นด้วยการเป็นแชมป์ พรีเมียร์ลีก ด้วยการมีแต้มเหนือ ลิเวอร์พูล 4 คะแนน

    น่าเสียดายที่เขาไม่อาจที่จะต่อยอดและก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักของสโมสร สุดท้ายถูกปลายให้หลายสโมสรยืมตัวทั้ง ซามพ์โดเรีย, ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส, สตุ๊ตการ์ท, ดอนคาสเตอร์ และ เบอร์มิงแฮม ซึ่งเจ้าตัวเผยว่าการโดนปล่อยยืมตัวและการขาดวามพยายามทำให้เขาเป็นได้แค่ "ฮีโร่" มากกว่าที่จะเป็น "ตำนาน"

    "เซอร์ อเล็กซ์ บอกกับทุกคนว่าผมเป็นนักเตะที่จบสกอร์ได้ดีที่สุดในสโมสร" มาเคด้า เล่าความหลัง แม้ว่าในช่วงเวลานั้นทีมจะมียอดแข้งทั้ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เวย์น รูนี่ย์, ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ และ คาร์ลอส เตเวซ ที่ล้วนอยู่ในช่วงพีคของอาชีพ

    "ผมประหลาดใจมาก นี่คือทีมที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยชื่อเสียงและคุณภาพของผู้เล่น - เขาคงมีความรู้สึกที่พิเศษบางอย่างกับผม และแน่นอนว่าเขาหวังว่าทุกอย่างตะแตกต่างไปจากเดิมสำหรับตัวผม"

    "ความันของผมคือการเดินหน้าต่อไปในแบบเดียวกับการเริ่มต้น แต่ผมรู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้ ไม่ได้มีกองหน้าแค่คนเดียวที่อยู่ข้างหน้าผมแต่มีถึง 4 คน ที่คุณภาพคับแก้ว มีความสามารถและประวัติศาสตร์มากมาย"

    "คริสเตียโน่ โรนัลโด้ คือไอดอลของผม ทุกอย่างไม่เคยพอสำหรับเขาเลย โรนัลโด้ ซ้อมข้างๆ ผม, ว่ายน้ำ 1 ชั่วโมง แต่ในวัย 18 ปีผมไม่เข้าใจถึงแนวคิดที่ยิ่งใหญ่นี้ ผมทำตามที่บอก แต่ไม่ได้มองหาการทำอะไรเพิ่มเติม ผมไม่เคยเข้าถึงศักยภาพสูงสุดของตัวเอง ไม่เคยเลย"

    "เส้นทางอาชีพกับ ยูไนเต็ด ควรจะมีอะไรมากกว่านี้ คุณมีโอกาส แต่ผมไม่ใช่มัน ความเสียใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือผมไม่ได้โฟกัสอย่างเต็มที่หรือทำงานหนักเท่าที่ควร ฟุตบอลเป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่ใช่ความเย่อหยิ่ง ผมแค่ไม่รู้ - เซอร์ อเล็กซ์ ชอบผมมากในฐานะนักเตะแต่ผมไม่ได้ให้อะไรที่พิเศษกับเขาที่จะให้ผมได้รับโอกาสมากกว่านี้"

    "คุณต้องทุ่มเท 200 เปอร์เซ็นต์ ในทุกวันเพื่ออยู่ที่ ยูไนเต็ด ต่อไป เพราะพวกเขาสามารถคว้าตัวนักเตะคนไหนก็ได้ที่ต้องการ ผมมีความสามารถแต่คุณต้องทุ่มเทมากกว่านี้เพื่อที่จะอยู่กับทีมต่อไป"

    "ตอนนี้ผมเข้าใจแล้ว ผมแก่แล้ว"

    มาเคด้า ออกจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ในปี 2014 โดยย้ายไปร่วมงานกับ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา อดีตโค้ชอะคาเดมี่ที่ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ แต่จุดที่น่าสนใจคือเมื่อเขาต้องไร้สโมสรนานถึง 4 เดือนในปี 2016 ตอนแรกทางกับ คาร์ดิฟฟ์ ในเดือนสิงหาคม ก่อนจะได้ไปอยู่กับ โนวาร่า ในเดือนธันวาคม

    หลังจากนั้นเขาไปเล่นใน อิตาลี, กรีซ, ตุรกี และ ไซปรัส กระทั่งกลับไปที่ กรีซ อีกครั้ง ในเดือนกันยายน กับ อาสเตราส และอยู่มาจนถึงปัจจุบัน แน่นอนว่ามันแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงจากผู้เล่นที่เคยอยู่ในทีมเดียวกับซูเปอร์สตาร์ของโลก

    ด้วยผลงาน 6 ประตูจาก 18 เกมในลีก เขาทำผลงานได้เท่ากับผู้ทำประตูสูงสุดของ ยูไนเต็ด อย่าง บรูโน่ แฟร์นันด์ส และ อาหมัด ดิยัลโล่ ใน พรีเมียร์ลีก และดีกว่าทั้ง โจชัว เซิร์กเซ่ (3 ประตู) และ ราสมุส ฮอยลุนด์ (2 ประตู)

    เมื่อถูกถามว่าเขาสามารถเป็นกองหน้าตัวจริงของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปัจจุบันได้รึเปล่าทาง มาเคด้า ก็แสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาว่า "ตอนนี้เหรอ? ผมอายุ 33 ปีแล้ว ผมคิดว่าผมยังเล่นที่นั่นได้, ใช่ ส่วนจะทำได้ดีกว่ารึเปล่า อันนี้ผมไม่รู้"

    "ผมต้องบอกว่าตอนนี้มันไม่ง่ายเลยที่จะเล่นให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ผมคิดว่ายังเล่นที่นั่นได้ - ส่วนตัวแล้วผมชอบ โจชัว เซิร์กเซ่ และ ฮอยลุนด์ สโมสรกำลังอยู่ภายใต้แรงกดดัน สถานการณ์ต่างๆ ไม่ง่ายสำหรับกองหน้าคนไหนก็ตาม ต่อให้คุณจะมี โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ลงเล่นก็ตาม"

    "แต่ในฐานะนักเตะ ผมมองเห็นตัวเองลงเล่นที่นั่นได้ในตอนนี้ สัก 2-3 เกมนะถ้า รูเบน อาโมริม ต้องการผม! ผมรู้จัก พรีเมียร์ลีก มันยากมาก แต่ผมสามารถเล่นที่นั่นได้ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ?"

    ในมุมมองของ มาเคด้า ชี้ว่าไม่มีผู้จัดการทีมคนไหน ไม่แม้แต่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่จะสามารถพาทีมชุดปัจจุบันที่มีผู้นำเพียง 3 คนไปถึงตำแหน่งแชมป์ได้ แต่เขาเชื่อว่า รูเบน อาโมริม สามารถทีมไปถึงจุดนั้นได้ในอีก 2-3 ปีภายใต้เงื่อนไข 3 ประการ"

    "ผมเชื่อว่าเขาทำได้, อาโมริม มีรอนเนคชั่นที่พิเศษ เขาเป็นหนึ่งในโค้ชที่ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สู้เพื่อทุกอย่างได้ - ผมชอบ อาโมริม แม้ว่าคุณจะไมได้เห็นผลลัพธ์ บางทีพวกเขาอาจจะเล่นฟุตบอลแย่ก็ได้ มันยากเพราะสโมสรประสบความสำเร็จอย่างสูง คุณต้องการผู้เล่นที่ยอดเยี่ยม"

    "ในตอนนี้ ยูไนเต็ด ไม่มีทีมที่จะคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้ พวกเขามีนักเตะดีๆ หลายคน แต่ไม่ว่าคุณจะเอาโค้ชคนไหนก็ตามเข้ามา    มันจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก ผู้นำในทีมไม่กี่คนเท่านั้นอย่าง บรูโน่, แม็กไกวร์, ลีซานโดร แต่มันไม่เพียงพอ บางดีคนอื่นๆ อาจจะยังไม่พร้อมที่จะเล่นให้กับสโมสรนี้"

    "อาโมริม ต้องเก็บรักษามรดกและประวัติศาสตร์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอาไว้ด้วยการสร้างทีมใหม่เหมือนเมื่อก่อนด้วยนักเตะดาวรุ่ง จากนั้นผมเชื่อว่าลมจะเปลี่ยนทิศ"

    "ถ้าพวกเขาไว้วางใจ อาโมริม และให้เวลากับเขา ดึงนักเตะที่เหมาะสมเข้ามาและเปลี่ยนบางสิ่งในสโมสรอย่างเช่นทัศนคติแย่ๆ ผมเชื่อว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะกลับมาได้ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า"