คู่หูจากอเมริกาใต้

20 เกม คือจำนวนนัดที่ทั้งคู่จับคู่กันในแดนกลางเกม พรีเมียร์ลีก ให้กับ เชลซี ในซีซั่นนี้ โดยที่ โคล พาลเมอร์ จะได้ขึ้นไปเล่นเกมรุกอย่างอิสระมากขึ้น โดยมีตัวรุกริมเส้นอีก 2 คน และกองหน้าตัเป้วอีก 1 คนแล้วแต่ว่าจะเป็นใครได้ลงทำหน้าที่
การประสานงานของคู่นี้ดูจากสไตล์การเล่นแล้วต้องบอกว่าเป็นการผสมผสานที่ลงตัวไใม่น้อย โดยที่ มอนเซส ไกเซโด้ เน้นหนักไปที่การตัดเกมและอยู่หน้าแผงหลังเป็นหลัก ส่วน เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ คอยลงมารับบอลและเอาบอลไปข้างหน้ารวมถึงการดันสูงขึ้นไปช่วยในเกมรุกด้วย
คนหนึ่งดุดันแข็งแกร่ง อีกคนสร้างสรรค์มีลูกบุ๋น
ยิ่งทั้งสองคนมาจาก อเมริกาใต้ เหมือนกัน ยิ่งทำให้การสื่อสารเป็นเรื่องที่ไม่ยากเลย
"เราสองคนมีความสุขมากที่ได้เล่นด้วยกัน" ไกเซโด้ กล่าว "มันง่ายมากกว่าเมื่อคุณพูดภาษาเดียวกัน ผมเขื่อว่าเราสามารถทำให้สิ่งต่างๆ ง่ายขึ้นได้ เขาทำอะไรเพื่อผมมากมายพอๆ กับที่ผมทำเพื่อเขา วิธีที่เราสู้เพื่อเอาบอลมากในทุกลูก วิธีที่เราสื่อสารกัน"
เอ็นโซ่ เห็นด้วยกับคำพูดของ ไกเซโด้ โดยเสริมว่า "เราพยายามช่วยทีมอยู่เสมอเช่นกันนับตั้งเราร่วมงานกันตรงกลาง เราปักหลักอยู่แดนกลางของสนาม เราเห็นทุกคน เราจัดการทุกอย่างและทำได้ดี เราพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อทีมเสมอและช่วยเพื่อนร่วมทีมของเรา"
ทั้ง มาเรสก้า และ ไกเซโด้ ต่างก็ได้รับประโยชน์จากแนวทางการเล่นของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ในซีซั่นนี้ แน่นอนว่าสวนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะตัวนายใหญ่ชาวอิตาเลี่ยน เล่นในตำแหน่งเดียวกันสมัยค้าแข้ง ดังนั้นเขาจึงมีคำแนะนำในเชิงลึกและการเล่นเกี่ยวกับตำแหน่งนั้นได้
"เขา (มาเรสก้า) ฉลาดมากกับการทำงานในแต่ละเกม" ไกเซโด้ กล่าว "เขารู้ว่าถ้าเราทำในสิ่งที่พวกเขาบอก มันจะเป็นผลดีกับเราที่สุด เราทุกคนมีความสุขที่มีเขาอยู่ที่นี่และทำงานร่วมกันในทุกวัน"
"พวกเรายังทำงานหนักเพื่อให้ผลงานในสนามออกมาดี และทำให้เขามีความสุขด้วยเช่นกัน เพราะเขาทุ่มเทในทุกการซ้อมและในทุกเกมการแข่งขัน"
หนึ่งในการปรับเปลี่ยนในการเล่นของ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ คือการที่เขาได้รับมอบหมายให้ได้ขยับขึ้นไปสูงขึ้นในจังวะที่ทีมครองบอลและเปิดเกมบุกใส่คู่แข่งเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำประตูมากกว่านี้สำหรับทีม และมันก็ผลิดอกออกผลมาเมื่อสตาร์ทีมชาติอาร์เจนติน่า ทำไป 4 ประตูกับ 8 แอสซิสต์ในทุกรายการซีซั่นนี้
"อิทธิพลของเขาที่มีต่อตำแหน่งที่ผมเล่นนั้นคือในแง่ของการเล่นเกมรุก" เอ็นโซ่ กล่าว "ความจริงคือผมเติบโตขึ้นมากกับการทำงานร่วมกับเขา เขามอบอะไรมากมายให้กับผมเพื่อให้ผมเติบโตและเข้าใจการเล่นในตำแหน่งนี้"
"อย่างที่เราพูดไว้ทั้ง มอย และตัวผมเอง เขาชัดเจนอย่างมากเมื่อต้องให้คำแนะนำในการเตรียมตัวก่อนเกม การซ้อมดำเนินไปอย่างยอดเยี่ยมและมีความเรียกร้องอย่างสูงซึ่งเราชอบแบบนั้น"
"เรารู้สึกสบายใจอย่างมากกับ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ผมคิดว่าเขาสอนเราทั้งทีม เพื่อร่วมทีมแต่ละคนรวมถึงเราล้วนเติบโตมากขึ้นในช่วงเวลาที่อยู่กับเขา ซึ่งมันเป็นช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น เราอยู่กับสโมสรอย่าง เชลซี ซึ่งเป็นทีมใหญ่มากและยอดเยี่ยมมากด้วย - สโมสรต้องการอย่างสูงจากเราในทุกวัน และเราก็มีความสุขที่มีเขา"
ถึงตอนนี้ เชลซี อยู่ในตำแหน่งที่ดีในการคว้าท็อปโฟร์ของ พรีเมียร์ลีก เพื่อกลับไปสู้ในเวทีใหญ่อย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีกครั้ง ส่วนในบอลถ้วยแม้จะตกรอบทั้ง เอฟเอ คัพ และ คาราบาว คัพ ไปแล้ว แต่พวกเขายังมีถ้วยยุโรปใบเล็กอย่าง ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก ที่ปัจจุบันอยู่ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดที่ 2 ในการเจอกับ โคเปนเฮเก้น หลังเกมแรกบุกชนะที่ เดนมาร์ก มาแล้ว 2-1 และพวกเขาก็ถูกยกเป็นเต็งที่ 1 ที่จะคว้าแชมป์ไปครอง
รอดูกันกับช่วงเวลาที่เหลือของซีซั่นนี้ว่าจะจบลงที่ตรงไหน
คอลัมน์กีฬาบทความกีฬาต่างๆโดยนักวิเคราะห์ GURUชั้นนำของไทย มีให้ท่านได้เสพทุกวันที่เว็บไซต์ TH SPORT