จาก ลา มาเซีย สู่ เดอะ บริดจ์

    มาร์ก เติบโตมาในเขตชานเมืองขอ งบาร์เซโลน่า และหลงใหลในฟุตบอลมาโดยตลอด ภาพของสนาม คัมป์ นู, เมืองที่หลงใหลกับสโมสรแห่งนี้ด้วยสีแดงและสีน้ำเงินที่เห็นอยู่เต็มถนน และมีความเชื่อมโยงกับชาวท้องถิ่นใน กาตาลัน สิ่งนี้เป็นความผูกพันที่ทำให้ กูกูเรย่า หมกมุ่นกับฟุตบอลเท่านั้น

    พูดง่ายๆ ก็คือฟุตบอลเป็นกิจกรรมที่เด็กชายจากเมืองอาเลย่า ซึ่งอยู่ห่างออกไป 20 นาทีทางชายฝั่งชื่นชอบ

    ลา มาเซีย, อะคาเดมี่ อันโด่งดังของ บาร์เซโลน่า กลายเป็นบ้านหลังที่สองของแข้งชาวสเปน เนื่องจากเขาได้ซึมซับปรัชญาและดีเอ็นเอของสโมสร เขาเติบโตมากับการดูสุดยอดแนวรับอย่าง การ์เลส ปูโยล และสุดยอดผู้เล่นในแนวรุกอย่าง ชาบี และ อันเดรส อีเนียสต้า ซึ่งทำให้ได้รับความรู้ด้านฟุตบอลแบบใกล้ชิดในแบบที่คนอื่นได้แค่ฝัน

    "มันเป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่ดีที่สุดที่ผมได้สัมผัสเมื่อได้อยู่ที่นั่นและได้ลงเล่นร่วมกับนักเตะที่น่าเหลือเชื่อมากมาย" มาร์ก รำลึกถึงวันที่เป็นนักเตะเยาวชนของ บาร์เซโลน่า "มันเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมมากเมื่อครั้งเป็นเด็ก ผมได้เรียนรู้ปรัชญาของพวกเขาและทุกสิ่งทุกอย่าง และตอนนี้ผมคิดว่าผมอยู่ที่นี่เพราะผมเคยเล่นที่นั่นมาก่อน ผมได้เรียนรู้อะไรมากมายที่นั่น"

    โค้ชและผู้เล่นของ ลา มาเซีย ให้ความสำคัญเพียงเรื่องเดียว นั่นคือการสอนโดยยึดเอาองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของเกม นั่นก็คือฟุตบอล

    "ผมได้เรียนรู้ในเรื่องการเล่นกับลูกบอล ทุกอย่างที่คุณได้เรียนรู้ล้วนเป็นแนวคิดเดียวกัน นั่นคือการเล่นกับลูกบอล ผมอยู่ที่นั่นตอนที่ บาร์เซโลน่า กำลังอยู่ในช่วงที่ประสบความสำเร็จมากมายด้วยผู้เล่นชั้นนำเต็มที่ และพวกเขาก็มีรูปแบบการเล่นที่เฉพาะเจาะจงมาก"

    "ผมได้เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่างเกี่ยวกับการครองบอล และผมสามารถนำสิ่งนั้นมาใช้ในเส้นาทางอาชีพได้ในวันนี้ ผมมีความสุขมากกับการเดินทางที่ ลา มาเซีย และ บาร์เซโลน่า เพราะพวกเขาสอนอะไรผมหลายอย่าง"

    อย่างไรก็ตาม การเดินทางครั้งนั้นทำให้เขาต้องก้าวข้ามความสบายที่คุ้นเคยในบ้านเกิด ซึ่งนำเขาไปสู่ความเข้มข้นและเวทีที่ยิ่งใหญ่อย่าง พรีเมียร์ลีก แต่แข้งวัย 26 ปี ยอมรับว่าในตอนแรกนั้นเขาต้องดิ้นรนอย่างหนักเพื่อปรับตัวให้เข้ากับความซับซ้อนของวงการฟุตบอลอังกฤษ

    "ความแข็งแกร่งและความเร็วของเกมนั้นแตกต่างจากสเปนมาก" ผมจำได้ว่าผมลงเล่นเกมแรกใน พรีเมียร์ลีก เจอกับ เบรนท์ฟอร์ด ที่สนามของพวกเขาและมันยากมากสำหรับผม เราคว้าชัยชนะแต่ผมจบเกมด้วยความเศร้าและโกรธเพราะผมรู้สึกว่าตัวเองเล่นได้แย่มาก"

    "เพราะนี่คือลีกที่เร็ว คุณต้องคิดให้เร็วและแข็งแกร่งขึ้นกว่านี้ นั่นคือความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ระหว่าง พรีเมียร์ลีก กับ ลา ลีกา"

    นั่นถือเป็นบททดสอบแคแร็กเตอร์และความมุ่งมั่นของ มาร์ก, ในทางกลับกัน ฟูล-แบ็ค รายนี้ก็ได้ฝึกฝีมือและมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาความแข็งแกร่งและการตัดสินใจของตัวเอง โดยค่อยๆ ค้นพบจังหวะและความมั่นใจในลีกสูงสุดของอังกฤษ

    "ผมต้องทำงานหนักและไปยิมบ่อยมาก มีช่วงเวลาที่ยากลำบากซึ่งผมได้เรียนรู้อะไรมากมาย สิ่งหนึ่งที่ผมได้เรียนรู้ก็คือไม่สำคัญว่าคุณจะเล่นได้ดีหรือแย่ คุณก็คือผู้เล่นคนเดิม ผมยังใช้มันมาจนถึงทุกวันนี้ คุณไม่ใช่ผู้เล่นที่แย่ที่สุดและคุณไม่ใช่ผู้เล่นที่ดีที่สุด"

    ความปรารถนาที่จะไม่ยอมแพ้ทำให้เขาประสบความสำเร็จเมื่อ มาร์ก ได้ทำให้ความฝันของเขากลายเป็นจริงผ่านการทำงานหนักด้วยการย้ายไปอยู่กับ "สิงห์บลูส์" เมื่อหวนคิดถึงช่วงเวลาสองปีครึ่งที่เดอะบริดจ์  มาร์ก มีความทรงจำพิเศษสองเรื่องที่อยู่ในใจ

    "ผมอยากจะบอกว่านี่การเปิดตัวของผม - มันเป็นช่วงเวลาที่ดี และผมต่อสู้อย่างหนักเพื่อเล่นให้กับสโมสรใหญ่ และ เชลซี ก็มอบโอกาสนี้ให้กับผม"

    "ผมยังต้องบอกว่าเกมกับ ดอร์ทมุนด์ ที่เราชนะ 2-0 ใน แชมเปี้ยนส์ ลีกที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ด้วย จำได้ว่าผมต้องออกจากทีมไป 3-4 เกมก่อนหน้า แต่แล้วผู้จัดการทีมก็ส่งผมลงเล่นในเกมนั้น และผมก็เล่นได้ดีมาก และทีมก็ชนะ มันเป็นช่วงเวลาที่ดีในเส้นทางอาชีพของผม"

    ในฤดูกาลนี้ มาร์ก พยายามพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น นั่นทำเขามีสถิติการทำประตูที่ยอดเยี่ยม โดยทั้ง 4 ประตูที่เขาทำได้ใน พรีเมียร์ลีก ให้ทีมเกิดขึ้นในฤดูกาลนี้ทั้งหมด โดย รีซ เจมส์ เป็นกองหลังคนล่าสุดที่ยิงประตูได้มากกว่าในฤดูกาลเดียวให้กับสโมสรในฤดูกาล 2021/22

    ตัวเลขดังกล่าวถือเป็นสถิติส่วนตัวของ มาร์ก ที่ทำประตูได้มากที่สุดในหนึ่งฤดูกาล ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาภูมิใจมาก

    "สิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกว่าสามารถพัฒนาได้คือศักยภาพในการเล่นในพื้นที่สุดท้าย ซึ่งก็คือการยิงประตูและแอสซิสต์ได้มากขึ้น ผมต้องบอกว่าในฤดูกาลนี้ผมมีโอกาสยิงประตูหลายครั้ง ผมมีความสุขมาก เพราะผมรู้สึกดีมาก และผมสามารถช่วยทีมได้"

    "ผมพยายามทำผลงานให้ดีที่สุดเพื่อทีมและทุ่มเททุกอย่างในสนามเพื่อทีมเสมอ ผมพยายามคว้าชัยชนะเสมอ ผมคิดว่านี่คือสิ่งที่ดีที่สุดที่ผมมีในฐานะนักเตะ ตอนนี้ผมกลายเป็นจอมทำประตูไปแล้วด้วยซ้ำ! หวังว่าผมจะยิงประตูได้มากกว่านี้อีกมากมาย และผมก็มีความสุขมาก"