มองถึงซีซั่นหน้า

    ตำแหน่งที่ทีมจะต้องมีการเสริมอย่างที่สุดคือริมเส้นเมื่อ มิไคโล มูดริค กำลังมีปัญหาเรื่องการใช้สารกระตุ้นและโดนแบนยาว สร้างความเสียหายหนักให้กับสโมสร ไม่ใช่แค่ค่าตัวระดับ 73 ล้านปอนด์ที่จ่ายไปตอนดึงมาร่วมทีม ยังมีค่าจ้าง 5.2 ล้านปอนด์ต่อฤดูกาลด้วย

    ตามกฎฟุตบอลแล้ว มูดริค อาจจะโดนแบนยาวถึง 4 ปี ภายใต้กฎต่อต้านการใช้สารกระตุ้นโลก นั่นทำให้ฝั่งทีมงานพยายามวิ่งเต้นด้วยการให้ทนายที่ช่วย ปอล ป็อกบา มาช่วยในเคสของเขาด้วย

    ในขณะที่ เจดอน ซานโช่ น่าจะไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า และทีมคงยอมจ่าย 5 ล้านปอนด์และส่งตัวคืนกลับไปให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

    ทีมมี โนนี่ มาดูเอเก้, เปโดร เนโต้ และ ไทริก จอร์จ ดาวรุ่งที่ดูมีความหวังในการก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลัก ส่วน โคล พาล์มเมอร์ ดูจะเล่นตรงกลางมากกว่าและขยับออกไปทางริมเส้นเป็นบางโอกาส

    แน่นอนว่านั่นไม่เพียงพอ เมื่อมองว่าทีมต้องลงเล่นในหลายรายการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการยกทีมให้ขึ้นมาลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก อีกครั้ง และเกมในระยะยาวนี่แหละขุมกำลังถือเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อถึงช่วงที่โปรแกรมอัดแน่น

    ในรายของ คริสโตเฟอร์ เอ็นกุนกู ที่เคยมีข่าวกับ บาเยิร์น มิวนิค เมื่อเดือนมกราคม ยังคงมีโอกาสที่จะถูกย้ายทีมเช่นกัน เพราะดูแล้วเจ้าตัวคงยากที่จะปรับตัวกับทีม และเมื่อมีฟุตบอลโลก 2026 รออยู่ในปีหน้า การเป็นตัวสำรองคงไม่ใช่เรื่องดีนักกับโอกาสในการติดทีมชาติฝรั่งเศส

    นักเตะที่ทีมจะได้มาร่วมทีมก็คือ เอสเตวา วิลเลี่ยน หลังจากที่เซ็นสัญญากับมาตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ต้องรอถึงซัมเมอร์ 2025 เพื่อให้แข้งชาวบราซิล อายุเต็ม 18 ปี ก่อน และมีแนวโน้มว่าอาจจะได้อยู่ในทีมชุดใหญ่ในทันทีหากช่วง ปรี-ซีซั่น สร้างความประทับใจให้กับ เอ็นโซ่ มาเรสก้า

    ส่วนอีกแข้งดาวรุ่งอย่าง เคนดรี้ ปาเอซ คาดว่าดาวรุ่งาวเอกวาดอร์วัย 18 ปี จะถูกส่งให้ทีมอื่นยืมตัวในฤดูกาลหน้า แม้ว่าเขาอาจจะได้ลงเล่นในศึกชิงแชมป์สโมสรโลกในช่วงซัมเมอร์นี้ก็ตาม

    นักเตะดาวรุ่งรายนี้ได้รับการฝึกซ้อมกับ สตราส์บูร์ก ใน ลีก เอิง ของ เลียม โรเซเนียร์ ขณะที่เขากำลังเตรียมตัวย้ายสู่ยุโรปในช่วงซัมเมอร์ ซึ่ง เชลซี ต้องการช่วยให้ ปาเอซ ปรับตัวเข้ากับชีวิตในยุโรปและวัฒนธรรมการฝึกซ้อมก่อนที่จะย้ายมาร่วมทีมอย่างถาวร

    แต่แหล่งข่าวระบุว่าไม่มีการรับประกันว่าเขาจะไปร่วมทีม สตราสบูร์ก ในฤดูกาลหน้ารึเปล่า แม้ว่าจะดูเหมือนว่ามีโอกาสเกิดขึ้นก็ตาม

เป้าหมาย

    แข้งริมเส้นที่ เชลซี กำลังจับตามองคือ เจมี่ กิทเท่นส์จาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ โดยแข้งทีมชาติอังกฤษชุดอายุต่ำกว่า 21 ปี ความกระตือรือร้นที่จะย้ายมาเล่นใน พรีเมียร์ลีก โดยที่ ลิเวอร์พูล ก็จับตาดูเขาอย่างใกล้ชิดเช่นกัน

    แต่ฝั่ง "สิงห์บลูส์" อาจจะอาศัยข้อได้เปรียบตรงนี้พวกเขามีการติดต่อกัน "เสือเหลือง" อยู่แล้วเนื่องจากปล่อน คาร์นี่ ชุคเวเมก้า ให้กับทีมดังของ เยอรมัน ยืมใช้งาน โดยมีรายงานว่าสามารถเซ็นสัญญากับ ชุคเวเมก้า ได้ในราคาต่ำกว่าค่าฉีกสัญญา 40 ล้านปอนด์

    นั่นหมายความว่าข้อตกลงที่เกี่ยวข้องกับ กิทเท่นส์ จะต้องให้มีการเจรจากันซึ่งดูแล้วก็คงไม่ง่ายเพราะเขาถือเป็นตัวหลักของสโมสร

    แต่ ดอร์ทมุนด์ กระตือรือร้นที่ซื้อขาด ชุคเวเมก้า หากพวกเขาผ่านเข้าไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในซีซั่นหน้าได้สำเร็จ

เอ็นโซ่ ย้ายทีม?

    มีการพูดคุยถึงการย้ายออกจากทีมในช่วงซัมเมอร์ของ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ มากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีทีมยักษ์ใหญ่แห่ง สเปน ทั้ง เรอัล มาดริด และ อัตเลติโก มาดริด ต่างก็จับตาเพลย์เมกเกอร์ชาวอาร์เจนติน่า รายนี้อยู่

    สัญญา 8 ปีครึ่งที่ตกลงกันตอนย้ายจาก เบนฟิก้า ด้วยค่าตัว 106 ล้านปอนด์ เมื่อเดือนมกราคม 2023 หมายความว่าทีมมีโอกาสจะต้องเผชิญกับขาดทุนครั้งใหญ่ในการย้ายทีมซึ่งส่งผลถึงปัญหาเกี่ยวกับกฏ PSR  

    ความยาวนานของสัญญาอันยาวนานนี้ทำให้ เชลซี สามารถชำระค่าใช้จ่ายประจำปีของเขาได้ โดยไม่รวมค่าจ้างที่คาดว่าจะอยู่ที่ 9.3-14.5 ล้านปอนด์ต่อฤดูกาล

    อย่างไรก็ตามหาก เอ็นโซ่ ย้ายออกจากทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ ในขณะที่ยังเหลือสัญญาอีก 6 ปี เชลซี จะต้องได้ค่าตัวที่ราว 87 ล้านปอนด์เพื่อให้คุ้มทุน เนื่องจากตัวเลขที่ต่ำกว่านี้จะมีผลอย่างมากต่อการคำนวณของ PSR แม้ว่าทีมจะได้รับอนุญาตให้เก็บเงินค่าธรรมเนียมการเข้าร่วมศึกสโมสรโลกในช่วงซัมเมอร์นี้ 30 ล้านปอนด์ด้วยก็ตาม

ปลายฤดูกาลนี้

    เอ็นโซ่ มาเรสก้า จะต้องพาทีมจบในอันดับท็อปโฟร์ให้ได้ ไม่ใช่แค่เพราะว่านั่นคือเป้าหมายขั้นต่ำของทีมในการกลับไปเล่นในศึกถ้วยใหญ่ของยุโรปอีกครั้ง แต่มันรวมถึงรายได้ที่จะเข้ามาเพื่อทำให้สโมสรสามารถมีเม็ดเงินมาใช้สำหรับเสริมทีมเพิ่มเติม

    กับอีก 7 เกมที่เหลือในฤดูกาลนี้แบ่งเป็น 4 เกมในบ้านกับ อิปสวิช, เอฟเวอร์ตัน, ลิเวอร์พูล และ แมนฯ ยูไนเต็ด บวกกับอีก 3 เกมเยือนพบกับ ฟูแล่ม, นิวคาสเซิ่ล และ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ต้องบอกว่างานหนักทีเดียว

     อีกรายรายการที่ยังมีลุ้นในเวที ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก ทีมถูกวางเป็นเต็ง 1 และเกมรอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดแรกก็จัดการถล่ม ลีเกีย วอร์ซอ มาแล้ว 3-0 คงไม่มีปัญหาในการผ่านเข้ารอบตัดเชือก

    และด้วยขุมกำลังที่มียังไงพวกเขาก็ต้องมองไปที่ตำแหน่งแชมป์เท่านั้น แต่หากไปถึงแชมป์รายการนี้ได้แต่ไม่ตยในท็อปโฟร์มันอาจจะยังไม่เพียงพอ