คุณไม่มีทางปฎิเสธ เรอัล มาดริด

    ตำนานทีมชาติเวลส์ หันหลังให้กับโลกลูกหนังด้วยวัยเพียง 33 ปี หลังจากที่กวาดถ้วยรางวัลมากมายกับ เรอัล มาดริด รวมถึงสุดยอดโทรฟี่อย่าง ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก 5 สมัย และ ลาลี กา อีก 3 สมัย  

    เบล ไม่ลังเลที่จะออกจาก พรีเมียร์ลีก เพื่อไปร่วมทีมที่ถือได้ว่ายิ่งใหญ่ที่สุดของโลกฟุตบอล ซึ่งเรื่องนี้มันกำลังเกิดขึ้นกับ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ สตาร์ของ ลิเวอร์พูล ที่ดูเหมือนว่าจะกลายเป็นสตาร์ชาวอังกฤษคนต่อไปที่จะย้ายไปอยู่ที่ มาดริด

    อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ จะไม่ใช่ผู้เล่นคนสุดท้ายที่ปลื้มปิติกับการได้รับสายจาก "โลส บลังโกส" และเมื่อมองย้อนกลับไปถึงการตัดสินใจของเขาในการไป สเปน ถือเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดในอาชีพการงานของเบล

    อดีตปีกรายนี้ออกจาก เรอัล มาดริด ในปี 2020, กลับไปอยู่กับ ท็อตแน่ม ก่อนจะยุติอาชีกับ ลอสแองเจลิส เอฟซี

    แม้จะห่างจากวงการฟุตบอลมาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เบล ก็ยังคงมีความสุขกับช่วงเวลาที่ไม่ได้ลงสนาม แต่ไม่ได้ตัดทิ้งความเป็นไปได้ในการกลับมาในอนาคต

    ในการพูดคุยกับ โมโทร ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ 'The Big Pour' ของ ไฮเนเก้น 0.0 - ชายผู้สร้างความหวาดกลัวให้กับกองหลังมากที่สุดคนหนึ่ง ได้สะท้อนถึงอาชีพของเขาสำหรับสโมสรและประเทศชาติ

ตอนนี้ผ่านมาสองปีกว่าแล้วนับตั้งแต่คุณตัดสินใจเลิกเล่นอย่างเป็นทางการ คุณสนุกกับชีวิตนอกวงการฟุตบอลอย่างไรบ้าง?

    ผมรู้เสมอมาว่าการเลิกเล่นฟุตบอลคือการปรับตัว ผมได้พูดคุยกับอดีตผู้เล่นหลายคนซึ่งให้คำแนะนำที่ดีกับผม สำหรับผมแล้วการได้ใช้เวลาที่มีคุณภาพกับครอบครัว ได้ไปลูกๆ ที่โรงเรียน และอยู่ข้างสนามในช่วงสุดสัปดาห์นั้นถือเป็นเรื่องที่ดี ทุกคนรู้ว่าตารางการแข่งขันฟุตบอลนั้นยุ่งมาก ดังนั้นการได้มีเวลาแบบนี้ในขณะที่ลูกๆ ยังเล็กจึงเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก

เมื่อคิดถึงความสำเร็จของคุณกับ เรอัล มาดริด และ เวลส์ ช่วงเวลาใดที่คุณภูมิใจที่สุด?

    เป็นเรื่องยากที่จะเลือกช่วงเวลาใดช่วงเวลาหนึ่งที่โดดเด่นกว่าช่วงเวลาอื่น แน่นอนว่าการคว้าแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นความฝันในวัยเด็ก ดังนั้นได้ถึง 5 สมัยจึงเป็นความสำเร็จที่พิเศษที่ผมจะนึกถึงอยู่เสมอ

    สำหรับเวลส์ เป็นเรื่องยากที่จะเลือกช่วงเวลาใดช่วงเวลาหนึ่ง การแข่งขันยูโร 2016 เป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต แต่การได้ผ่านเข้าไปเล่น ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ครั้งแรกในรอบ 64 ปี และการเป็นกัปตันทีมชาติก็ถือเป็นความภูมิใจของผมอย่างยิ่ง

เมื่อมองย้อนกลับไปถึงช่วงเวลาที่เรอัลมาดริดสนใจคุณเป็นครั้งแรก คุณมีปฏิกิริยาอย่างไรทันที?

    ในฐานะนักฟุตบอล คุณมักต้องการเล่นให้กับสโมสรที่ใหญ่ที่สุดและคว้าถ้วยรางวัลใหญ่ที่สุดในวงการฟุตบอล ดังนั้น เมื่อมีโอกาสที่จะได้เล่นให้กับ เรอัล มาดริด ซึ่งเป็นสโมสรที่ผมรักมาตั้งแต่เด็ก ผมจึงเป็นอะไรที่คงปฏิเสธไม่ได้

เป็นเรื่องจริงหรือเปล่าที่ผู้คนมักจะพูดว่า คุณไม่สามารถปฏิเสธ เรอัล มาดริด ได้?

    ผมไม่สามารถพูดแทนใครได้ แต่สำหรับผม เมื่อโอกาสมาถึง ผมไม่สามารถปฏิเสธได้ ผมคิดว่าทุกคนรู้ดีว่า เรอัล มาดริด เป็นสโมสรที่ผมรักมาตั้งแต่เด็ก มีรูปถ่ายของผมที่สวมเสื้อของสโมสรนี้ตอนเป็นเด็ก ดังนั้น การได้ไปเล่นที่ เบร์นาเบว จึงเป็นความฝันของผมเสมอ

คุณรู้สึกสนใจที่จะกลับมาสู่วงการฟุตบอลไม่ว่าจะเป็นในฐานะโค้ช นักวิจารณ์ หรือบทบาทอื่นๆ มันดึงดูดคุณบ้างไหม?

    สำหรับตอนนี้ผมมีความสุขกับช่วงเวลาที่ได้อยู่กับครอบครัวมาก ฟุตบอลคือชีวิตของผมมาตั้งแต่ที่ผมเดินได้ ดังนั้น ผมจึงใช้เวลาพักผ่อนบ้าง แต่คุณไม่มีทางรู้หรอกว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร