เดอะ ไทม์ส เผยว่า อัฟราม เกลเซอร์ หนึ่งในสมาชิกของตระกูลเจ้าของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประกาศขายหุ้นสโมสรจำนวน 5 ล้านหุ้น มูลค่าราว 100 ล้านดอลล่าส์ สหรัฐฯ หรือประมาณ 71.5 ล้านปอนด์
ตระกูลเกลเซอร์ซื้อกิจการสโมสร "ปีศาจแดง" เมื่อปี 2005 ด้วยเม็ดเงิน 790 ล้านปอนด์ ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาถูกมองว่าเข้ามาเพื่อกอบโกยเงินเข้ากระเป๋าสร้างความไม่พอใจให้กับบรรดาแฟนบอลอย่างมาก
อัฟราม และ โจเอล สองพี่-น้องเข้ารับการแต่งตั้งเป็นประธานร่วมหลังจากการเสียชีวิตของ มัลคอล์ม ผู้เป็นพ่อเมื่อปี 2014 และบริหารสโมสรมาตั้งแต่นั้น
ล่าสุดจากการเปิดเผยของทางนิวยอร์ค สต๊อค เอ็กซ์เชนจ์ ภายใต้สัญลักษณ์ "MANU" เผยว่าทาง อัฟราม ประกาศขายหุ้นจำนวน 5 ล้านหุ้น โดยหลังการปิดตลาดล่าสุดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาของทาง "NYSE" มูลค่าหุ้นของผีแดงอยู่ที่หุ้นละ 20.13 ดอลล่าส์ สหรัฐฯ หรือประมาณ 14.36 ปอนด์ ตีเป็นเงินที่จะได้รับที่ราว 100 ล้านดอลล่าส์ สหรัฐฯ หรือประมาณ 71.5 ล้านปอนด์
อย่างไรก็ตามจากรายงานเผยว่าเงินจำนวนนี้ที่ขายได้จะไม่เข้าสโมสรแม้แต่บาทเดียว แต่จะเข้ากระเป๋าของตระกูลเกลเซอร์ไปแทน ซึ่งการขายหุ้นครั้งนี้น่าจะมาจากการที่ทีมถูกบังคับให้ต้องกู้เงินจำนวน 60 ล้านปอนด์ เพื่อพยุงการเงินสโมสรซึ่งมีผลมาจากการระบาดของไวรัสโควิด-19
สำหรับการขายหุ้นนี้คาดว่าจะปิดในวันอังคาร ซึ่งจะทำให้หุ้นที่ถือครองอยู่ของตระกูลเกลเซอร์ลดลงจาก 78 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 74.9 เปอร์เซ็นต์
TH SPORTเว็บไซต์ข่าวกีฬา อัพเดทข่าวฟุตบอลต่างประเทศทุกวันทุกเวลา
